มีมาให้รีวิวกันเป็นระยะสำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาด หากใครพอจำได้หลังจากที่ได้ รีวิว – Robotto ProBot “หุ่นยนต์ทำความสะอาดราคาเบา” ไปเรียบร้อยแล้ว อาจไม่ตรงใจสำหรับคนที่อยากได้หุ่นยนต์ที่ไฮเทคขึ้นอีก คราวนี้เราลองมาดูรุ่นสูงที่สุดของ Robotto ที่ชื่อว่า EvoBot กันครับ
Robotto (โรบอทโตะ) เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดอีกแบรนด์หนึ่งที่มีหน้าตาดูดี รวมถึงราคาที่ไม่แพงมากและมีมาตรฐานบริการหลังการขาย คุณสามารถซื้ออะไหล่เพิ่มเติมได้โดยที่ไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ อุปกรณ์เสริม Robotto ProBot ในราคาถูก
คุณสมบัติ
- ทำความสะอาดปัดฝุ่น, ดูดฝุ่นและถูพื้นในเวลาเดียวกัน
- โปรแกรมทำความสะอาดอัตโนมัติ 5 โหมด
- เซ็นเซอร์อัจฉริยะ Anti-Cliff ป้องกันการตกจากที่สูงหรือพื้นต่างระดับ
- เซ็นเซอร์อัจฉริยะ Ultrasonic ป้องกันการกระแทกด้านหน้า ก่อนชนโดยอัตโนมัติ
- ระบบ Auto-Charging วิ่งไปชาร์จไฟตัวเองโดยอัตโนมัติ
- ระบบ Virtual Wall กั้นพื้นที่ได้ตามต้องการ
- สามารถใช้รีโมทคอนโทรลในการสั่งงาน
- ตั้งเวลาการทำความสะอาดเองโดยอัตโนมัติ
- ทำความสะอาดได้มากกว่า ฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบ Ultraviolet Light
- ตัวกรองฝุ่น HEPA filter
- แบตเตอรี่ 2,200 มิลลิแอมป์ เหมาะกับการทำความสะอาดห้องขนาด 60-80 ตารางเมตร
- น้ำหนัก 3.7 กิโลกรัม
สิ่งที่แตกต่างไปอย่างได้ชัดทางกายภาพเมื่อเทียบกับ ProBot ก็คือ น้ำหนักของ EvoBot เยอะกว่ามากและมีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า (สมราคา) ส่วนเรื่องระบบหลัก ๆ ก็คือ EvoBot มีเซ็นเซอร์ Ultrasonic ที่จะตรวจสอบวัตถุด้านหน้าก่อนชน แตกต่างจาก ProBot ที่ต้องชนก่อนถึงจะเปลี่ยนทิศทาง
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- Robotto รุ่น EvoBot สีขาว
- แปรงปัดฝุ่น 2 ชิ้น
- แผ่นกรองฝุ่นในเครื่อง 1 แผ่น
- ผ้าทำความสะอาดแบบซักได้ 1 แผ่น
- อุปกรณ์ชาร์จ
- แท่นชาร์จอัตโนมัติ
- กำแพงจำกัดพื้นที่ (Virtual Wall)
- แบตเตอรี่ 2,200 มิลลิแอมป์
- รีโมทคอนโทรล
- คู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกันสินค้า 1 ปี
สำหรับอุปกรณ์เสริมของ EvoBot ก็ค่อนข้างเยอะจุใจเลยทันที ที่น่าสนใจก็เป็น Virtual Wall ในการกันพื้นที่ไม่ให้หุ่นยนต์ของเราไปในที่ ๆ ไม่ต้องการ (อาจเป็นบ้านสัตว์เลี้ยง หรือเป็นพื้นที่ ๆ ไม่ต้องการให้เลยออกไป)
กระบวนการทำงานของอุปกรณ์ค่อนข้างคล้ายกันกับ ProBot คือใช้แปรงสองข้างปัดฝุ่นเข้ามา และใช้แรงดูดตรงกลางดูดเข้าไป แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแปรงบริเวณตรงกลาง ซึ่งจะช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างสะอาดมากยิ่งขึ้น
และถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์ Ultrasonic เพื่อตรวจจับวัตถุก่อนชนก็ตาม แต่ก็ยังมีกันชนแบบ Sensitive Bumper คอยป้องกันอีกทีหนึ่ง (กันเหนียวนั่นเอง)
แบตเตอรี่ของ EvoBot มีขนาดค่อนข้างใหญ่ 2,200 มิลลิแอมป์ ใช้งานได้ครั้งละ 80-90 นาที
ผ้าตรงนี้สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ หรืออาจเลือกใช้ผ้าเปียกแบบเช็ดแล้วทิ้ง (ของ Scott มีขายเป็นกล่องอยู่) EvoBot มีโปรแกรมทำความสะอาดอัตโนมัติ 5 โหมด
- Spiral Mode ที่จะทำความสะอาดเฉพาะจุด
- Along The Wall Mode ที่จะทำความสะอาดตามขอบห้อง
- S-shape Mode ที่จะทำความสะอาดเป็นรูปแบบตัว S
- Polygonal Mode ที่จะทำความสะอาดรูป 5 เหลี่ยม
- Random Mode ที่จะทำความสะอาดภายในห้องอย่าง
ทั่วถึง
โดยโหมดทั้งหมดสามารถสั่งงานได้ด้วยรีโมทในระยะไม่เกิน 10 เมตรครับ
ตัวเครื่องสามารถตั้งเวลาทำความสะอาดได้ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน และเมื่อทำความสะอาดเสร็จหุ่นยนต์ก็จะกลับไปแท่นชาร์จโดยอัตโนมัติ สะดวกดี
การชาร์จแบตเตอรี่สามารถเลือกชาร์จกับเครื่องหรือแท่นชาร์จอัตโนมัติก็ได้ (แต่แนะนำเป็นอย่างหลังจะสะดวกมากกว่า)
หน้าตาของเจ้าแท่นเครื่องชาร์จอัตโนมัติ พร้อมตารางการทำงานของเครื่องที่สามารถตั้งเวลาได้ด้วยอีกต่างหาก สะดวกสุดยอด
ทดสอบใช้งานไปพอแบตเตอรี่หมด EvoBot ก็จะไปชาร์จตัวเองโดยอัตโนมัติแบบนี้ หรืออาจกดสั่งผ่านรีโมทให้มันไปชาร์จก็ได้ครับ
ส่วนอุปกรณ์หน้าตาปริศนาชิ้นนี้คือกำแพงจำลอง (Virtual Wall) จะมีปุ่มให้เปิดเพื่อให้เซ็นเซอร์ทำงานในการจำกัดพื้นที่ของ EvoBot เสมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นอยู่ เจ้าเครื่องนี้ก็ต้องชาร์จแบตเตอรี่ด้วยนะ (แต่เป็นนาน ๆ ครั้ง)
ถังสำหรับเก็บฝุ่นของ EvoBot ขนาดใหญ่ พร้อมตัวกรองฝุ่น HEPA filter สำหรับใช้ดักฝุ่นและเชื้อโรค นอกจากนี้ยังมีฆ่าเชื้อโรคด้วย Ultraviolet Light ที่มีอายุการใช้งานถึง 6,000 ชั่วโมง
เพื่อให้เห็นภาพการทำงานของเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Ultrasonic ที่ตรวจจับวัตถุก่อนชน และกำแพงจำกัดพื้นที่ (Virtual Wall) ลองดูได้จากวีดีโอด้านบนครับ
หลังจากนั้นลองทดสอบด้วยการกวาดบ้านและถูพื้นไปหนึ่งรอบ จากนั้นจึงปล่อยให้ EvoBot ทำงานซักไม่กี่นาที (ตามคลิปด้านบน) จะเห็นได้ว่าพื้นที่เราคิดว่าสะอาดแต่ที่จริงแล้วยังมีเศษผมและเศษฝุ่นอยู่มากมาย (ถึงแม้ว่าเราจะกวาดแล้วก็ตาม) นี่ขนาดพื้นกระเบื้องเรียบ ๆ นะครับ ถ้าหากเป็นพื้นไม้หรือพรมจะขนาดไหน?
Robotto ProBot ราคาอยู่ที่ 9,900 บาท สั่งซื้อได้ที่ RobottoThailand หรือ Fanpage แต่ถ้าอยากไปสัมผัสตัวจริงก็เจอได้ที่ห้างเซนทรัลแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าสาขาชิดลม, ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า
ข้อดี
- ระบบชาร์จอัตโนมัติ (Auto-Charging)
- เซ็นเซอร์ตรวจวัตถุก่อนชน (Ultrasonic Sensor)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการตก (Anti-Cliff Sensor)
- กำแพงจำกัดพื้นที่ (Virtual Wall)
- ระบบถูพื้นภายในเครื่อง
- มีอะไหล่เสริมและบริการหลังการขายติดต่อง่าย
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ตัวเครื่องค่อนข้างใหญ่ เข้าใต้เตียงลำบาก
สรุป
ถึงแม้จะราคาสูงไปนิด แต่แลกกับเซ็นเซอร์ตรวจวัตถุก่อนชน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ของเราไม่เป็นรอย นอกจากนี้ยังมีกำแพงจำกัดพื้นที่ ช่วยอำนวยความสะดวกในการจำกัดพื้นที่การใช้งาน สามารถทำหน้าที่ทำความสะอาดได้เป็นอย่างดีกว่ารุ่นอื่น และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ตัวเองรวมถึงตั้งเวลาการทำงานได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย เรียกได้ว่ามาครบทุกฟีเจอร์โดยสมบูรณ์จนคุณไม่ต้องทำอะไรเลยแม้กระทั่งสั่งงาน (ยกเว้นแกะกล่องเอาฝุ่นไปเททิ้ง)
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial