Mister Robot HYBRID หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่สามารถแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ถูพื้นได้อย่างง่ายดาย ที่อยากจะแนะนำ โดยรุ่นนี้เป็นที่ถามกันบ่อยใน Pantip เมื่อได้โอกาสจึงไม่พลาดที่จะขอ รีวิว ซึ่งรุ่นนี้เหมาะกับคนที่เน้นใช้งานจริงจังยิ่งขึ้นไปอีกขั้น “แท๊งค์น้ำขนาดใหญ่ความจุ 300 มล.” คือสิ่งที่แบรนด์อื่นให้ไม่ได้
Mister Robot HYBRID
รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานแบบครบเครื่อง 3-In-One แบบแท้จริง ซึ่งสามารถหาซื้อได้โดยตรงกับทางบริษัทที่มีขายในเว็บไซต์ www.misterrobotcleaner.com ราคา 9,900 บาท หรือว่าจะซื้อผ่านเว็บไซต์ E-Commerce ต่าง ๆ เช่น LAZADA, ITRUEMART เป็นต้น ยังไงถ้าใครสนใจอยากถามรายละเอียดโดยตรงก็โทรมาได้ที่ 087-087-5352 หรือ Line : Mister_Robot หรือ facebook.com/misterrobotcleaner นะครับ ติดต่อทางบริษัทเค้าได้เลยนะครับ
บางคนอาจจะคิดว่าราคาจะสูงไปนิดแต่เมื่อเทียบกับฟีเจอร์แบบจัดเต็ม ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ขายอยู่ในตลาด แต่ละรุ่นความสามารถจะแตกต่างกันออกไป แถมบริษัทเค้าก็ยังมีการรับประกันอุปกรณ์ภายในเครื่องถึง 1 ปี และ รับประกันแบตเตอรี่ถึง 6 เดือนด้วยนะครับ เอาเป็นว่าซื้อไปแล้วหายห่วงเลยครับ
ความสามารถหลักของ Mister Robot HYBRID มีดังนี้
- มาพร้อมกับ Water Tank ขนาด 300 ml ที่จะช่วยในเรื่องการถูพื้นแบบต่อเนื่อง
- แบตเตอรี่ Lithium Ion (เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กับพวก smart phone ต่างๆ) ขนาดสูงถึง 2600 mAh ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องกว่า 150 นาที
- Wall Detector Sensor เซนเซอร์ป้องกันการชนวัตถุต่าง ๆ
- Say Bye กับ ไรฝุ่นได้เลยเพราะมี ฟิลเตอร์ HEPA (ที่ใช้กับเครื่องกรองอากาศชั้นนำ) สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก 0.03 ไมครอน ได้ถึง 99.97% เลยนะครับ มั่นใจเลยว่าอากาศที่ออกมาจากเครื่องจะเป็น ลมที่สะอาดอย่างแน่นอน
- Auto Charge : ระบบชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ
- ไร้เสียงกวนใจ เพราะทำงานเงียบด้วยความดังเพียง 56 เดซิเบล
สำหรับนวัตกรรมที่ทาง Mister Robot ใส่มานั้นเป็นการรวม “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น” และ “หุ่นยนต์ถูพื้น” ไว้ในเครื่องเดียวอย่างแท้จริง (ไม่ใช่แค่เอาผ้าแห้งไถพื้นอีกต่อไป)
ดีไซน์ของตัวเครื่องมาแบบอลังการมาก สี Rose Gold คล้ายกับ iPhone เลยครับ ตั้งแต่แกะกล่องมาไม่คิดว่ามันจะดีไซน์ได้หรูขนาดนี้
อุปกรณ์ที่แถมมามีดังนี้
- แท่นชาร์จอัตโนมัติ
- แปรงทำความสะอาด
- รีโมท
- อะแดปเตอร์
- ถังเก็บฝุ่น
- แท๊งค์เก็บน้ำสำหรับถูพื้น
- ฟิลเตอร์สำรอง
- แปรงกวาดพื้นสำรอง
- ผ้าไมโครไฟเบอร์สำรอง
นอกจากจะให้มาครบแล้วยังให้มาเกินอีก ผมลองคิดเผื่อให้อีกขั้นในเรื่องของอุปกรณ์เสริม กรณีที่ชำรุดหรือหายสามารถซื้อแยกได้ทุกชิ้นครับ
เปรียบเทียบระหว่าแท๊งค์ดูดฝุ่น (ซ้าย) และแท๊งค์ถูพื้น (ขวา) ตรงนี้ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง
Triple Filter ระบบกรองฝุ่น 3 ชั้น เพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุดโดยประกอบไปด้วย
- ตาข่ายกรองฝุ่น
- ฟองน้ำกรองฝุ่น
- แผ่นกรองฝุ่น HEPA
สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.03 ไมครอน ได้สูงสุดถึง 99.97% เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
ในส่วนของแท๊งค์ถูพื้นผู้ใช้สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้เลย ด้วยแท๊งค์ขนาดใหญ่ถึง 300 มล. จึงไม่จำเป็นต้องเติมกันบ่อยครั้ง โดยเมื่อใช้งานน้ำจะค่อย ๆ หยอดลงไปบนผ้าในสัดส่วนที่พอเหมาะ ซึ่งช่องหยดน้ำมีกระจายตัวอยู่ทั่วมุมผ้า จึงทำให้ผ้าไมโครไฟเบอร์ของเราเปียกสม่ำเสมอกันทั้งผืน
พลิกมาดูข้างใต้จะเห็นรูดูดฝุ่น แสริมด้วยแปรงแบบเกลียวขนาดใหญ่ ทำงานควบคู่กับแปรงกวาดพื้นคู่ด้านบน ส่วนล้อมีความสูงประมาณหนึ่ง สามารถเดินผ่านพื้นหรือพรมที่ต่างระดับได้ถึง 15 มม.
ปุ่มแกะเปลี่ยนแท๊งค์ด้านบนสามารถทำได้ง่ายดาย สามารถใช้ลูกหรือหลานมาช่วยเปลี่ยนได้เลย ไม่ยุ่งยากและไม่เป็นอันตราย
หุ่นยนต์รุ่นนี้มีเทคโนโลยี Edge Detective Sensor ป้องกันการตกจากที่สูง รวมถึงเทคโนโลยี Navigator Sensor หลบหลีกสิ่งกีดขวาง (อันที่จริงมันทำงานคล้ายกับกันชนมากกว่า)
การทำงานของ Edge Detective Sensor ก็สามารถทำงานได้ดีสมชื่อครับ สามารถป้องกันการตกจากที่สูงได้เป็นอย่างดีเยี่ยม แต่เนื่องจากตรงนี้ผมเป็นคอนโดห้องเดียว จึงไม่สามารถทดสอบเรื่องการตกบันไดกรณีที่มีสีพื้นใกล้เคียงกันให้ได้ แต่คาดเดาว่าคงให้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน
ด้านข้างมีสวิตช์สำหรับเปิด/ปิดเครื่องแบบปุ่มหลัก (มีปุ่ม Soft อยู่ด้านบนอีกทีหนึ่ง) และช่องสำหรับชาร์จไฟ (กรณีเป็นการชาร์จโดยตรงแบบไม่ผ่านแท่นชาร์จอัตโนมัติ)
ตรงรีโมทเราสามารถควบคุมได้ทั้งการเคลื่อนไหว, ตั้งโหมดการทำงาน, ตั้งเวลาการทำงานงาน ซึ่งใช้งานค่อนข้างง่ายเพราะมีหน้าจอแสดงผลการตั้งเวลาตรงรีโมทเลย สามารถตั้งเวลาให้ออกมาทำงานได้ เช่น ให้มันออกมาทำความสะอาดตอนเวลา 8 โมงของทุกวันนะครับ
แท่นชาร์จอัตโนมัติการทำงานของมันคืออัตโนมัติสมชื่อ คือเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะกลับมาชาร์จเองอัตโนมัติ (ไม่ต้องตั้งค่าอะไร) และเปลี่ยนตำแหน่งชาร์จได้ตามที่ต้องการ
โหมดการทำงานประกอบไปด้วย
- Auto Mode : ทำความสะอาดอัตโนมัติ
- Along Wall Mode : ทำความสะอาดไปตามขอบผนัง
- Spot Mode : ย้ำทำความสะอาดเป็นวงเฉพาะจุด
- Timing Function : ทำความสะอาดอัตโนมัติตามเวลา
โดยปกติแล้วผมนิยมที่จะเปิด Auto Mode ให้เครื่องทำความสะอาดเอง ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดรอบการทำงานมากกว่า จากนั้นจึงจบด้วยเปลี่ยนแท๊งค์น้ำและเอามาถูพื้นซ้ำอีกรอบ
ลองมาดูการใช้งานเบื้องต้นในแบบวิดีโอกันบ้าง อันนี้เราสามารถควบคุมทิศทางจากรีโมทได้เลย ซึ่งอันที่จริงปล่อยมันทำงานแบบอัตโนมัติไปจะดีกว่า (เว้นเสียแต่ว่าเราอยากให้มันเน้นจุดไหนเป็นพิเศษ) นอกจากนี้เรายังสามารถเร่งความแรงเฉพาะจุดผ่านรีโมทได้ด้วย (ดูจากคลิป)
ส่วนเรื่องเสียงก็ไม่ถือว่าดังมาก ผมอยู่ห้องเดียวกันก็สามารถเปิดโทรทัศน์ดูไปด้วยได้โดยไม่รำคาญ (บางรุ่นนี่ดังยังกับเครื่องตัดหญ้า) แต่ถ้าเปิดโหมดเร่งความแรงแบบ MAX อันนี้จะค่อนข้างดังนิดนึง
อันนี้เป็นสภาพหลังจากทำความสะอาดไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ปกติห้องของผมค่อนข้างสะอาดอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคอนโดที่ไม่ค่อยเปิดหน้าต่างรับลมเท่าไหร่ และทุกเช้าก็ได้ทำการกวาดบ้านไปรอบหนึ่ง
แต่ความจริงแล้วห้องนั้นไม่ได้สะอาดเลย มีฝุ่นอยู่ตามพื้นและพรมบ้างประปราย พอใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดก็รู้สึกได้ว่ามัน “เกลี้ยง” มากกว่า (ขูดฝุ่นที่ฟิลเตอร์ออกมาแล้วหนาเป็นนิ้วเลย) เดินแล้วรู้สึกสบายไม่สากเท้า
ส่วนอันนี้เป็นแท๊งค์น้ำซึ่งจะค่อย ๆ ซึมออกมาเวลาใช้งาน ถูพื้นแล้วจะไม่ถึงกับเปียกสนิทแต่จะมีรอยน้ำจาง ๆ ซึ่งทิ้งไว้ 1-2 นาทีก็แห้งสนิท ผ้าไมโครไฟเบอร์สามารถถอดออกมาซักได้ง่าย
ทดสอบถูพื้น ถือว่าผ้าเปียกหมาดกำลังดีไม่แห้งจนเกินไป แถมเวลาใช้งานไปแล้วยังมีการปล่อยน้ำลงผ้าเป็นระยะ ช่วยทำให้พื้นห้องเปียกอย่างทั่วถึง
ถูเสร็จแล้วผ้าออกมาดำพอสมควร ช่วยประหยัดแรงถูเองไปได้อีกเยอะ ส่วนผ้าก็สามารถถอดออกไปซักได้อย่างง่ายดาย โชคดีที่ในกล่องมีสองผืนเอาไว้ให้ใช้งานสลับกันไป
https://youtu.be/Ppipa8QjZcs
ข้อดี
- คุ้มค่ากับราคา เพราะว่าซื้อ 1 เหมือนได้ 2 เพราะสามารถเป็นทั้งหุ่นยนต์กวาดพื้นดูดฝุ่นและหุ่นยนต์ถูพื้นได้ในตัว ไม่ต้องซื้อแยกกันเหมือนของยี่ห้ออื่น ๆ
- แท๊งค์น้ำขนาดใหญ่ความจุ 300 มล. ทำให้การถูพื้นทำได้อย่างต่อเนื่อง พื้นสะอาดอย่างแน่นอน
- แบตเตอรี่ ทำงานได้นานมาก ๆ ๆ ๆ ทำให้การทำความสสะอาดไม่สะดุด สามารถปล่อยให้ดูดฝุ่นซัก 1 ชั่วโมง แล้วให้ถูพื้นอีก 1 ชั่วโมงได้สบายเลยครับ
- แท่นชาร์จอัตโนมัติ ไม่ต้องหยิบเครื่องมาชาร์จเอง เพราะเครื่องมันฉลาด วิ่งกลับแท่นชาร์จเอง
- มีอะไหล่สำรองให้ พร้อมทั้งแยกขายในเว็บไซต์
ข้อเสีย
- ไม่มีถ่านรีโมทมาให้ เลยต้องออกไป 7-11 มาใส่เอง
- มีปุ่มบังคับงานปุ่มเดียว ตรงเครื่อง ถ้าอยากสั่งงานเมนูอื่นต้องกดโดยตรงจากรีโมท
- ผ้าถู ให้สำรองมาน้อยไปหน่อย ถ้าให้ซัก 3 ผืนจะดีมาก เพราะบางครั้งผ้าแห้งไม่ทัน
สรุป
รุ่นนี้ถึงแม้ราคาจะสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากครับ เพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถใช้ถูพื้นได้อย่างจริงจัง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้ยาวนาน (2,600 mAh) ส่วนการใช้งานครอบคลุมระยะ 120-150 ตร.ม. ดูดฝุ่นและถูพื้นได้เป็นอย่างดีสมกับเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของ MISTER ROBOT รับประกันอุปกรณ์ภายในเครื่อง ถึง 1 ปี และ รับประกันแบตเตอรี่ ถึง 6 เดือน ซื้อแล้วก็มั่นใจได้เลยครับ
ติดตามข่าวสารได้ที่ Website และ Fanpage
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial