เมื่อวันพฤหัสที่ 12 ที่ผ่านมานี้ทาง iReview.in.th ได้ไปร่วมงาน Intel Blogger Day โดยในงานนี้ทางบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญเหล่า Blogger สาย IT ไปร่วมฟังและอัพเดตข่าวสารผลิตภัณฑ์ของทาง Intel ให้เราทันเหตุการณ์ของโลก Micro Processors และนวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดที่จะออกสู่ตลาดในปี 2015 นี้จากทางอินเทลซึ่งนำโดย
คุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินรายการและกล่าวอธิบายถึงทิศทางของผลิตภัณฑ์ของ Intel ประจำปี 2015 ให้เราได้ทราบกันซึ่งผมจะสรุปให้ฟังสั้นๆ ในเฉพาะส่วนน่าสนใจจากงานครับว่ามีเทคโนโลยีอะไรเด็ดๆ ให้เราจะได้สัมผัสกันบ้างในปี 2015 และอนาคตอันใกล้นี้
หลักๆ ที่คุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ จากทางอินเทล ที่จะออกมาในปี 2015 ซึ่งหลักๆ จะเป็นทิศทางของ Micro Processors สำหรับตลาด Mobility และ Desktop รุ่นใหม่อย่าง Skylake ตัวใหม่ที่กำลังจะมาพร้อมทั้ง Intel Core M Processors รุ่นใหม่ที่กำลังทำตลาดอยู่ ณ ปัจจุบัน
ซึ่งจะว่าไปแล้วการพัฒนา Processor และ CPU ของอินเทล ณ ตอนนี้เข้าสู่ช่วง Tock (หากใครจำได้ทางอินเทลกำหนดคอนเซปส์การพัฒนาไว้เป็น “Tick-Tock“ คือช่วงหมุนวนของนาฬิกาในการผลิต Processors ของ Intel) ก็คือจะออก Processors อย่าง Generation 5 ที่มีหน่วยการผลิตที่เล็กขนาด 14 นาโนเมตร โดยจะกินไฟต่ำลงประสิทธิภาพดีขึ้นราคาประหยัดขึ้นทำให้ผู้ผลิต Hardware รายอื่นๆ ที่ซื้อ CPU จากอินเทลไปผลิตต่ออุปกรณ์ต่อสามารถผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำลงทำให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ ท่านๆ ได้อานิสงส์ตอนซื้อไปด้วยเพราะราคา Device ที่เราซื้อโดยมี CPU Intel หรือผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตรายอื่นนำชิ้นส่วนจากอินเทลมาผลิตมีราคาถูกลงทำให้เราประหยัดตังค์ในกระเป๋าไปได้สบายๆ
สำหรับ Processors รุ่นใหม่ๆ จากทางอินเทลคุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้บอกกับเราว่าทางอินเทลเน้นหนักถึงประสบการณ์ของผู้ใช้ดังนั้นใน Processors และผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ จึงทำการออกแบบที่คิดถึงลักษณะผู้ใช้ในแถบเอเชียการออกแบบจึงมาจากเอเชียเป็นส่วนใหญ่เพราะจำนวนผู้ใช้ฝั่งเอเชียมีอัตราการเติบโตในการใช้งาน PC และ Mobility Device มากขึ้นนั้นเองซึ่งในส่วนของ Mobility Device หรืออุปกรณ์พกพาอย่าง Smart Phone และ Tablet PC นั้นมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ
การออกแบบตัว Processors ก็จะเน้นหนักไปทาง Mobile Device มากขึ้นโดยปีนี้ทาง Intel จะทำการปล่อยตัว Atom Core ใหม่มาในรุ่นตระกูล X Series ซึ่งจะมี 3 รุ่นด้วยกันคือ
Atom X3 แบบ 3G SoCs Chip สำหรับตลาดระดับล่างยังคงเน้น Device ที่เป็นทั้งแบบ 32Bit / 64bit และรองรับ 2G/3G กับ LTE โดย Codename ของ Atom x3 ใหม่นี้คือ SoFIA ซึ่งเพิ่งทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในงาน Mobile World Congress 2015 (MWC2015) ที่เพิ่งผ่านพ้นไปอย่างสดๆ ร้อนๆ เลยครับสำหรับ Atom รุ่นใหม่นี้
สำหรับรุ่นล่างสุดของ Atom SoFIA คือ x3-C3130 นั้นจะมีแกนประมวลผลเพียง 2 Core CPU และรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ 2G/3G เท่านั้น
แต่สำหรับรุ่น x3-C3230RK จะเป็น Core CPU แต่รองรับแค่เครือข่าย 3G
และ x3-C3440 ตัว Top สุดของ x3 จะเป็น CPU แบบ 4 Core และรองรับสัญญาณ LTE
ส่วน X5 กับ X7 มาใน Codename : Cherry Trail จะเป็น Atom รุ่น 64bit ที่จะรองรับการทำงานกับเครือข่าย 3G และ LTE โดยเฉพาะ
ส่วนแต่ล่ะรุ่นของ x5 กับ x7 ตาม spec ตามภาพข้างต้นครับและแน่นอนว่า Atom กลุ่มใหม่นี้จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและรองรับการทำงานกับระบบปฎิบัติการทั้ง Android L version 5 64bit รุ่นใหม่ และ Windows 64bit ตั้งแต่ Windows 8 จนถึง Windows 10 ที่กำลังจะคลอดออกมากลางปีนี้
และประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก RealSense Technology จาก Intel ที่จะทำให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่ายๆ และระบบป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์อย่าง True Key (อ่านข้อมูลและเข้าไปทดลองใช้ True Key ฟรี 6 เดือนได้ที่ : https://www.truekey.com/ แต่ต้องลงทะเบียนรอไว้ก่อนครับ) ที่ใช้เทคนิคการปลดล็อคโดยการใช้ใบหน้าของผู้ใช้เองเป็นตัวปลดล็อคในการใช้งาน
และทั้ง Atom x5 และ x7 นั้นก็มี Technology RealSense , Pro WiDi กับ True Key ใส่มาให้ด้วย
และแน่นอนว่า Performance ของ Atom x7 ย่อมดีขึ้นคือ GPU แรงขึ้นทำให้เราสามารถเล่นเกม 3D บน Mobile Device ที่ใส่ Atom x7 ได้ลื่นขึ้นนั้นเอง ดูบนสไลด์ประกอบนะครับจะเห็นว่าผล Benchmark อย่าง T-Rex HD จะมีความแรงจาก Atom รุ่นก่อนถึง 2 เท่าตัวและผลทดสอบจาก 3Dmark ก็บอกไว้ว่าตัว Atom x7 แรงขึ้น 50% เลยทีเดียว
อีกหนึ่งเทคโนโลยี Chip Set แบบ SoC ที่ Intel กำลังจะทำออกมาขายและต้องร้องว้าวๆๆ อีกครั้งเพราะว่าเจ้าตัว Intel XMM 7360 Modem (อ่าน Fact Sheet ของ Intel XMM 7360 ได้ ที่นี่) ที่จะช่วยในการเข้าถึงเครือข่ายแบบไร้พรมแดนไร้สังกัดแบบ Mobility จริงๆ คือเจ้าตัว Intel XMM 7360 Modem เนี่ยมันก็คือ LTE Modem หรือหน่วยชิปเซ็ตที่ช่วยในการเชื่อมต่อเข้ากับโครงข่าย 3G/4G LTE ที่ไม่เกี่ยงว่าไปประเทศไหนแล้วจะติดปัญหาเรื่องเข้ากันได้กับโครงข่ายของประเทศนั้นเรียกได้ว่าปลดล็อคเรื่องนี้กันไปเลยและขอบอกเลยว่าเจ้า Chip Set ตัวนี้จะเข้าสู่ตลาดภายในปี 2015 นี้นี่แหละครับท่านผู้อ่าน
มาถึงเรื่องของ CPU รุ่นใหม่ๆ สำหรับช่วงการผลิต Tok นั้นคือ Intel Generation 5th ที่กำลังจะออกมา
แน่นอนว่าใน Gen 5th นี้มีการปรับปรุงการผลิตในสถาปัตกรรมและคงใช้ 3D Tri-Gate ในการผลิต Processors โดยใน Gen 5th บน Slide จะบอกการเทียบรุ่นของ Core i7 5600U กับ Core i7 4600U เดิมซึ่งเมื่อเปลี่ยนมาเป็น Gen 5th นี้จะมีหน่วยการผลิตที่เล็กลงกว่าเดิมนั้นคืออยู่ที 14 นาโนเมตรโดยเพิ่มจำนวน Transistors ไปถึง 34% และมีขนาด Die Size ที่เล็กลง 37% ผลก็คือประสิทธิภาพด้านการประมวลผลภาพ 3D ดีขึ้นไวขึ้น 22% ด้านการประมวลผลแปลงไฟล์ Video เร็วขึ้นถึง 50% (ว้าวเลยสำหรับคนทำงานงาน Video Editing) ด้านการผลิตจากผู้ผลิต Device ก็ทำได้ดีขึ้น 4% กล่าวคือประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ในหน่วยประมวลผลจะดีขึ้นตามไปด้วยอย่างเช่นพวกกลุ่ม Laptop / Notebook หรือ Hybrid Laptop ก็ตาม อีกส่วนที่น่าสนใจมากคือการกินไฟครับสำหรับ Gen 5th CPU ของ Intel ตัวใหม่นี้จะกินไฟต่ำลงทำให้ใช้งานแบตเตอร์รี่ได้ยาวนานขึ้นถึง 1.5 ชั่วโมงเลยล่ะนี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากสำหรับ Processors สำหรับ Mobility นะยังไม่ถึง Desktop ครับเพราะฝั่ง Desktop นั้นจะมี Skylake ออกมาจำหน่ายจริงๆ เห็นว่าก็คงเป็นช่วง Q2 ของปี 2015 นี้นี่แหละจ้าใครอยากอัพหรือซื้อเครื่องใหม่แรงๆ กินไฟต่ำเก็บเงินรอได้เลยไตรมาศ 2 ของปีนี้คงเป็นช่วงราวๆ ช่วงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนครับ
แต่ถ้าหากอธิบายในส่วนของ Processors ของอินเทลที่จะแบ่งแยกลงในตลาดอย่างชัดเจนก็ดูภาพประกอบล่ะกันครับกล่าวคือ Atom X Series ทั้งหมดจะอยู่ในช่วงของตลาด Smart Phone , Tablet PC ส่วน Core M Processors เองนั้นถูกส่งเข้าไปทำตลาดในส่วนของ Mobile PC อย่าง Notebook , Ultrabook และ Hybrid Laptop รวมไปถึง Small PC และขยับขึ้นมาก็เป็น Core i ครับที่จะลงสู่ตลาด Notebook ที่เน้นประสิทธิภาพสูง (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมด้านประสิทธิภาพและ Segment การแบ่งการทำตลาด Processors Intel ได้ ที่นี่)
อีกส่วนจากอินเทลครับคือ Partner ใหญ่ๆ ที่ทางอินเทลเข้าไปร่วมพัฒนาและติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ Mobile Device ต่างๆ แบบไร้สายเรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆ เลยกระแสของการชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายต่อไปคงเป็นที่นิยมมากขึ้นและราคาถูกลง
ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ทางอินเทลมอบให้กับผู้ใช้อย่างเช่นระบบ Security ที่ทางอินเทลไปร่วมพัฒนาและใส่ไว้ใน Samsung Galaxy S6 และ Galaxy S6 Edge และ LG ก็ได้รับในส่วนของการทำงานในการเชื่อมต่อการดึงรับข้อมูลจาก Smart Watch
พอกล่าวถึง Smart Watch หรือ Smart Band ปั๊ปคุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เอาของดีมาโชว์เลยครับในมือนั้นก็คือ MICA (มิก้า)
ผมได้ติดตามใน Twitter ของทางอินเทล ก็พบว่ากำลังโปรโมทตัว MICA Wearable ตัวใหม่จากทางอินเทลครับเห็นว่าตัวนี้ทำออกมาขายจริงแล้วเฉพาะในอเมริกานะดีไซน์การออกแบบสวยมากๆ เลยแต่สิ่งที่ผมนึกถึงคือทางอินเทลจะจับตลาดแฟชั่นกับเขาด้วย!! นั่งหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงกับต๊กกะใจ! http://www.intel.com/content/www/us/en/wearables/fashion-technology.html เพราะมีเว็บที่ยืนยันจริงๆ เลยว่าอินเทลลงมาทำตลาดนี้อย่างจริงจัง
ถ่ายมาให้เห็นกันชัดๆ ผมว่าสวยนะการออกแบบดีไซน์ดูดีมากนึกว่ากำไลข้อมือธรรมดาๆ
แต่เอาจริงๆ แล้วไม่ใช่กำไลข้อมือธรรมดาๆ เพราะหันมาอีกด้านเป็นหน้าจอ LED ทัชได้ด้วย
พร้อมกับ Function การทำงานแบบเบื้องต้นเท่าที่คุณฝน (เจ้าหน้าที่ทีมของอินเทล) บอกคือยังไม่มี Functions การทำงานอะไรมากมายนักซึ่ง 1.Messaging : แจ้งเตือนข้อความเข้า 2.Your Weekly Horoscope Messaging : ไว้ดูดวงประจำวันโห Feature นี่เอาใจสาวๆ กันชัดๆ 3.Calendar : แสดงผลปฎิทินและนัดหมาย 4.Time to Go : แจ้งเตือนสิ่งที่ต้องทำอาจจะเป็นการเตือนจาก Facebook Messenger 5.What’s Near Me : แจ้งเตือนหรือช่วยค้นหาว่ามีร้านอาหารหรือแหล่งช๊อปปิ้งไหนอยู่ใกล้ๆ คุณบ้าง ว่าไปดู Feature แล้วรู้สึกว่าตัว Intel MICA นั้นต้องใช้การเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G หรือ 4G ครับคือตัวมันเองนั้นสามารถใส่ SIM Card ได้ในตัวเลย คล้ายๆ กับ Samsung Galaxy Gear S หรือ LG G Watch R ประมาณนั้นล่ะครับท่านผู้อ่าน
ขอดึง Clip Unboxing ตัว Intel MICA มาให้ชมกันครับ
และ Clip Video แสดงการทำงาน (How it work) ของเจ้าตัว Intel MICA Wearable ตัวนี้จะว่าไปเราเห็น Intel ทำผลิตภัณฑ์สำหรับแฟชั่นอย่าง Wearable ออกมาแบบนี้ต่อไปคงเดาทางได้อย่างหนึ่งว่า Intel พร้อมแล้วสำหรับการรบในตลาด Wearable อย่างเป็นทางการซึ่งเจ้า Intel MICA นี้เน้นไปทางหรูหราครับส่วนราคายังไม่มีบอกนะว่าอยู่ที่กี่บาทและจำหน่ายแค่ในอเมริกาเท่านั้น
และอีกไม้เด็ดที่นำมาโชว์คือ Intel Compute Stick เจ้าตัวนี้เรียกว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เหมือนจะต่อยอดมาจาก Intel NUC เลยครับที่เด็ดดวงเลยคือขนาดเท่าพวกอุปกรณ์ Digital Sound Recorder และเสียบใช้งานแบบ Flash Drive
ถือในมือคุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด นั้นแหละครับท่านผู้อ่านเจ้าตัว Intel Compute Stick ที่ต้องบอกว่าเรียกเสียงฮือฮาในงานได้มากๆ เลยหลายคนเห็นแล้วบอกว่า “อยากได้!” พอถามราคาไปตอบว่าไม่เกิน 4,xxx บาท ห๊ะหา! ฟังไม่ผิด 4,xxx บาท ไม่น่าจะเกินนี้
การเชื่อมต่อก็ไม่มีอะไรยุ่งยากครับถ้าที่บ้านคุณผู้อ่านมี LED TV หรือ LCD TV หรือจอ Monitor Computer ที่รองรับการเชื่อมต่อ HDMI อยู่แล้วแบบ Full HDMI นะครับเสียบใช้งานได้เลย
แล้วระบบปฎิบัติการที่ใช้กับเจ้าตัว Intel® Compute Stick นี้ล่ะคืออะไรตอบครับ Windows 8.1 Bing Edition นั้นเองถ้ามองในแง่ความหลากหลายของเจ้าตัว Intel® Compute Stick นี้ล่ะก็ผมคิดว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อนำมาใช้กับการทำงานในห้องประชุมเนื่องจากเจ้าตัว Intel® Compute Stick นี้รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้ด้วยนะแล้วการควบคุมล่ะคุณก็ซื้อชุด Remote ไร้สายหรือ Keyboard แบบมี Touchpad ในตัวแบบไร้สาย 2.4G มาเสียบก็จบแล้วครับมันเหมาะเอาไว้ทำงาน Presentation หรือถ้าใช้ที่บ้านก็เอาไว้เปิด Facebook หรือนั่งเล่นเว็บดู Youtube กับดูหนังออนไลน์ก็ยังไหวแถมด้วยถ้าเอาตัวนี้ไปต่างจังหวัดไปนำเสนองานหรือสำหรับงานสัมนาจัด Workshop โชว์สไลด์สำหรับงานเก๋ๆ ก็สะดวกมากด้วยส่วนการวางจำหน่ายนั้นทางคุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปรยๆ บอกกับเราว่ามาหลังสงกรานต์ เมษายน 2558 นี้แน่นอน! โอ้ววไวแท้น่าซื้อมากๆ
[divider]
สรุปงาน
สำหรับงาน Intel Blogger Day 2015 ครั้งนี้เรียกได้ว่าเรียกเสียงฮือฮาของเหล่า Blogger ทางสายไอทีได้มากทีเดียวครับซึ่งผมก็สรุปเฉพาะสาระสำคัญที่เป็นทิศทางของเทคโนโลยีของอินเทลที่จะคลอดออกมาให้เราได้ใช้งานกันในปี 2015 นี้กับความแปลกใหม่และเทรนด์ใหม่ๆ จากอินเทลที่จะพาคุณไปข้างหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างเจ้าตัว Wareable และ Intel® Compute Stick เป็นต้นว่าไปมันก็คือ Next Gen Computing ที่อินเทลเคยบอกไว้ในปีก่อนๆ ว่า PC จะมีขนาดเล็กลงประสิทธิภาพดีขึ้นผมว่าเราเริ่มเห็นจริงแล้วล่ะ ใครสนใจเจ้าตัว Intel Compute Stick ก็เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ครับ เอาล่ะจบการรายงานสรุปเท่านี้ดีกว่าโอกาสหน้าพบกันใหม่กับเทรนด์เทคโนโลยีจากทางอินเทลครับ ขอขอบคุณ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญผมทีมงาน iReview.in.th ไปร่วมงานครั้งนี้ครับ