รีวิว – ฟิล์มกระจกนิรภัย “Smart Touch” เพิ่มปุ่มลัดให้ไอโฟน

ฟิล์มกระจกนิรภัย “Smart Touch” หากพูดปากเปล่าคงไม่มีใครเชื่อเป็นแน่ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ฟิล์มกันรอยธรรมดา จะสามารถใช้ควบคุมระบบสัมผัสผ่านสมาร์ทโฟนของเราได้ และในวันนี้เราจะลองมาค้นพบความกระจ่างกัน ว่าปุ่มลัดมันจะมาใช้บนไอโฟนได้อย่างไร?

ฟิล์มกระจกนิรภัย “Smart Touch”

ฟิล์มกระจกนิรภัย “Smart Touch” (Tempered Glass) สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ ProMobilEZ.co.th ราคา 420 บาท และ ราคา 490 บาท สำหรับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ตามลำดับ ระบุโค้ด “IREVIEWST” ตอนกดสั่งซื้อ เพื่อรับส่วนลด 25%

ก่อนหน้านี้เคยมีโครงการใน Kicksterter เกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีสุดล้ำแบบนี้ (แต่ราคาค่อนข้างแพง) ในวันนี้ก็เริ่มมีแบรนด์อื่นที่ราคาย่อมเยากว่าผลิตตามออกมา สำหรับคุณสมบัตินั้นเหมือนกันทุกประการ คือสามารถแตะบริเวณด้านซ้ายและขวาของปุ่ม Home เพื่อใช้แทนปุ่ม “Return” และ “Confirm” ตามลำดับ

ส่วนคุณสมบัติอื่นนั้นเหมือนกับกระจก Tempered Glass ทุกประการ

• ปุ่มสัมผัสแบบพิเศษ Smart Touch
• มีความโปร่งใสสูง
• มีความแข็งแรงสูง
• ป้องกันรอยขีดร่วนในระดับ 9H
• ป้องกันการแตก
• เคลือบสารที่ทำให้สัมผัสได้ลื่นนิ้ว

เคล็ดลับของ Smart Touch ก็คือการนำสื่อ (ไฟฟ้า) จากนิ้วมือของเราที่อยู่บริเวณด้านล่าง ให้ไปสัมผัสยังบริเวณด้านบน (ผู้ผลิตเรียกมันว่า “Smart Chip” และ “Intelligent Return Key” นั่นเอง) หากใครยังสับสนแนะนำให้เลื่อนจอไปดูภาพแรก

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย ฟิล์มกระจกนิรภัย, แผ่นแอลกอฮอล์, ผ้าเช็ดหน้าจอ, แผ่นสำหรับดึงฝุ่น ครบชนิดที่ว่าพร้อมติดเลย

หลายคนอาจกังวลว่าจะติดตั้งเองได้หรือไม่? บอกเลยครับว่าไม่ยากสำหรับคนติดตั้งครั้งแรก ซึ่งฟิล์มกระจกนิรภัยจะแตกต่างจากฟิล์มกันรอยทั่วไป ตรงที่ไม่ต้องไล่ฟองอากาศให้ยุ่งยาก

ส่วนตัวผมเองไม่ได้เป็นมืออาชีพในการติดฟิล์มอะไร ก็เป็นเพียงคนธรรมดาเดินดินเหมือนกับคนทั่วไป แต่ก็ไม่ได้รู้สึกลังเลเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้อยู่แล้วว่าฟิล์มกระจกนิรภัยติดค่อนข้างง่าย

เปรียบเทียบกับฟิล์มนิรภัยแผ่นเก่า (สีดำ) ที่ลอกออกมา ความหนาแทบไม่ได้แตกต่างกันมาก ดังนั้นฟันธงได้เลยว่ามันไม่ได้หนาเป็นพิเศษจนมีปัญหากับเคส

แรกเริ่มให้เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าที่แถมมา ถูให้สะอาดพอปลอดฝุ่นโดยประมาณโดยอาจใช้แผ่นแอลกอฮอล์ที่แถมมาร่วมด้วยก็ได้ (กรณีที่หน้าจอค่อนข้างสกปรก)

จากนั้นใช้แผ่นดึงฝุ่นที่แถมมาเก็บฝุ่นให้เรียบทั้งหน้าจอ ที่สำคัญคือพยายามอยู่ในห้องที่ไม่มีลมพัดจะดีที่สุด

ตามด้วยดึงฝุ่นด้วยแผ่นขนาดเล็ก เก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย จนมั่นใจว่าเครื่องไร้ฝุ่นจริง ๆ

จากนั้นจึงค่อย ๆ วางฟิล์มกระจกนิรภัย โดยวัดระยะจากทั้งสองด้าน เล็งที่บริเวณลำโพงสนทนาและปุ่ม Home เป็นที่ตั้ง

แตะจากบริเวณกลางหน้าจอแล้วค่อย ๆ ไล่ฟองอากาศทั้งด้านบนและด้านล่าง (อันที่จริงไม่ต้องไล่ก็ได้มันเป็นเอง)

ติดเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับคนที่กำลังลังเลว่าจะใช้กับ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ได้ไหม? ตรงนี้เนื่องจากผมไม่มีเครื่องเลยให้คำตอบชัดเจนไม่ได้ แต่ด้วยประสบการณ์คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ

ปุ่มพิเศษสองด้านที่เพิ่มเข้ามาสร้างความสะดวกสบายให้ชีวิตค่อนข้างมาก (ที่สำคัญคือมันแปลก) แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชันที่ใช้ด้วยว่ามีการวาง UI เป็นอย่างไร แต่ส่วนมากแล้วใช้ได้เกือบทุก App ครับ อันด้านบนเป็น Safari ถ้าแตะบริเวณด้านซ้ายจะเป็นการเปลี่ยนเป็น Reader View ส่วนด้านขวาจะเป็น Refresh นั่นเอง (อธิบายค่อนข้างยากต้องให้ลองเอง)

สำหรับการใช้งานก็ตามคลิปด้านบนครับ (ขออภัยที่เสียงและวิดีโอไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ส่วนคลิปด้านล่างจะเป็นการใช้งานของทางต่างประเทศครับ

ข้อดี

1. แปลกไม่เหมือนใคร
2. กันรอยขีดข่วนและแรงกระแทกได้ดี
3. ราคาไม่สูงจนเกินไป

ข้อเสีย

1. ต้องปรับพฤติกรรมใช้งานใหม่
2. ระบบสัมผัสยังไม่ค่อยแม่นเท่าที่ควร

สรุป

ใช้งานครั้งแรกบอกเลยว่ารู้สึก ว้าว! แทบจะเดินอวดคนทั่วออฟฟิศ แต่หาโอกาสใช้จริงก็ต้องปรับตัวพอสมควร กว่าจะพอทราบได้ว่ากดบนแอปฯ ไหนแล้วจะเจออะไร (แต่พอชินก็ใช้ได้เร็วขึ้น) เรื่องระบบสัมผัสยังมีเพี๊ยนบ้างในบางครั้ง (โดยเฉพาะบริเวณด้านบน) แต่ถ้าหากคุณเป็นคนติดเล่นเกมหรือใช้งานโหด ควรหลีกเลี่ยงไปใช้ฟิล์มธรรมดาทั่วไปครับ

ขอขอบคุณ : ProMobilEZ.co.th ที่เอิ้อเฟื้ออุปกรณ์ หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวสามารถสั่งซื้อได้ ที่นี่
ระบุโค้ด “IREVIEWST” ตอนกดสั่งซื้อ เพื่อรับส่วนลด 25%