USB-C ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่เป็นที่พูดถึงมากขึ้นหลัง Apple เปิดตัว MacBook Pro ที่ไร้พอร์ตอื่นโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ Android ก็ยังได้ยกเลิก Micro USB และเปลี่ยนไปใช้ USB-C เช่นเดียวกัน โดยจะเห็นได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Nexus, Asus, Huawei, Moto หรือกระทั่ง Galaxy Note 7 ต่างก็ไม่ได้ใช้ Micro USB แล้วแทบทั้งสิ้น … คุณมีอุปกรณ์พร้อมแล้วหรือยัง ?

Kingston DataTraveler microDuo 3C
Kingston DataTraveler microDuo 3C

Kingston DataTraveler microDuo 3C

แฟลชไดร์ฟ USB 3.1 Gen 1 (USB 3.0) Kingston DataTraveler microDuo 3C มีทั้งรุ่น 16-128 GB พร้อมการรับประกัน 5 ปี ส่วนราคาก็ไม่ได้แพงไปกว่าแฟลชไดร์ฟปกติอะไรมาก (ตัวที่รีวิว 32 GB ราคา 570 บาท)

kingston-datatraveler-microduo-3c-2

อธิบายแบบสั้นก็คือมันเป็น แฟลชไดร์ฟสองหัว ที่ด้านนึงเป็น USB Type-A (ขนาดปกติ) และอีกฝั่งจะเป็น USB Type-C โดยจะอยู่ในกลุ่ม USB 3.1 Gen 1 (USB 3.0) เดิมเรียกเป็น “USB 3.0” SuperSpeed USB โดยมีความเร็วทางทฤษฎีอยู่ที่ 5 Gbps แต่เอาเข้าจริงความเร็วสูงสุด 300 MB/s ก็หรูแล้วครับ

ความเร็วที่ระบุในสเปคตัวนี้ 100 MB/s (อ่าน) 15 MB/s (เขียน)

แต่สำหรับคนที่เอาไปใช้กับคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่เป็น USB 2.0 ก็ไม่ต้องกังวลเพราะมันใช้ร่วมกันได้ครับ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7, macOS 10.7, Linex 2.6 หรือ “สูงกว่า” (Windows XP ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าใช้ได้เหมือนกัน)

kingston-datatraveler-microduo-3c-3

ขนาดเล็กกว่าที่คิดมากประมาณปลายนิ้วก้อย มีฝาครอบในเฉพาะด้าน Type-C (USB-C) เท่านั้น

kingston-datatraveler-microduo-3c-4

สามารถแกะออกมาได้แบบนี้ ซึ่งก็ไม่เขาใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ครอบมันทั้งสองด้านไปเลย

kingston-datatraveler-microduo-3c-5

ทดสอบเสียบฝั่ง Type-C เข้ากับ Acer Swift 7 ด้วยความเล็กของมันเลยไม่เกะกะพอร์ตเท่าไหร่

kingston-datatraveler-microduo-3c-6

ส่วนฝั่ง Type-A ขอทดสอบกับ MacBook Air ที่เป็น USB 3.0 ในรูปแบบ exFAT

Disk Speed Test
Disk Speed Test

ทดสอบความเร็วใช้กับ macOS อัตราการโอนถ่ายเป็นที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าจะไม่สูงเท่าที่สเปคระบุไว้ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ คัดลอกไฟล์ได้เร็วไม่แพ้ External Harddisk ส่วนใครเอาไปเสียบ อุปกรณ์ที่รองรับ OTG กับ Android ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความเร็ว เพราะความเร็วระดับนี้ก็เร็วกว่า microSD อยู่แล้วครับ

ข้อดี

  1. ราคาไม่แพง
  2. ขนาดเล็กพกพาง่าย
  3. สะดวกใช้งานได้สองพอร์ต
  4. รับประกัน 5 ปี

ข้อเสีย

  1. มีฝาครอบแค่ด้านเดียว

สรุป

เป็นอุปกรณ์แห่งยุคเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี สำหรับคนที่อยากได้ USB-C แต่ยังยึดติด อยากใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่เป็น Type-A เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่องไม่มีสะดวก ไม่จำเป็นต้องพกหัวแปลงอะไรให้วุ่นวาย แฟลชไดร์วตัวเดียวจบปัญหาความเข้ากันได้