ใครที่กำลังตามหาสมาร์ทโฟนราคาสบายกระเป๋าในงบไม่เกิน 6,000 บาท และมาพร้อมดีไซน์สวย มีสีให้เลือกเยอะ ขนาดกะทัดรัด ราคาประหยัด บนระบบปฏิบัติการ Android One แล้วล่ะก็ วันนี้เราขอนำเสนอมือถือค่ายสุดเก๋าอย่าง Nokia

โดยสมาร์ทโฟนจาก Nokia ทั้ง 2 รุ่นที่ iReview จะหยิบมาเปรียบสเปกให้เห็นกันชัดๆ ให้ได้เทียบความต้องการบวกกับบัดเจ็ดที่มีว่ารุ่นไหนจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ณ ตอนนี้มากที่สุดก็คือ Nokia 4.2 และ Nokia 3.2 นั่นเอง

Nokia 4.2 และ Nokia 3.2

อุปกรณ์ที่มาในกล่อง

ทั้ง Nokia 4.2 และ Nokia 3.2 มาพร้อมอุปกรณ์ในกล่องที่เหมือนกันทุกอย่าง ดังต่อไปนี้

  • สายชาร์จ
  • หูฟัง
  • คู่มือ
  • ที่จิ้มซิม
  • MicroSD 16GB

หน้าจอแสดงผล

Nokia 4.2

  • หน้าจอกว้าง 5.71 นิ้ว
  • ความละเอียด HD+ (1520 x 720px)
  • อัตราส่วน 19:9
  • กระจกหน้าจอ 2.5D
  • รอยแหว่งทรงหยดน้ำด้านบน (Waterdrop Display)

Nokia 3.2

  • หน้าจอกว้าง 6.26 นิ้ว
  • ความละเอียด HD+ (1520 x 720px)
  • อัตราส่วน 19:9
  • รอยแหว่งทรงหยดน้ำด้านบน (Waterdrop Display)

แบตเตอรี่

Nokia 4.2 มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 3000 mAh และแบตเตอรี่ของ Nokia 3.2 จุ 4000 mAh (อันที่จริงก็ค่อนข้างสับสนในส่วนของความจุแบตเตอรี่ว่าทำไมรุ่นเล็กสเปคแรงกว่าถึงได้แบตน้อยกว่า)

ยิ่งไปกว่าแบตเตอรี่ที่ทำเอาเราสับสนแล้ว ขนาดจอก็ยังทำเราสับสนบางๆ ที่ 3.2 จอ 6.26 นิ้วในขณะที่ 4.2 จอ 5.71 นิ้ว

หน่วยความจำ

Nokia 4.2

  • RAM 3GB
  • ROM 32GB

Nokia 3.2

  • RAM 2/3GB
  • ROM 16/32GB

กล้อง

Nokia 4.2 กล้องหลัง 13MP + 2MP (Dual Camera) และกล้องหน้า 8MP ส่วน Nokia 3.2 จะเป็นกล้องหลัง 13MP เช่นกัน แต่กล้องหน้า 5MP

กล้องหลังไฟแฟลชเป็น LED และรูรับแสง f/2.2 เท่ากันทั้งคู่ ส่วนกล้องหน้า 4.2 รูรับแสง f/2.0 และรุ่น 3.2 รูรับแสง f/2.2

ตัวอย่างรูปจากกล้อง Nokia 3.2

ตัวอย่างรูปจากกล้อง Nokia 4.2

ระบบปฏิบัติการ (OS)

ทั้งสองรุ่นเป็น Android 9.0 (Pie) – Android One

CPU

Nokia 4.2 ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 439 Octa Core ไม่ระบุความเร็ว ส่วน Nokia 3.2 เป็นซีพียู Qualcomm Snapdragon 429 Quad Core 1.8 GHz

ระบบเซ็นเซอร์

ระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print)

Nokia 3.2 จะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้เฉพาะรุ่นที่มีหน่วยความจำ 32GB (16GB ทำไม่ได้)​ ส่วน Nokia 4.2 สามารถทำได้

ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)

สามารถสแกนใบหน้าได้ทั้งสองรุ่น

ดีไซน์บอดี้

บอดี้ภายนอกถือว่าคลาสสิกสีสวยทีเดียวเลย ตัว 3.2 มาพร้อม 2 สีขาประจำแห่งความคลาสสิกนั่นคือ สีดำ (Black) และสีเทา (Steel) ส่วนตัว 4.2 มีความเอาใจสายหวานหน่อย มากับสีดำ (Black) และสีชมพู (Pink Sand) สีชมพูเป็นสีที่เราได้มาจะออกเป็นสีชมพูแบบ Rose Gold นิดๆ ชมพูแบบมีความหรูหรา

ด้านหน้าทั้ง 2 รุ่นเหมือนกัน ต่างกันอย่างเดียวคือขนาดหน้าจอ

ด้านบนมีข่องเสียบหูฟัง และไมโครโฟนตัดเสียง

ด้านซ้ายมีช่องใส่ SIM กับ microSD Card และถัดมาคือปุ่มเรียก Google Assistant

กดปุ๊บ สั่งได้ปั๊บ สะดวกสบายมาก

ด้านล่างมีไมโครโฟนสนทนา ถัดมาเป็นพอร์ท microUSB และสุดท้ายคือลำโพง

ด้านขวามีปุ่ม Power และ ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง

ปุ่ม Power มีกิมมิคนิดหน่อยคือ มันเป็นไฟแจ้งเตือนได้ด้วย เมื่อเวลามี Noti เข้า

สรุปสเปก | Nokia 4.2 และ Nokia 3.2

Nokia 4.2Nokia 3.2
OSAndroid 9.0 (Android One)Android 9.0 (Android One)
ChipsetQualcomm SDM439 Snapdragon 439 Octa CoreQualcomm SDM429 Snapdragon 429 Quad Core
DisplayResolution: 1520 x 720px (HD+)
Ratio: 19:9
Resolution: 1520 x 720px (HD+)
Ratio: 19:9
Size5.72 inches6.26 inches
RAM3GB2/3GB
ROM32GB16/32GB
น้ำหนัก161g181g
ซิมDual SimDual Sim
เซ็นเซอร์Finger PrintFingerprint (3/32GB only)
แบตเตอรี่3000 mAh4000 mAh
สีBlack / Pink SandBlack / Steel
ราคาเปิดตัว4,490 บาท3,990 บาท

และที่สำคัญ​ใครที่คิดถึงเสียงเปิดเครื่องโนเกียแบบสมัยวัยเด็ก ก็ต้องบอกเลยว่าเสียงละม้ายคล้ายเดิมพอจะให้นึกถึงฟีลลิ่งยุคโนเกียป๊อป ๆ ได้ไม่เบา

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
ใช้งานจริง
ความคุ้มค่า
คุณภาพวัสดุ
บริการหลังการขาย
Previous articleSamsung Galaxy Note 10+ ได้คะแนนกล้องหน้าและกล้องหลังดีที่สุดในโลก
Next article[PR] LG เปิดตัวจอมอนิเตอร์ LG UltraFine 5K ใหม่ล่าสุด
ผู้ชาย GEEK สาวชอบ ... ให้ไปซ่อมคอม
review-nokia-4-2-nokia-3-2ใครที่กำลังตามหาสมาร์ทโฟนราคาสบายกระเป๋าในงบไม่เกิน 6,000 บาท ขนาดกะทัดรัด ราคาสบายกระเป๋า บนระบบปฏิบัติการ Android One อยู่ล่ะก็ Nokia 3.2 และ Nokia 4.2 อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี มาพร้อม AI ส่วนตัวและปุ่มลัดเรียกขึ้นมาใช้งานได้เลยทันที