รีวิว – Xiaomi Mi Pad “แฝดคนละฝาของ iPad Mini”

Xiaomi Mi Pad บริษัทที่ไต่เต้ามาจากที่เคยเป็นแค่นักพัฒนา ROM โม มาจนเป็นบริษัทฮาร์ดแวร์ชื่อดัง ขึ้นชื่อในเรื่องของสินค้าที่ “สเปกสูงเสียดฟ้า ราคานิดเดียว” แถมยังได้อดีตวิศวกรซอฟต์แวร์จาก Google ไปช่วยพัฒนารอมอีก สิ้นค้าที่เปิดตัวไปตอนนี้มีทั้ง Smart Phone, Tablet, TV, Smart Band, Action Camera, Router,  เครื่องชั่งน้ำหนัก, หูฟัง และในอนาคตจะเริ่มเข้ามาตีตลาด IoT ด้วย Smart Home อีกด้วย

แต่วันนี้ทาง iReview.in.th จะขอหยิบยกสินค้าอย่างหนึ่งของ Xiaomi มารีวิวให้ชมกันนั่นก็คือ Xiaomi Mi Pad ขนาด 7.9 นิ้ว ที่มาพร้อม CPU สุดแรงอย่าง Nvidia Tegra K1 และแน่นอน … ราคาถูกกว่าทุกแบรนด์

Xiaomi Mi Pad – Full Specifications

ราคาขายปัจจุบัน : 8,900 บาท หาซื้อได้ที่ mipad.in.th พร้อมอ่าน Review จากหลายสำนัก

Design

หน้าตาของ Mi Pad จะละม้ายคล้ายคลึงกับ iPad mini เพราะมีหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว สัดส่วนหน้าจอแบบ 4:3 ความละเอียด 1536 x 2048 pixels เท่า iPad mini เป๊ะ กระจกจอใช้ Corning Gorilla Glass 3 ข้างบนจะเป็นกล้องหน้าขนาด 5MP

ส่วนข้างล่างมีปุ่มมาตรฐาน Android คือ Recent Apps, Home และ Back มีไฟด้วย เล่นในที่มืดก็มองเห็น

ด้านหลังใช้วัสดุเป็นพลาสติกผิวมัน ลื่นมือไปหน่อย เป็นรอยง่าย มุมบนซ้ายเป็นกล้องหลังขนาด 8MP

ข้างล่างเป็นลำโพงแบบ Stereo ให้เสียงดังฟังชัดพอสมควร

ด้านซ้ายมีช่องใส่ microSD Card เพียงอย่างเดียว

ส่วนอีกด้านมีปุ่ม Power และ ปุ่มเพิ่ม/ลด เสียง

ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านล่างเป็นช่องเสียบ microUSB ไว้ชาร์จแบต หรือ Sync กับคอม

Camera

กล้องหลังใช้เซนเซอร์ BSI ของ Sony เก็บสีสันออกมาได้ดี กล้องหลังความละเอียด 8MP F2.0 แต่น่าเสียดายเล็กน้อยตรงที่ไม่มี Flash มาให้ด้วย

คุณภาพรูปที่ได้นั้นก็ยังไม่โอเคเท่าไหร่นัก เอาเป็นว่ากล้องเป็นจุดด้อยของ Tablet ตัวนี้เลยก็ว่าได้

ส่วนกล้องหน้าให้มา 5MP ไม่มี Auto Focus แต่มีโหมดปัดหน้าเนียนมาให้ด้วยนะ (ดีขึ้นมานิดนึง)

User Interface & Experience

อย่างที่บอกว่า Xiaomi ทำ ROM โมมาก่อน (ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำอยู่) เจ้าตัว Mi Pad นั้นได้ยัดตัว MIUI ROM (อ่านว่า “Me You I”) ซึ่งเป็น ROM ที่ทาง Xiaomi พัฒนากันมาอย่างนมนาน ตอนนี้เป็นรุ่นที่ 7 ละ โดยมีฐานเป็น Android แต่โดยรวมแทบจะไม่เหลือความเป็น Android อยู่แล้ว

หน้าตาจะคล้าย iOS มาก … เพราะจะไม่มี App Drawer และเรียง Icon แบบเดียวกัน Mi Pad เป็น Tablet ราคาไม่ถึงหมื่นที่รองรับ WiFi AC ด้วย

จากสเปกที่ใช้ CPU อย่าง Nvidia Tegra K1 ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านกราฟิคอยู่แล้ว ดังนั้นในเรื่องการเล่นเกมบอกได้เลยว่า “ไม่มีปัญหา” ไม่มีกระตุกให้เห็นอย่างแน่นอน

MIUI ROM นั้นพ่วง Service จากจีนมาด้วยอย่าง Mi Account ที่จะมีบริการอย่าง Mi Cloud, Mi Market มาให้ด้วย แต่สำหรับหลายคนที่เคยใช้ MIUI มาก็จะพอทราบว่า MIUI มี Theme ให้ใช้งานเยอะแยะมากมาย … แต่ใน Mi Pad นั้นไม่มีมาให้นะครับ

สำหรับคนชอบลองของใหม่ ๆ ก็จะมี ROM Dev แบบ Global หรือจะแบบ Beta จากจีนก็มีมาให้ แต่ต้องยอมรับก่อนว่าหากใช้ ROM Beta จากจีนจะไม่มี Google Service (พวกแอพ Play Store, Gmail, Contact) มาให้นะ … ต้องใช้ Service ของ Mi เพียงอย่างเดียว

ตอนนี้ Xiaomi พยายามจะชูเรื่องของ Service ตัวเองมาก ๆ ซึ่งในอนาคตอาจจะใช้ Mi Service เป็นหลักเลยก็เป็นได้ ตอนนี้ก็เริ่มทำไปบ้างแล้ว จนเรียกได้ว่า Google Service เองแทบจากกลายเป็นบริการเสริมและ Service เดิมของ Android ถูกทำใหม่ไปบ้าง

ด้วยความแรงมหาศาลนี้ (บวกกับ GPU อาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมแพร่หลายนัก) เลยทำให้บางแอพฯ นั้นมีอาการค้างหรือเปิดไม่ได้บาง (แต่ส่วนใหญ่ใช้งานได้ดีนะ)

ข้อดี

1. สเปกแรงเมื่อเทียบกับราคา
2. จอสวย ใช้จอความละเอียดสูง
3. ขนาดพกพาง่าย
4. รอมมีความเสถียรมาก
5. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานในการชาร์จครั้งเดียว

ข้อเสีย

1. ฝาหลังเป็นรอยง่าย
2. ไม่มีรุ่นรองรับ 3G/4G

สรุป

Xiaomi Mi Pad ถึงหน้าตาจะเหมือน iPad mini ไปหน่อย … จนบางทีโดนล้อหาว่าไปลอกเค้ามาบ้างหละ แต่ก็เป็น Tablet ราคาไม่เกินหมื่นที่สเปกแรงมาก ๆ เหมาะสำหรับคอเกมที่แท้จริง แถมมีขนาดที่พกพาง่าย หน้าจอความละเอียดสูง สวยงามทุกมุมมอง แถมงานประกอบแน่นหนาสวนทางกับราคา

แต่น่าเสียดายที่วัสดุฝาหลังเป็นรอยง่ายไปหน่อย จุดนี้หาเคสมาใส่ก็น่าจะไม่มีปัญหาแล้ว และกล้องคุณภาพยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ข้อดีที่กลบข้อเสียคือตัวรอมมีให้เล่นเยอะมาก ๆ ถ้าถามว่ามีตังไม่ถึงหมื่นซื้อ Tablet ตัวไหนดี? … นาทีนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น Mi Pad นี่แหละครับ ซื้อไปแล้วใช้งานกันยาว ๆ ได้เลย (ตอนนี้ก็ยังแรงอยู่)