สวัสดีครับคุณผู้อ่านสำหรับรีวิวนี้เราได้รับตัว Smart Phone เจ๋ง ๆ มารีวิวกันให้ชมจาก OPPO ซึ่งมาในรุ่น Fine 5 Mini ก่อนหน้านี้ทาง OPPO เคยออกตัว Fine 5 รุ่นปกติ ซึ่งในรุ่น Fine 5 (Full) (ขอเรียกว่า Full ล่ะกัน) จะต่างกับ Mini ในเรื่อง Spec พอสมควรครับรวมไปถึงงาน Design ตัวเครื่องด้วย แต่สิ่งนึงที่อยากจะบอกจากตัวผู้เขียนเองสำหรับการได้จับ OPPO เป็นครั้งแรกเลยคือความประทับใจในหลาย ๆ อย่างความประทับใจอะไรนั้นเดี๋ยวจะบอกตอนสรุปให้ฟังครับ เอาว่าลองดู Spec แบบเทียบกันระหว่าง Fine 5 และ Fine 5 Mini กัน
สเปค
OPPO R1 (R827) เปิดตัวและวางขายช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ราคาเปิดตัว 8,990 บาท
สเปคเทียบระหว่าง Fine 5 (Full) และ Fine 5 Mini นั้นจะต่างกันตรงขนาดตัวเครื่อง CPU , Sensors กล้องและขนาดของแบตเตอรี่ครับซึ่งตัว Fine 5 Mini จะมีขนาดเล็กเน้นพกพาสะดวกขึ้นกว่า Fine 5 (Full)
ดีไซน์และวัสดุ
ในด้านการออกแบบตัว Fine 5 Mini นั้นทาง OPPO ดูจะเลือกใช้วัสดุค่อนข้างดีครับแม้นว่าฝาหลังจะเป็นพลาสติกแบบบางงอได้ และตัวบอดี้เป็นพลาสติกด้วยก็ตามทีแต่ค่อนข้างอยู่ในเกรดที่ดีแต่สำหรับหน้าจอนี่ยอมรับเลยว่าชัดสดใสมาก ๆ การแสดงผลที่ได้เลยออกมาดี
Fine 5 Mini ขนาดนั้นไม่ใหญ่ครับ (สมชื่อมัน) ขนาดเวลาถือจะพอดีมือและน้ำหนักค่อนข้างเบา
เวลาจับถ่ายภาพด้วยมือเดียวนั้นก็ค่อนข้างพอดีมือถนัดมือเลยทีเดียว
ด้านหลังของตัว OPPO Fine 5 Mini ตัวกล้องจะอยู่ตรงกลางพร้อม Flash กล้องความละเอียด 8MP ที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี BSI (Back-Side Illuminated) CMOS Processor นับว่าเป็น Processor ที่นิยมใช้ในกล้องถ่ายภาพดิจิทัลรุ่นใหญ่ ๆ หลายรุ่น ทำให้ภาพออกมาดูแล้วสีสันสดใสมากทีเดียวแถมภาพที่ได้นั้นสีไม่ผิดเพี้ยนเมื่อไปเทียบบนจอ Monitor เลย
แก้ฝาหลังดูตำแหน่งใส่ SIM Card มีสองจุด โดย OPPO Fine 5 Mini รองรับ 2 SIM บน 2 ระบบเครือข่ายครับ
2G Network GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 และ 3G Network HSDPA 850 / 1900 / 2100 HSDPA 850 / 1700 / 1900 / 2100 แบบ Micro SIM นั้นหมายถึงคุณผู้อ่านสามารถใส่ได้ทั้ง SIM ของค่ายผู้ให้บริการในประเทศทั้ง DTAC , True Move H , AIS ได้พร้อม ๆ กันเลยส่วนตรงกลางไว้ใส่ MicroSD Card
เวลาแกะฝาหลังจะลำบากหน่อยนึงครับต้องใช้เล็บจิก แล้วเอานิ้วกรีดขอบตัวเครื่องด้านล่างขวามือแล้วค่อย ๆ รูดงัดขึ้นลำบากพอตัว
ตัวฝาหลังเป็นพลาสติกอย่างที่บอกแต่เป็นแบบอ่อน งอให้เห็นกันเลยแต่ถ้างอมากนี่อาจจะหักได้แต่ก็ยังรับแรงการบีบงอได้พอควร
ปุ่มด้านข้างขวาเป็นปุ่ม Volume UP/Down ลดเพิ่มเสียง และเป็นปุ่มกดถ่ายภาพในตัวด้วยครับโดยใช้ในหมวดเปิดแอปกล้องตัวเครื่องแล้วกดปุ่มบวก
ส่วนด้านขวาเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง เท่าที่ผู้เขียนลองใช้งานดูในส่วนการจับใช้งานรู้สึกว่าการวางตำแหน่งปุ่มของ Fine 5 Mini ทาง OPPO ทำออกมาได้ดีอันนี้ต้องปรบมือให้เพราะในแง่ของ UX หรือประสบการณ์ในการใช้งานสำหรับผู้ใช้แล้วการวางตำแหน่งปุ่มหรือเมนูเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะบางเครื่องใน Smart Phone วางตำแหน่งปุ่มมาไม่ดีนักยิ่งเป็นเครื่องใหญ่กว่ามือนี่เลิกพูดเลยถ้าไว้ในตำแหน่งเดียวกันทั้งหมดนั้นหมายถึงว่าผู้ใช้จะหัวเสียได้ง่ายเพราะนิ้วไปแตะโดนแล้วถ้าปุ่มเป็นแบบกดแตะทีเดียวไปจบเลยเลิกคุยเลิกใช้
ลำโพงของตัวเครื่องอยู่ด้านล่างซึ่งคุณภาพเสียงดีทีเดียวและมาพร้อม Dual Speaker ด้วยเวลาดูหนังหรือเล่นเกมหรือฟังเพลงนี่เสียงดังดีครับ อย่างที่บอกเรื่อง UX ไปข้างต้นว่าถ้าการจัดวางจุดสำคัญ ๆ ดีอะไรก็ดีหมดรวมไปถึงช่อง USB อยู่ด้านล่างนีเหมาะสำหรับเวลาตั้งนอนแล้วเสียบสายชาร์ตไปด้วยบางเครื่องตัวชาร์ตอยู่ด้านข้างก็ลำบากหน่อย เวลาตั้งนอนแล้วใช้เคสแบบมีแขนแผ่นรองรับการวางกับพื้นในแนวระนาบ
ช่องเสียบแจ็คอยู่ด้านบนอันนี้คือจุดที่ดีเพราะเวลาผู้ใช้เสียบหูฟัง ฟังเพลงใส่ใหญ่จะใส่กระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าเสื้อทำให้แจ็คหูฟังจะไม่เบียดกับตัวขอบกระเป๋า
Software และ Interface
OPPO Fine 5 Mini ใช้ Color OS เอกสิทธิเฉพาะของทาง OPPO ซึ่งจะว่าไปแล้วเป็นการทำ ROM จาก Android Base มาปรับปรุงได้เรียกว่ายอดเยี่ยมมากจริง ๆ ปรับจนน่าใช้จนน่าหลงรักไปเลยเหมือนทาง OPPO เข้าใจผู้ใช้เป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร
UI ส่วนของกล้องมีลูกเล่นพอตัวครับและใช้งานง่ายด้วย
และสามารถปรับระดับความละเอียดได้แต่เสียดายว่าตัวกล้องไม่สามารถถ่ายแบบ 16:9 ได้ กล้อง Smart Phone ยุคใหม่นี่จะเป็นแบบ HD หรือ Full HD กันเยอะแล้วแต่ก็ไม่น่าเป็นอะไรเพราะทดแทนด้วยระบบประมวลผลภาพที่เรียกได้ว่าให้สีสันสุดยอดมาก ๆ เลยสำหรับ OPPO Fine 5 Mini
ระบบ Focus ภาพของทาง OPPO จะใช้การกวาดนิ้วขยับเอาเพื่อทำการ Zoom ภาพไปยังจุด Focus
การถ่ายโหมดพาโนราม่าก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกันดีตรงมี Navigator เป็นไกด์ในช่วงถ่ายภาพครับ
แต่ภาพจากการถ่าย Panorama จะแย่หน่อยอย่างในภาพตัวอย่างที่เห็นเป็นรอยต่อ ๆ กันเป็นเส้น ๆ เลยทำให้ดูไม่เนียน
ส่วนการ Zoom ภาพในตัวกล้องนั้นสุดที่ 4X ครับและ Burst ภาพได้สูงสุด 19 ภาพต่อการกดแช่ปุ่ม Shuter เพียงครั้งเดียว
ภาพจากกล้อง
ต้องขอบอกความประทับใจส่วนตัวกับภาพที่ได้จากกล้องครับสีสันสดใสมากและอาจจะลบจุดบกพร่องในแง่ของบางอย่างที่บอกไปจนมานั่งคิดได้ว่าแค่ขนาดภาพ 4:3 ก็เพียงพอแล้วกระมั๊งแต่ถ้าให้เยี่ยมยอดได้ 16:9 ก็คงได้แต่ก็เอาเท่านี้เพราะ OPPO Fine 5 Mini ทำออกมาตาม Spec ที่ไม่ได้เป็น Full HD นั้นเอง
เทสกล้องหน้า
โหมดปกติ
โหมดถ่ายภาพเนียนสวย Beauties Mode จากหน้าด้านๆ ของผู้เขียนเล่นเอาหน้าเนียนไม่ต้องลงรองแป้งไปเลย
เทสการถ่ายภาพ Video ทำมาให้ชมกัน 2 คลิป Video โดยถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืนครับ
โดยในการถ่ายกลางคืนลองยิงถ่ายไปที่ป้าย LED Full Color Display ซึ่งปกติแล้วภาพจากกล้องดิจิทัลทั่วไปจะมีคลื่นรบกวนแต่กล้องของ OPPO Fine 5 Mini เรียกได้ว่าเยี่ยมสุด ๆ ไปเลย
แถมภาพเคลื่อนไหวผู้เขียนลองทำมาให้ดูเล็กน้อยจากการทดลองใช้ Brust Mode แต่ตัดออกมาเพียงสั้นๆ 7 เฟรม โดยการถ่ายผึ้งน้อยขณะจิบน้ำหวานจากเกษรดอกกุหลาบ (ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะถ่ายตัวผึ้งในขณะที่ทำกิจกรรมส่วนตัวอยู่บนดอกไม้) และอยากให้คุณผู้อ่านดูสีที่ดอกกุหลาบครับจะเห็นได้ชัดเลยว่าการกินสีของกล้องใน OPPO Fine 5 Mini ทำได้ดีจริงๆ สีอิ่มสดใสมาก
Benchmark
คะแนนการประมวลผลทดสอบ Benchmark กับ AuTuTu Benchmark พบว่าเป็นรอง Samsung Galaxy S3 อยู่นิดๆ
ตัว OPPO Fine 5 Mini รองรับ Touch 10 จุดเลยทีเดียวและคะแนนการ Render HTML 5 ก็ไม่เลวร้ายนัก
ผลเทส 3D Mark ก็ไม่ได้แย่ครับ
การเล่นเกมกับ OPPO Fine Mini โดยเฉพาะอย่างเกม Aphalt 8 : Air Bone นั้นเล่นได้สบาย ๆ แค่ปรับกลาง ๆ ก็ลื่นมากแล้วครับ
ข้อดี
- ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่พกพาสะดวก
- วัสดุและงานประกอบค่อนข้างดี
- กล้องดีมากทำงานไว Shuter Lag น้อยถ่ายได้เร็วสีสันที่ได้ดีและตรงกับจอ Monitor เมื่อนำไปดูในเครื่อง Computer
- ระบบเสียงค่อนข้างดีให้ลำโพงมาแบบ Dual Speaker
- รองรับ 2 SIMs และรองรับ 2 ระบบในตัวเดียวกัน
- หน้าจอคมชัดสดใสดี
- ราคาไม่สูงจนเกินไป
- จากการทดสอบการใช้งานจริงพบว่าเรื่องแบตเตอรี่ค่อนข้างอึดดี
ข้อเสีย
- ฝาหลังพลาสติกอ่อนไปตอนแกะฝาหลังค่อนข้างยากลำบากเล็กน้อย
- ระบบ Theme น่าจะมีให้เลือกเยอะกว่านี้
- กล้องน่าจะถ่ายภาพได้ที่ขนาด 16:9 อย่างน้อยเป็นแบบ HD720p ก็ยังดี
สรุป
นับว่า OPPO ทำ Smart Phone อีกรุ่นออกมาได้ดีครับโดยเฉพาะเรื่องกล้องถ่ายภาพและเป็น Smart Phone ในราคาไม่ถึงหมื่นบาทที่น่าจับตาน่าใช้งานเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมตัวนึงในการนำมาใช้งานด้านการถ่ายภาพเล่น ๆ แต่ได้คุณภาพของภาพที่ค่อนข้างดีในแง่ของสีไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืนก็ออกมายอดเยี่ยม ไม่ใช่แค่นี้ในด้านการนำมาใช้เล่นเกมก็ถือว่าทำได้ดีในระดับที่ยอมรับได้ไม่ดีที่สุดแต่ก็ลื่นพอที่จะทำให้เล่นเกมไม่หงุดหงิดแล้วก็ระบบการอัพเดต Rom ที่ดีอัพเดตแก้ไขเรื่อย ๆ ทำให้ระบบ OS เสถียร ส่วนด้านการพกพาติดตัวก็ทำได้สะดวกเพราะน้ำหนักแค่ 128 กรัม ถือว่าเบา และบางพอที่จะใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงยีนส์ได้อย่างสบาย