สำหรับ Windows Phone ในวินาทีนี้คงต้องยกให้กับ Nokia ผู้ซึ่งครองตลาดอยู่ในขณะนี้ (โดยมี Microsoft สนับสนุนอีกทีหนึ่ง) สำหรับวันนี้เราจะมีรีวิวน้องเล็กในตระกูล Windows Phone ซึ่งมีราคาถูกที่สุดในตลาดตอนนี้อย่าง “Lumia 520” ว่าแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มเปิดหน้าต่างบานใหม่ไปกับ Nokia และ Windows Phone กันเลยครับ

Review_Nokia-Lumia-520 (1)

Nokia Lumia 520 เปิดตัวที่ราคา 5,850 บาท (ตอนนี้ราคาปรับลงเหลือ 4,690 บาท – 13/03/57)

Review_Nokia-Lumia-520 (2)

สเปคของ Nokia Lumia 520

ตัวนี้มาพร้อมกับสเปคที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ทั้งที่มีราคาพอ ๆ กับฟีเจอร์โฟนแท้ ๆ วัสดุเป็นพลาสติกทั้งเครื่องแต่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงาม ด้านฝาหลังสามารถแกะออกได้และครอบคลุมไปถึงด้านข้าง

สเปคตัวเครื่อง

  • ขนาด: 119.9 X 64 X 9.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 124 กรัม
  • ขนาดหน้าจอ: 4 นิ้ว IPS ผลิตด้วยกระจกแข็งพิเศษ
  • ความละเอียด: WVGA (800 x 480), 235 ppi
  • แบตเตอรี่: 1430 mAh

ระบบและหน่วยความจำ

  • หน่วยประมวลผล: Dual-core 1 GHz Snapdragon™ S4
  • ระบบปฎิบัติการ: Windows Phone 8
  • ซิมการ์ด: MicroSIM
  • หน่วยความจำในตัว: 8 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 64 GB
  • แรม: 512 MB

ระบบการเชื่อมต่อ

  • หัวต่อสำหรับชาร์จ: ช่องต่อสำหรับชาร์จ Micro-USB
  • หัวต่อ AV: ช่องต่อสัญญาณเสียงขนาด 3.5 มม.
  • หัวต่อของระบบ: ช่องต่อ Micro-USB-B
  • USB: USB 2.0
  • Bluetooth: Bluetooth 3.0
  • Wi-Fi: WLAN IEEE 802.11 b/g/n

กล้อง

  • กล้องความละเอียด: 5 ล้านพิกเซล (ไม่มีแฟลช, ไม่มีกล้องหน้า)
  • ความละเอียดของกล้องวิดีโอ: 720p
  • รูปแบบไฟล์การบันทึกวิดีโอ: MP4/H.264

Review_Nokia-Lumia-520 (3)

ฝาหลังของ Nokia มีจำหน่ายแยกในราคาไม่กี่ร้อยบาท (ขาว, แดง, ฟ้า, เหลือง) เป็นลักษณะพลาสติกด้านสามารถทำความสะอาดได้ง่าย รุ่นนี้ไม่จำเป็นต้องใส่เคสก็ได้ครับ เพราะ Nokia ขึ้นชื่อเรื่องความอึดอยู่กับคนไทยมาช้านาน หากใครเยินมาก ๆ ก็แค่เปลี่ยนฝาหลังก็เหมือนใหม่แล้ว

Review_Nokia-Lumia-520 (4)

แบตเตอรี่ด้านหลังสามารถถอดเปลี่ยนได้ ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนอะไหล่ในกรณีที่อยากใช้งานยาว ๆ ตรงจุดนี้ผมมองว่าคนที่ซื้อมือถือยังคงมีกลุ่มที่ “ใช้มันเป็นแค่มือถือ” อยู่มาก (ไม่ได้หวังอะไรใช้แค่สนทนา) และทาง Nokia ก็ตอบโจทย์ได้ดีในด้านราคา แถมยังได้ฟีเจอร์พ่วงมาอีกด้วย

Review_Nokia-Lumia-520 (5)

Windows Phone คืออะไร?

หลายคนที่เป็นมือใหม่อาจจะสงสัยในเรื่องนี้ แต่ Windows Phone ก็คือระบบปฏิบัติการบนมือถือ (ตอนนี้คู่แข่งคือ iOS, Android) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่อนข้างสูง จุดเด่นอยู่ที่ความเสถียรและ Microsoft Service ไม่ว่าจะเป็น Office, Outlook, Calendar, Skype, OneDrive ที่พัฒนาโดย Microsoft โดยตรง (เน้นไปที่ความปลอดภัย) และที่สำคัญต่อให้เป็นเครื่องสเปคต่ำอย่าง Lumia 520 ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่

Windows Phone แตกต่างจาก Windows XP, Vista, 7, 8 โดยสิ้นเชิงเพราะถูกออกแบบมาสำหรับคนละอุปกรณ์กัน ดังนั้นเราจะไม่เอาไปรวมกันเพราะมือใหม่หลายคนจะยังสัปสนอยู่

สำหรับการอัพเดทก็มีอยู่เรื่อย ๆ ถึงแม้จะไม่ค่อยถี่นัก และเชื่อว่าระบบนี้จะยังอยู่ในตลาดอีกนาน เพราะ Microsoft เงินทุนค่อนข้างหนาและไม่ยอมทิ้งส่วนแบ่งในตลาดเป็นแน่แท้ … หากคุณเบื่อทั้ง iOS และ Android ขอให้ลองจับ Windows Phone อย่างจริงจังดูซักเครื่องครับ (เริ่มต้นด้วยเครื่องที่ไม่แพงมากอย่าง Lumia 520 ก็ได้) รับรองว่าจะได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ มาสัมผัสอย่างแน่นอน

Review_Nokia-Lumia-520 (6)

Here Drive Beta | แผนที่ฟรี ๆ จาก Nokia

หากจะให้กล่าวอย่างละเอียดก็คงจะยาวหลายบทความเป็นแน่แท้ แต่ถ้าให้อธิบายจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมจะสรุปให้คร่าว ๆ แล้วกันนะครับ ทันทีที่คุณซื้อ Lumia สิ่งที่คุณจะได้ 2 อย่างทันทีก็คือ Service Microsoft และ Service Nokia

อย่างภาพด้านบนก็จะเป็น Here Drive Beta ที่เป็นแผนที่จาก Nokia โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว มีความสามารถที่หลากหลาย (ขนาดเป็นแค่รุ่น Beta ยังดีขนาดนี้ ถ้าเป็น Final จะดีขนาดไหน) ซื้อมือถือเหมือนได้ GPS ติดรถยนต์

Review_Nokia-Lumia-520 (7)

Creative Studio, Smartshoot, Cinemagraph | สร้างสรรค์ประสบการณ์จากภาพถ่าย

เพราะการถ่ายภาพไม่ได้จบที่ตอนลั่นชัตเตอร์ ภาพที่ได้สามารถเอามาใส่ฟิลเตอร์ต่อด้วย Creative Studio ได้ (ส่วนตัวว่ามันสวยกว่า Instagram เสียอีก) และนอกจากนี้ก็ยังมี App สำหรับแต่งภาพอย่าง Smartshoot, Cinemagraph เอามาบริการให้กับ Lumia ทุกเครื่องอย่างฟรี ๆ อีกด้วย

Review_Nokia-Lumia-520 (8)

Here Map | ย่อแผนทีทั้งโลกไว้ในมือคุณ

คล้าย ๆ กับ Here Drive Beta ต่างกันที่ตัวนั้นไว้นำทาง ส่วน Here Map เอาไว้ดูแผนที่สามารถค้นหาได้ทั่วโลก ดูสภาพการจราจร ฯลฯ และก็เหมือนเดิมฟรีสำหรับลูกค้า Lumia เช่นกัน และที่สำคัญสามารถ Download มาเป็น Offline Map ได้ด้วย

Review_Nokia-Lumia-520 (9)

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ Windows Phone ที่ผมชื่นชอบคือ E-mail ทำการ Push ไวมาก ๆ หากให้เรียงลำดับก็จะเป็น Windows Phone > iOS > Android และยังสามารถตั้งค่า E-mail ได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่คลิก จัดการและใช้งานง่ายด้วยครับ

Review_Nokia-Lumia-520 (10)

ปฏิทินปกติผมจะให้มันลิงค์กับ Outlook เอาไว้เลย ก็สามารถจัดการตารางนัดได้ง่ายและสะดวกมาก ๆ ครับ อันนี้ชอบมากกว่าของ iOS เสียอีกเพราะมันสามารถเตือนเราได้ที่หน้าจอปลดล็อค (ย้ำว่าอย่างสวยงาม) ว่าวันนี้เรามีกิจกรรมอะไรตอนกี่โมง ไม่ใช่แค่ Pop-up เด้งเตือนเฉย ๆ

Review_Nokia-Lumia-520 (11)

ระบบจัดการรายชื่อ (People) ใน Windows Phone ฉลาดกว่าทุก OS ตรงที่ว่าสามารถรวบรวมรายชื่อและลิงค์ได้ทั้ง Contact, Facebook, Twitter ยกตัวอย่างเช่นเพื่อนมี Facebook และ Twitter จำนวนอย่างละ 2 Account มันก็จะสามารถรวบรวมมาไว้เป็นคน ๆ เดียวกันได้ ไม่ต้องมีรายชื่อซ้ำ ๆ กันให้ปวดหัว

แถมยังสามารถดูประวัติของแต่ละคนได้ด้วย รวมถึงดูย้อนหลัง Social Network ที่ผ่านมาว่าเขาโพสต์อะไรบ้าง เรียกว่าเข้าครั้งเดียวดูได้หมดเลย

Review_Nokia-Lumia-520 (12)

Office ท่าไม้ตายของ Windows Phone ที่หลายคนยอมลงทุนซื้อเพราะสิ่งนี้ มันสามารถทำงานร่วมกับ Office บน PC และ Web ได้อย่างสมบูรณ์ 100% ไม่ติดเรื่องภาษาหรือวรรรยุกต์ เปิดได้ทั้ง Word, Excel, Power Point และยังสามารถแก้ไขหรือใส่สูตรได้อีก เกิดมาเพื่อคนทำงานจริง ๆ ครับ

Review_Nokia-Lumia-520 (13)

ที่สำคัญคือฟรีและไม่มีในระบบปฏิบัติการอื่นไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android ที่จะทำงานได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ถ้าคนทำงานกับ Excel บ่อย ๆ นี่ตอบโจทย์มากเลยบอกตรง ๆ

Review_Nokia-Lumia-520 (14)

Windows Phone ถึง App จะมีไม่มากแต่ก็มีให้ครบ

สำหรับเรื่อง App ที่หลายคนเป็นห่วงกันเพราะมันมีน้อยและไม่ได้ดีเท่า iOS, Android (อันนี้บอกกันตามความจริง) แต่ก็มีให้ใช้ตามความต้องการพื้นฐานได้อย่างครบครัน Facebook, Twitter, Instagram, Line, ฯลฯ ก็มีให้ครบครัน ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานได้อยู่

และที่สำคัญคุณรู้ไหมครับว่า “Windows Phone” ถ่ายรูปและอัพโหลดขึ้น Facebook ได้ไวที่สุดในโลกแล้ว (ของแบบนี้ต้องลองเอง)

ส่วนเกมก็มีให้เล่นกันหายอยาก และยังสามารถทดลองใช้ก่อนซื้อจริงได้ด้วย

Review_Nokia-Lumia-520 (15)

สำหรับกล้องก็สมราคาครับ (จริง ๆ ถ้าถ่ายในสภาวะแสงพอ คุณภาพดีกว่าหลายรุ่นในระดับราคานี้ด้วยซ้ำ) ต้องอาศัยสถานที่แสงเยอะหน่อย สีที่ได้จึงจะค่อนข้างมีชีวิตชีวา การถ่ายระยะใกล้สามารถทำ Macro ได้ค่อนข้างดีมาก สเปคกล้องเป็น 5 ล้านพิกเซล ซูมดิจิตอล 4 เท่า และมีระยะโฟกัสต่ำสุดของกล้อง 10 ซม.

Nokia Lumia 520 ถ่ายในสภาวะแสงน้อยในที่ร่มใต้อาคาร เวลาประมาณ 19:00 น.

ข้อดี

  1. ราคาถูกสุดในตระกูล Windows Phone
  2. งานประกอบและความทนระดับคุณภาพ Nokia
  3. Microsoft Service และ Nokia Service ภายในเครื่องคุ้มค่ามาก
  4. สเปคไม่สูงแต่ก็ยังคงความลื่นไหลและเสถียร

ข้อเสีย

  1. App ไม่หลากหลายนัก
  2. หน้าจอเล็กและความละเอียดไม่สูงนัก
  3. ไม่มีกล้องหน้า

สรุป

เป็นอะไรที่อยู่ในระดับกึ่ง ๆ ระหว่างฟีเจอร์โฟนกับสมาร์ทโฟน ถ้าหากซื้อเพราะอยากลองเล่น Windows Phone นับว่าเป็นการลงทุนที่ดี (ถ้าติดใจก็ค่อยขยับไปเล่น Lumia ในตระกูลที่สูงขึ้น) Nokia Exclusive มีพร้อมทุกตัวยกเว้น Here City Lens ที่ไม่ใส่เข้ามา ส่วนเรื่องพื้นฐานอย่างการสนทนาสามารถทำได้ถึง 17.4 ชั่วโมง รวมถึงเรื่องนั้นทำได้ดีสมชื่อ Nokia เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับค่าตัวของมัน

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial