ถ้าพูดเรื่องเครื่องฟอกอากาศราคาคุ้มค่าต้อง Xiaomi Mi 3H รุ่นใหม่ที่ต่อยอดมาจากรุ่น Mi 2S นอกจากราคาและยังมีเรื่องดีไซน์ ประสิทธิภาพการกรองอากาศ รวมถึงการหาเปลี่ยนไส้กรองที่ไม่ยากนัก ต่างจากแบรนด์อื่นที่ต้องหาซื้ออะไหล่ได้ลำบาก สำหรับความเปลี่ยนแปลงในรุ่นนี้ก็ไม่ได้มีอะไรต่างจากรุ่นเดิมมาก แต่ถึงอย่างไรในเมื่อมีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว ก็แทบไม่มีเหตุผลอะไรให้เราต้องซื้อรุ่นเก่าที่ตกรุ่นไปแล้ว

Xiaomi Mi 3H

เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ Mi Air Purifier 3H หรือ Xiaomi Mi 3H เปิดตัวไปประมาณเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยจะแบ่งออกเป็นรุ่น Chinese Version และ Global Version (ในไทยขายรุ่นนี้) ความแตกต่างก็มีแค่หัวปลั๊กและโซนของแอปพลิเคชัน แล้วก็หากอยากได้ประกันก็อย่าลืมซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องนะครับ

หลังแกะกล่องออกมาแล้วก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียงแค่คู่มือการใช้งานแล้วก็หัวปลั๊กแบบในภาพ ส่วนราคาก็อยู่ประมาณ 5,990 บาท แต่ซื้อจริงอาจได้ถูกกว่านี้แล้วแต่ช่วงโปรโมชัน แต่ในช่วงเขียนรีวิวก็มีเจอราคา 4,599 บาท (Shopee, Lazada) อันนี้ก็ใส่โค้ดส่วนลดได้อีก มากน้อยต่างกันไปตามแต่ละช่วงเทศกาล

ด้านบนเป็นพัดลมระบายอากาศขนาดใหญ่ (สำหรับปล่อยอากาศที่ฟอกแล้ว) ดังนั้นก็ไม่ควรเอาอะไรมาวางซ้อนบนนี้ ส่วนการดูดอากาศจะอยู่บริเวณด้านล่างโดยรอบ ซึ่งคำแนะนำการติดตั้งควรให้ห่างด้านละ 25 ซม. บางคนชอบเอาเครื่องฟอกอากาศไปติดไว้ตามซอกมุม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะจะกรองอากาศได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

ด้านหลังเป็นช่องสำหรับเปิดไส้กรองอากาศ และด้านบนก็จะเป็นเซ็นเซอร์สำหรับวัดปริมาณฝุ่น

ไส้กรองแบบไหนดีที่สุด

ตัวเครื่องฟอกอากาศของ Xiaomi สามารถใช้ไส้กรองร่วมกันได้เกือบทุกรุ่น 2H, 2S, 3H, Pro (ยกเว้นรุ่น Max) ส่วนไส้กรองที่แถมมากับ Xiaomi Mi 3H ก็จะเป็นรุ่น HEPA Class 13 ที่ดีที่สุด โดยสามารถกรองอนุภาคขนาด 0.1 ไมครอนได้ถึง 99.95% และไส้กรองทั้งหมดมีดังนี้

  • สีฟ้า เป็นไส้กรองรุ่นมาตรฐาน EPA Class 12 (Efficiency Particulate Air) ที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน
  • สีเขียว เพิ่มการป้องกันกลิ่นฉุนที่ทำให้เกิดการแสบในโพรงจมูก ป้องกันการเกิดมะเร็งปอด โดยสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นสารอันตรายที่มักแอบแฝงในสีงานพิมพ์และการสกรีนพลาสติก เหมาะกับกันสารเคมีจากสีหรือการตกแต่งบ้านใหม่
  • สีม่วง เพิ่มการกรองแบคทีเรียได้ด้วย ช่วยลดไรฝุ่นได้ด้วย เหมาะกับคนที่มีสัตว์เลี้ยงในบ้าน
  • สีเทา เป็นไส้กรองเกรดดีที่สุด (True HEPA) AKA Absolute หรือ Genuine HEPA เป็นตัวกรองที่มีประสิทธิภาพสูง เพิ่มผสมสารที่ช่วยจัดการฆ่าแบคทีเรียและไวรัส และก็มีถ่านกัมมันต์ เพิ่มคุณสมบัติเอาไว้ดูดกลิ่นได้ด้วยภายในตัว

เรื่องไส้กรองอันนี้มีของปลอมด้วย ถ้าจะซื้อมาเปลี่ยนแนะนำให้หาซื้อดี ๆ มาใช้งานจะดีกว่า (ของปลอมคงไม่มีดี) โดยจะมีชิป RFID ที่เป็นแผ่นบาง ๆ อยู่ด้านล่างเพื่อทำหน้าที่สื่อสารกับเครื่อง เพื่อบอกว่าไส้กรองอันนี้ใช้มากี่วันและเหลือกี่วัน ส่วนหนึ่งก็เอาไว้ตรวจสอบของแท้ได้ด้วย

ด้านบนเป็นเซ็นเซอร์สำหรับตรวจวัดฝุ่น แนะนำให้ทำความสะอาดตรงนี้ด้วยครับ

เชื่อมต่อง่ายผ่านแอปพลิเคชัน

ความเจ๋งของเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ มากกว่าเครื่องฟอกอากาศทั่วไปก็คือ สามารถเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันได้ทั้ง Android และ iOS ผ่านแอปพลิเคชัน Mi Home แล้วก็รองรับการใช้งานสั่งงานด้วยเสียงผ่านทาง Google Assistant, Alexa แต่ไม่รองรับ Siri สามารถใช้วัดอุณหภูมิและความชื้นในตัว

สามารถตั้งค่าเวลาการเปิด/ปิดเครื่องล่วงหน้า มีการแสดงประสิทธิภาพของไส้กรองโดยวัดจากระยะเวลาการใช้งาน โดยปกติอายุการใช้งานไส้กรองจะอยู่ที่ 146 วัน ตัวแอปพลิเคชันสามารถเลือกปรับระดับความแรงได้ตามต้องการ แต่ถ้าปรับสูงสุดอาจมีเสียงดังรบกวนเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีโหมดเงียบสำหรับกลางคืน

แต่หากผู้ใช้งานไม่สะดวกแอปพลิเคชันก็สามารถปรับได้จากตัวเครื่องเช่นกัน (ระบบสัมผัส)

การใช้งานถือว่าประทับใจดี มีหน้าจอแสดงผลง่าย ๆ ไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันก็ยังทำงานได้สมบูรณ์ 100% ตรงนี้บางทีผมก็แทบไม่ได้ปรับจากสมาร์ตโฟนเลยด้วยซ้ำ ยกเว้นแต่ว่าอยู่บนเตียงแล้วขี้เกียจเดินมาเปิด/ปิด ตัวหน้าจอเป็นตัวเลขขนาดใหญ่สามารถดูปริมาณฝุ่น, อุณหภูมิ, ความชื้นได้จากระยะไกลเลยทีเดียว

ข้อดี

  1. ราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ
  2. ฟิลเตอร์ True HEPA กรองได้มากกว่า 99.97%
  3. อ่านและวัดค่าอากาศ AQI แบบเรียลไทม์
  4. อัตราการไหลอากาศ 380 m³/h รองรับพื้นที่ 48 ตร.ม.

ข้อเสีย

  1. ราคาสูงกว่ารุ่นเก่า แต่หลายสเปกเหมือนกัน
  2. แอปพลิเคชันยังมีรวนบ้างในบางครั้ง

สรุป

ถึงแม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วเทียบกับราคาและสเปกยังไง Mi ก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับแรก แต่สำหรับคนมี Xiaomi Mi 2S รุ่นเก่าอยู่แล้วก็ไม่แนะนำให้ซื้อ Xiaomi Mi 3H เพราะมันไม่ได้แตกต่างอะไรมาก จุดเด่นที่ต่างมากที่สุดก็คืออัตราการไหลอากาศ 380 m³/h รองรับพื้นที่ 48 ตร.ม. (ของเดิม 310 m³/h, 37 ตร.ม.) เนื่องจากมีการเปลี่ยนใบพัดดูดอากาศเป็นแบบใหม่ แต่ถึงอย่างไรฟิลเตอร์ที่แถมมากับรุ่นใหม่ก็ยังคงดีกว่า

สั่งซื้อออนไลน์

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial