ถึงแม้ว่ากระแสดิจิตอลทีวีกำลังจะมาแรง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเคเบิ้ลทีวีก็ยังเป็นสิ่งคู่ควรแก่การลงทุนอยู่ (ด้วยปัจจัยหลายประการ) ทีนี้ในฐานะผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ คงจะสับสนไม่ใช่น้อย เพราะทุก ๆ เจ้าต่างก็ชูจุดเด่นของตัวเองออกมาว่าดีเลิศเลอไปเสียหมด จนบ้างครั้งเราก็สับสนอยู่เหมือนกันว่าสิ่งไหนกันนะที่เหมาะกับเราที่สุด? หรือสิ่งไหนกันนะที่คุ้มค่ามากที่สุด
ทางทีมงาน iReview.in.th ขอหยิบยกมาเปรียบเทียบเฉพาะเจ้าตลาดจำนวน 3 แบรนด์ด้วยกัน ประกอบไปด้วย TrueVisions, CTH และ GMM Z ซึ่งแต่ละเจ้านั้นต่างก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน
TrueVisions
ทรูเป็นเจ้าตลาดมีจุดเด่นที่หนังเยอะที่สุด รวมถึงหากนับซีรี่ย์แล้วก็กว่า 20 ช่อง หากนับเรื่องฟุตบอลที่ทางทรูมีก็ค่อนข้างเยอะอยู่ แต่ถ้าจะให้ชัวร์หากคุณเป็นคอบอลลีกไหน ลองตรวจสอบก่อนดีกว่าจะได้ตัดตัวเลือกง่าย ๆ แต่ถ้าอยากดูเยอะ ๆ ดูหลากหลายให้หมดทุกช่องก็จ่ายประมาณสองพันต่อเดือนจะได้สูงสุดกว่า 160 ช่องเลยทีเดียว นอกจากนี้หากใช้บริการอื่นกับทรู เช่น อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ก็จะมีโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษให้อีก
Package
สำหรับตัวแพ็กเกจเองมีค่อนข้างหลากหลาย และตอบโจทย์ลูกค้าในหลายกลุ่ม ที่มีความต้องการต่างกัน
- Happy Family เป็นแพ็กเกจเริ่มต้นที่มีราคาต่ำสุด เน้นไปที่รายการที่เป็นที่นิยมของเกาหลีและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีช่องพื้นฐาน 125 ช่อง (10 ช่อง HD) ในราคาเพียงเดือนละ 299 บาท
- Smart Family เน้นไปที่คุณภาพอีกระดับที่เพิ่มรายการสารคดีและการ์ตูนดังอาทิ Disney, Cartoon Network, Nickelodeon และรายการบันเทิงรวมถึงกีฬารวม 152 ช่อง ในราคาเดือนละ 490 บาท
- Sports Family ชื่อก็คงบอกอยู่แล้วว่าเป็นช่องกีฬาที่เยอะที่สุดในประเทศไทย และถึงแม้จะไม่มีพรีเมียร์ลีกแล้ว แต่ก็ยังมีลีกอื่น ๆ อยู่อีกเพียบรวมถึงกีฬาอย่างกอล์ฟ เทนนิส ฯลฯ รวมแล้ว 133 ช่อง (17 ช่อง HD) ในราคาเดือนละ 590 บาท
- Super Family เป็นแพ็กเกจที่เน้นสำหรับคนมีครอบครัวโดยเฉพาะ เหมาะสมกับสมาชิกทุกคนในบ้าน มีตั้งแต่ข่าว กีฬา การ์ตูน บันเทิง สารคดี ฯลฯ รวมแล้ว 166 ช่อง (33 ช่อง HD) ในราคา 899 บาท
- Gold HD ครบเครื่องเน้นคุณภาพคัดมาเฉพาะแต่รายการที่มีลิขสิทธิ์แพง และหาดูได้ยากในต่างประเทศ (ซีรี่ย์, บันเทิง, กีฬา) รวมแล้ว 170 ช่อง (39 ช่อง HD) ในราคาเดือนละ 1568.12 บาท
- Platinum HD เป็นแพ็กเกจที่รวมที่สุดของที่สุดจากทรูในทุก ๆ ช่องมารวมกันและเป็นแพ็กเกจที่คุ้มค่าเพราะมีช่อง HD เยอะที่สุดในประเทศ (สำหรับคนที่ชอบแพ็กเกจเดียวจบ) รวมแล้ว 195 ช่อง (50 ช่อง HD) ในราคาเดือนละ 2,155.15 บาท
เรียกได้ว่ามีทุกช่วงราคาให้เลือกซื้อตั้งแต่ 299-2,155.15 บาท ซึ่งก็ดีทั้งกับผู้บริโภคเองที่ไม่ต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็น รวมถึงเลือกซื้อแพ็กเกจที่เหมาะสมกับตัวเองและครอบครัวได้
กล่องรับสัญญาณ
แยกขายออกเป็น 3 ประเภทตามความต้องการของลูกค้า โดยแต่ละกล่องจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป
- HD P.V.R สั่งอัดได้ทั้งระบบ SD และ HD สามารถตั้งอัดล่วงหน้าและย้อนหลัง รวมถึงสามารถกดหยุดรายการสดได้ถึง 90 นาที และอัดรายการแบบเอชดีได้มากถึง 84 ชม. (ความจุ 500 GB)
- HD 1080i รับชมด้วยความละเอียดสูงสุด พร้อมทั้งมีช่อง HD ที่รองรับถึง 50 ช่อง
- TrueVisions Anywhere เป็นแอปฯ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้กล่อง จานดาวเทียม หรือเคเบิ้ลแต่อย่างใด เหมาะสำหรับคนที่ติดอยู่กับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา (หรืออยู่หอพัก) แต่ก็ชื่นชอบที่จะชมรายการคุณภาพไปด้วย รองรับทั้งสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต (Android หรือ iOS) และคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์
สรุป
ถึงแม้ว่าจะขาดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่หลายคนติดตาม และราคาแพ็กเกจอันเป็นที่นิยมจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ข้อดีก็คือค่อนข้างที่จะสะดวกในการชำระค่าบริการ (ทั้งระบบเก็บเงินรวมถึงช่องทาง) นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษที่หลากหลาย แพ็กเกจมีหลากหลายราคาให้ได้เลือกใช้งาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความเป็นผู้นำที่รวบรวมรายการดี ๆ มาไว้เยอะที่สุดทั้งในด้านคุณภาพและจำนวน
CTH
เน้นไปที่ฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่โดยมีพระเอกเป็นฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แล้วก็มีบุนเดสลีกา (เยอรมัน), ลีกเอิง (ฝรั่งเศส), เจลีก (ญี่ปุ่น) ,ลีก (บราซิล), แชมเปี้ยนชิพ (อังกฤษ), เอเรดิวิซี่ (ฮอลแลนด์กับรัสเซีย) ส่วนช่องหนังและซีรี่ย์โดยเฉพาะมีประมาณ 15 ช่อง
Package
สำหรับตัวแพ็กเกจเองแบ่งออกเป็น 3 ระดับ เริ่มต้นที่เดือนละ 650 บาท
- Edutainment Pack แพ็กเกจเริ่มต้นที่มีหนัง สารคดี และกีฬาทั่วไป ในราคาเดือนละ 650 บาท
- Super Premium Pack จุดเด่นอยู่ที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกครบทุกแมทช์ระบบ HD ในราคาเดือนละ 999 บาท
- Ultimate Pack แพ็กเกจที่สุดของหนัง บันเทิง และกีฬาแบบจัดเต็มทั้ง ฟุตบอล มวยปล้ำ และกีฬาดังทั่วโลก ในราคาเดือนละ 1,250 บาท
สำหรับราคาเริ่มต้นจะค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งประมาณเท่าตัว แต่ถ้าหากเจาะจงซื้อมาเพื่อดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะ ก็ตกเดือนละ 999 บาท ส่วนแพ็กเกจราคาถูกอย่าง “อีซี่ 299 แพ็กเกจ” เป็นเพียงแพ็กเกจย่อยและแพ็กเกจเสริม (ในบางตัว) ซึ่งถ้าหากจะเอามารวม ๆ กันเพื่อให้ได้ดูรายการที่หลากหลาย นอกจากจะแพงแล้วช่องส่วนใหญ่ยังซ้ำกันเกินครึ่งเสียอีก
กล่องรับสัญญาณ
ถึงแม้กล่องจะมีหลายรุ่นแต่คุณสมบัติไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ (ไม่เน้นขายกล่อง) ราคาขายขาด 1,800 บาท มีค่าติดตั้งในจุดแรกที่ 1,070 บาท ส่วนจุดถัดไปจุดละ 535 บาท
สรุป
ช่องที่เป็น HD ค่อนข้างน้อย (แต่โทรทัศน์ลูกค้าเกือบทั้งหมดล่วงหน้าไปนานแล้ว) มีบริการหลังการขายที่ติดต่อค่อนข้างยาก และคิดราคาค่าแรกเข้าที่ค่อนข้างแพง ราคาแพ็กเกจดูเหมือนจะถูกแต่รายการที่ซ้ำกันค่อนข้างมาก แต่ข้อดีก็คือมีฟุตบอลพรีเมียร์ลีกให้ดู รวมถึงยังพอมีรายการที่ผลิตเองให้ได้รับชมบ้าง
GMM Z
หรือหากเรียกแกรมมี่คงคุ้นหูคนไทยเป็นอย่างดี (ในเรื่องค่ายเพลง) เคยมีซีรี่ย์ไทยที่เคยประสบความสำเร็จอย่างฮอร์โมนฉายอยู่ ส่วนหนังและซีรี่ย์อื่นที่น่าสนใจมีประมาณ 10 ช่อง ฟุตบอลมีให้ดูบ้างประปราย บุนเดสลีกา (เยอรมัน), ลีกเอิง (ฝรั่งเศส), เจลีก (ญี่ปุ่น) ,ลีก (บราซิล), แชมเปี้ยนชิพ (อังกฤษ), เอเรดิวิซี่ (ฮอลแลนด์กับรัสเซีย) เฉพาะช่อง Z Pay TV ประมาณเกือบ 30 ช่อง (ไม่นับรวมที่ออกอากาศซ้ำกันใน HD/SD)
Package
พูดถึงแกรมมี่ต้องเน้นไปที่เพลงอย่างแน่นอน ส่วนที่รองลงมาก็จะเป็นพวกรายการวาไรตี้บันเทิงเสียส่วนใหญ่ ส่วนแพ็กเกจก็แบ่งออกเป็น
- Gold Package รายการบันเทิงที่หลากหลายพร้อมช่อง HD จำนวน 2 ช่อง ในราคาเดือนละ 199 บาท
- Premier League SD เน้นไปที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและฉายด้วยระบบความละเอียดต่ำ ในราคาเดือนละ 299 บาท
- Premier League HD เน้นไปที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและฉายด้วยระบบความละเอียดสูง ในราคาเดือนละ 449 บาท
- CTH Premier League HD ฉายฟุตบอลพรีเมียร์ลีกให้ครบทุกคู่ ส่วนช่องจะเท่ากับแพ็กเกจด้านล่าง ในราคาเดือนละ 499 บาท
- Platinum Package มีจำนวนช่องมากกว่า Gold Package และมีช่อง HD จำนวน 8 ช่อง ในราคาเดือนละ 499 บาท
ไม่แปลกที่ GMM Z จะสามารถดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้ เพราะเป็นความร่วมมือกับ CTH นอกจากนี้ยังมีการออกแพ็กเกจ “อีซี่ 299 แพ็กเกจ” ที่เหมือนกันอีกด้วย
กล่องรับสัญญาณ
มีกล่องหลายระดับให้เลือกด้วยกัน โดยส่วนใหญ่ไม่เน้นฟีเจอร์แต่จะบังคับไปที่การรับสัญญาณแบบเฉพาะ
- GMM Z mini รับสัญญาณภาพจากดาวเทียมทั้ง C Band และ KU Band รับชมได้แค่ช่อง GTH Channel, Z OKE ราคา 600 บาท
- GMM Z Smart รับสัญญาณภาพจากดาวเทียมทั้ง C Band และ KU Band รองรับแพ็กเกจ Gold Package และ Premier League SD เท่านั้น ราคา 1,200 บาท
- GMM Z HD Lite สามารถบันทึกรายการได้ รองรับไฟล์ VDO จากภายนอกแค่บางประเภท ส่วนแพ็กเกจรองรับหมด ราคา 1,590 บาท
- GMM Z HD สามารถบันทึกรายการได้ รองรับไฟล์ VDO จากภายนอกได้หลากหลายกว่า ระบบเสียง DOLBY DIGITAL 5.1 เพิ่มพอร์ต USB เป็น 2 พอร์ต ส่วนแพ็กเกจรองรับหมด ราคา 2,500 บาท
สรุป
ระบบ HD เป็นเพียงแค่ 720 ยังไม่เป็น 1080 ความหลากหลายของรายการมีน้อยมาก (รายการขายของซะส่วนใหญ่) และบางรายการก็ไม่เหมาะกับเด็กหรือครอบครัวเลย รายการส่วนใหญ่จะเน้นบันเทิงไปที่เน้นนักแสดงหรือนักร้องเสียมากกว่า เหมือนเน้นกำไรไปที่การขายกล่อง และการปรับแพ็กเกจบางครั้งอาจหมายถึงการซื้อกล่องใหม่อีกรอบ แต่ข้อดีก็คือกล่องหาซื้อได้ง่ายมากและราคาก็ถูก ส่วนแพ็กเกจก็เป็นแบบเติมเงินที่ไม่มีสัญญาผูกมัด รองรับจานดาวเทียมที่หลากหลาย และสามารถรับชมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและบุนเดสลีกาในราคาที่ไม่แพง
### หวังว่าข้อมูลจากทีมงาน จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ ###