รีวิว – SIM Open “ซิมโอเพ่น แพ็คสุดโอ”

SIM Open “ซิมโอเพ่น” เครือข่าย MVNO น้องใหม่ล่าสุดจาก i-mobile ให้บริการผ่านภายใต้สัมปทานจาก CAT Telecom บนความถี่ 850 MHz (เสาเดียวกับทรู) ใช้งานได้ทั่วไทย โดยมีจุดเด่นที่โปรโมชั่นราคาถูกกว่า 3 เครือข่ายหลัก (AIS, Dtac, Truemove H) แถมไม่ต้องกลัวเน็ตรั่วเพราะจ่ายยังไงก็ไม่เกินวันละ 20 บาท

SIM Open

ซิมโอเพ่น ราคา 49 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ส่วนเติมงานก็สามารถทำได้ตาม 7-Eleven, Tesco Lotus, ตู้บุญเติม หรือแม้กระทั่งช่องทาง Internet Banking นอกจากนี้ยังมีบัตรเติมเงินจำหน่าย กด *900*รหัสบัตร# ถือว่าค่อนข้างสะดวกพอตัว

แพ็คเกจซิมโอเพ่น

ตอนนี้ยังมีเพียงแต่แบบเติมเงินเท่านั้น (ไม่มีรายเดือน) โดยแบ่งออกเป็น “โปรโมชั่นหลัก” และ “โปรโมชั่นเสริม” ส่วนเครื่องที่ซื้อพร้อม i-mobile บางรุ่นก็จะมีโบนัสแถมให้ด้วยเช่นกัน

• โปรโมชั่นหลัก
  • โทรทุกเครือข่าย 1 สต./วินาที
  • 3G ความเร็วสูงสุด 42 Mbps ในราคา 25 สต./MB
  • คิดค่าบริการ 3G คิดตามจริง แต่ไม่เกิน 20 บาท (80 MB)
  • หลังจาก 80 MB จะติด FUP เหลือความเร็วสูงสุด 1 Mbps
• โปรโมชั่นเสริม
  • 3G ความเร็วสูงสุด 1 Mbps
  • รายสัปดาห์ 100 บาท ใช้งานได้ 7 วัน กด *222*1*2# โทรออก
  • รายเดือน 300 บาท ใช้งานได้ 30 วัน กด *222*1*3# โทรออก

ก็ถือว่าค่อนข้างแฟร์ต่อผู้บริโภคดี สำหรับคนใช้น้อย เช่น เอาเป็นเพียงแค่ GPS ติดรถยนต์ (แบบใช้แผนที่ Offline) จะค่อนข้างประหยัดมาก หรือหากใช้งานหนักทั้งเดือนก็ตกแค่วันละ 10 บาท

วิธีเติมเงินซิมโอเพ่น

เติมเงินออนไลน์ เริ่มต้นที่ 10 บาท ได้ที่ ตู้เติมเงินบุญเติม บัตรเติมเงิน เริ่มต้นที่ 50 บาท ได้ที่ ร้านจำหน่ายมือถือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ นอกจากนี้ก็มีเติมเงินผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Tesco Lotus, ฯลฯ

ซิมโอเพ่นหากว่ากันตามตรงแล้วน่าจะเป็นคู่แข่งกับ ซิมแพนกวิน ที่เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ (แต่หลายคนเลิกใช้ไปเนื่องจากโปรโมชั่นใหม่ที่อาจแพงไปนิด) หากใครมาเปลี่ยนเป็นซิมโอเพ่นคงต้องรีบตอนนี้เลย เพราะอนาคตก็ไม่มีใครการันตีได้ถึงโปรโมชั่นเช่นเดียวกัน

SIM Open ตัดออกมาให้พร้อมสำหรับใช้งานทุกขนาด ตามกฎหมายแล้วซิมการ์ดทุกใบต้องลงทะเบียน แต่สำหรับคนที่ลืมลงทะเบียนวิธีที่ง่ายสุดคือถ่ายซิมและสำเนาบัตรประชาชน ส่งไปที่ Fanpage เพียงไม่กี่นาทีก็พร้อมใช้งาน

ทดสอบความเร็วเน็ต

ความเร็วที่ได้ผ่านการทดสอบด้วย nPerf ความเร็ว Download 1.28 Mbps (เกินกว่าสเปคมา 20%) ความเร็ว Upload 1.05 Mbps สามารถใช้ดู YouTube ได้อย่างไม่มีกระตุก แถมยังแรงกว่าพวก 4G/3G ของเครือข่ายหลักที่ติด FUP ซึ่งส่วนมากจะให้กันไม่เกิน 384 Kbps ส่วนวิธีการเช็คเงินก็สามารถทำได้ผ่าน *153# โทรออก

ข้อดี

1. ราคาถูกทั้งโทรและเน็ต
2. เน็ตแรงดี (กว่า) ที่โฆษณา
3. ช่องทางเติมเงินเยอะ

ข้อเสีย

1. สมาร์ทโฟนบางรุ่นไม่รองรับ (น้อยมาก)
2. ไม่มีหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันให้เช็คเงิน

สรุป

สำหรับคนที่ใช้เน็ตเยอะ หรือเด็กหอที่ใช้แทนเน็ต ADSL ด้วยความเร็วเท่านี้ตกเดือนละ 300 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากเพราะสมัยก่อนความเร็วเน็ตบ้าน 1 Mbps ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน และสำหรับคนใช้งานน้อย (มาก) ก็คุ้มเช่นเดียวกัน เพราะสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 20 บาท แถมวันไหนไม่ได้ใช้งานก็ไม่ต้องจ่าย