อุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้สำหรับ MacBook Pro หรือเครื่องแมครุ่นใหม่ทุกเครื่อง ในช่วงระหว่างคาบเกี่ยวเทคโนโลยีก็คือ USB-C Hub ที่ใช้สำหรับแปลงเพื่อใช้งานกับ USB-A รุ่นเก่า หรือดีหน่อยก็จะเพิ่มพอร์ตอื่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น HDMI, VGA, LAN, SD Card, microSD หรือจะเอาพอร์ตอะไรเพิ่มก็ว่ากันไป
Ugreen USB-C Hub 5-in-1 (50209)
ในการเลือกซื้อ Hub หากใครเน้นประหยัดหน่อยอาจจบแค่อะแดปเตอร์ USB-C > USB-A อันละไม่กี่สิบบาท แต่สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มอีกขั้น อยากใช้งานมากยิ่งขึ้นก็ต้องซื้อ 5-in-1 หรือ 7-in-1 หรือจะเอาอะไรเท่าไหร่ก็ว่ากันไป เพราะว่าพอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) ที่ให้มานั้นสารพัดประโยชน์มาก ทั้งหมดนี้สิ่งที่คุณต้องคิดเพิ่มก็มีเพียงแค่เรื่องของ
- ราคา ยิ่งแพงยิ่งได้พอร์ตเยอะ
- ขนาดและน้ำหนัก ยิ่งพอร์ตเยอะยิ่งมีขนาดและน้ำหนักที่มากขึ้น
หากคุณต้องการซื้อตัวเดียวจบ แนะนำให้ข้ามรีวิวนี้ไปเลยแล้วไปซื้อตัวที่แพงกว่านี้ แต่หากคุณเน้นการใช้งานสายกลางในราคาย่อมเยา มีพอร์ตให้ใช้งานพอประมาณหนึ่ง Ugreen USB-C Hub 5-in-1 (50209) ก็ทำออกมาได้ตอบโจทย์เลยทีเดียว สำหรับคนที่ต้องการ USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต + HDMI จำนวน 1 พอร์ต เพียงพอใช้งานทั่วไป
คุณสมบัติ
- HDMI 4K @30Hz จำนวน 1 พอร์ต
- USB 3.0 ความเร็ว 5Gbps จำนวน 3 พอร์ต
- USB-C รองรับไฟ 100W PD Charge จำนวน 1 พอร์ต
- ชิพเซ็ตของไต้หวัน (บอกทำไม – -*)
ตัวนี้เหมาะกับใคร หากพูดในจุดนักรีวิวคงเหมาะกับ MacBook 12″ มากที่สุด เนื่องจากมีพอร์ต USB-C เพียงแค่พอร์ตนี้ แต่ทั้งนี้หากคุณใช้งาน MacBook Air หรือ MacBook Pro (หรือแม้กระทั่ง Windows) ก็สามารถเอาไปใช้ได้เช่นกัน รวมถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตที่รองรับอาทิ Android หรือ iPad Pro เรียกว่าซื้อตัวเดียวเอาไปใช้งานคุ้มเลยทีเดียว
โดยรวมแล้วงานประกอบทำออกมาได้ดีพอสมควร เป็นอลูมิเนียมแบบบาง น้ำหนักเบาพกพาง่าย แต่สิ่งที่เป็นข้อเสียคงหนีไม่พ้นเรื่องการขาด VGA, SD Card, microSD, LAN ซึ่งก็ต้องแลกกับราคาที่แพง รวมถึงขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ตรงที่เราคงต้องพิจารณาแล้วว่า “เราต้องการมากน้อยแค่ไหน” แต่ส่วนตัวผมคิดว่าปริมาณเท่านี้ก็กำลังดีไม่มากไม่น้อยไป
วัสดุอลูมิเนียมเมื่อสัมผัสแล้วไม่เกิดรอยนิ้วมือ ขนาดของพอร์ตอยู่ในระดับที่ไม่แน่นไม่หลวมจนเกินไป เมื่อใช้งานแล้วไม่ร้อนจนเกินงาม (แต่ก็ยังมีอุณหภูมิอยู่บ้าง) ซื้อติดเครื่องไว้อย่างน้อยเอาไว้ต่อ HDMI แก้ขัดตอนประชุมได้เป็นอย่างดี ส่วนพอร์ต USB-C ที่เพิ่มมาสามารถจ่ายไฟให้กับโน้ตบุ๊คและอุปกรณ์เสริมได้ด้วย เผื่อเอามาใช้งานกับสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต จะได้สามารถใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด
อีกหนึ่งความเจ๋งของมันนอกเหนือจากใช้งานกับโน้ตบุ๊ค ก็คือการเอามาเชื่อมต่อกับ Android เพื่อขึ้นหน้าจอ TV ยกตัวอย่างเครื่องผมใช้ Samsung Galaxy Note 10+ อันนี้สามารถเอามาต่อเพื่อใช้งาน Samsung DeX ได้อีกด้วย เพียงแค่คุณมีจอ TV กับเมาส์และคีย์บอร์ดก็ใช้เป็นคอมพิวเตอร์ชั่วคราวได้เลย ทั้งหมดนี้เพราะว่า USB-C ก็คืออนาคตจะเอาไปทำอะไรก็สะดวก Hub ไม่ซื้อวันนี้ก็ต้องซื้อวันหน้าอยู่ดี
สุดท้ายนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อยากโปรโมทให้ เพราะว่าสินค้า Ugreen ไม่ต้องไปวัดดวงสั่งซื้อที่จีนอีกต่อไป ตอนนี้มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้วชื่อ Gadget Villa (ดูได้จากสติกเกอร์หน้ากล่อง) จะซื้อผ่าน Studio 7, JIB หรือว่า Lazada ก็ได้บริการขายแบบเดียวกัน … ถ้าซื้อจากตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้องอ่ะนะ
ข้อดี
- วัสดุงานประกอบดี
- ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
ข้อเสีย
- ราคายังค่อนข้างสูงหากเทียบ Hub ปกติ
สรุป
ขนาดเล็ก พกพาสะดวก ราคาอาจสูงไปหน่อยแต่แลกกับวัสดุและงานประกอบที่ดี สามารถเชื่อมต่อ HDMI รวมถึง USB-C PD Charge นอกเหนือจาก USB-A ธรรมดาทั่วไป หากงานที่คุณใช้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับ VGA (Projector) และ LAN ก็สามารถซื้อเอาไปใช้งานได้เลย ไม่เพียงแค่โน้ตบุ๊คแต่อุปกรณ์แท็บเล็ตและสมาร์ตโฟน ก็สามารถเอาไปใช้ได้ด้วย