สมาร์ทโฟนที่เราจะหยิบมารีวิวกันในวันนี้ ขอแนะนำให้รู้จักกับ Mate 10 Pro จากค่าย HUAWEI ก่อนจะพาไปทำความรู้จักกันให้ลึกให้ซึ้งถึงฟีเจอร์ความพิเศษของเจ้าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เราขอเกริ่นถึงดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกคร่าว ๆ กันก่อน

Huawei Mate 10 Pro

DESCRIPTION Huawei Mate 10 Pro
Processor Hisilicon Kirin 970
Octa-core (4×2.4 GHz Cortex-A73 & 4×1.8 GHz Cortex-A53)
Operating System Android™ 8.0 (Oreo)
GPU Mali-G72 MP12
Display •   Size: 6.0 inches, 92.9 cm2 (~80.9% screen-to-body ratio) 1080 x 2160 pixels, 18:9 ratio (~402 ppi density)
•   Type: AMOLED capacitive touchscreen, 16M colors
•   Corning Gorilla Glass
Wifi Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, DLNA, Wi-Fi Direct, hotspot
Bluetooth 4.2, A2DP, aptX HD, LE
NFC Yes
Dimensions (W x T x H) 154.2 x 74.5 x 7.9 mm (6.07 x 2.93 x 0.31 in)
Weight 178 g (6.28 oz)
Audio No audio jack
Memory •   RAM: 6 GB
•   ROM: 128 GB
•   MicroSD Option: up to 256 GB
Battery •   Type: Non-removable Li-Po 4000 mAh battery
Integrated Camera •   Rear: 12 MP (f/1.6, 27mm, OIS) +20 MP (f/1.6, 27mm), 2x lossless zoom, Leica optics, phase detection & laser autofocus, dual-LED dual-tone flash
•   8 MP, f2.0
SIM 2 SIM (microSIM) รองรับ 3G,4G ทุกเครือข่าย
Sensors Fingerprint (rear-mounted), accelerometer, gyro, proximity, barometer, compass
Other – Fast battery charging 4.5V/5A (58% in 30 min)
– DivX/XviD/MP4/H.265/WMV player
– MP3/eAAC+/WMA/WAV/FLAC player
– Document editor
– Photo/video editor

ราคาขายปัจจุบัน : 27,900 บาท


สัมผัสแรก | Huawei Mate 10 Pro

สำหรับเจ้า Mate 10 Pro ตัวนี้ตัวเครื่องสีออกทอง ๆ แต่เจ้าตัวเขาเรียกตัวเองว่า Mocha Brown เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบหรูดูคลาสสิกแต่อยากหลุดจากโทรศัพท์มือถือสีดำมาลองสีอื่นกันหน่อย ซึ่งจริง ๆ แล้วสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีมาให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน ได้แก่ Midnight Blue / Tiatanium Gray / Pink Gold และ Mocha Brown ก็คือเครื่องนี้นั่นเอง

หน้าจอขนาด  6 นิ้ว ขอบจอบางจ๋อย ทำให้ถือได้ถนัดมือมาก ไม่ใหญ่เทอะทะ ความละเอียดหน้าจอ 1080 x 2160 pixels ในอัตราส่วน 18:9 ตามสมัยนิยม

เรือนร่างภายนอกเป็นกระจกและโลหะกับ Symmetric Design ด้วยการใส่ Signature Stripe เข้ามาด้านหลังตัวเครื่องเป็นแถบที่กล้องคู่ ไฟแฟลช LED และตัว AUTO FOCUS อยู่รวมกันในแถบเดียว เรียกว่าจุดนี้เป็นซิกเนเจอร์ที่เห็นปุ๊บก็ต้องรู้ว่านี่คือสมาร์ทโฟนตระกูล Mate 10 Pro แน่นอน พร้อมกล้อง 2 ตัว และที่สแกนลายนิ้วมือ


ตำแหน่งของที่สแกนอยู่ในตำแหน่งที่ถนัด ไม่ต้องยืดนิ้วมาก ไม่สับสนกับกล้อง เพราะผิวสัมผัสต่างกัน

ด้านข้างมีปุ่ม Power และ ปุ่ม เพิ่ม/ลดเสียง

อีกด้านไม่มีปุ่มอะไรเลย เรียบๆ

ด้านล่างของเครื่องมี ลำโพง , ไมโครโฟนสนทนา และ พอร์ท USB-C

ด้านบนมี เซนเซอร์อินฟาเรด และ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน


ใช้งานจริง | Huawei Mate 10 Pro

ว่าด้วยเรื่องความพิเศษของสมาร์ทโฟนตัวนี้กันหน่อย Mate 10 Pro มาพร้อมกับชิพประมวลผล Kirin 970 ที่รักษาความเร็วได้สม่ำเสมอนานถึง 18 เดือน แถมมี AI เป็นตัวช่วยชั้นดีในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ด้วยระบบ Machine Learning

โหมดอำนวยความสะดวกก็ยังมีมาให้ครบไม่ต่างจากรุ่นก่อน ๆ

ทางฝั่งของแบตเตอรี่ มากับเทคโนโลยี Super Charge ที่รองรับความปลอดภัยด้วย TUV Rheinland จากเยอรมนีที่ชาร์จแค่ 30 นาทีก็มีแบตมากพอให้ใช้งานไปได้ทั้งวัน

Mate 10 มาพร้อมกับ EMUI 8.0 เพิ่มเติมเรื่องความเร็วและความลื่นไหลในการใช้งานซึ่งครอบบน Android 8.0 มีจุดเด่นได้แก่

    • รองรับ Dynamic Wallpaper เปลี่ยนตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน
    • รองรับ Full Vision Display ใช้งานได้หลากหลายทั้ง Split Screen ที่ใช้พร้อมกันได้ 2 จอ
    • รองรับ MDM (Mobile Device Management) จัดการความปลอดภัยและความสะดวกของผู้ใช้

ฟีเจอร์ต่อมาตอบโจทย์คนรักงานโดยเฉพาะ เจ้า Mate 10 Pro ตัวนี้สามารถต่อจอ Desktop ออกมาได้อีกจอหนึ่ง พร้อมกับต่อเมาส์ ต่อคีย์บอร์ด ยูเอสบีก็ต่อได้ผ่านบลูทูธ ครบถ้วนกระบวนความ

ส่วนฟีเจอร์ที่ว่าแปลภาษาได้อาจจะดูธรรมดาไปหน่อยแต่เขาว่ามาว่าสามารถแปลอัตโนมัติได้มากถึง 50 ภาษาด้วยความเร็ว 3 เท่าแม้จะอยู่ในโหมดออฟไลน์ผ่านการร่วมมือกันของแอปพลิเคชั่นแปลภาษาบวกกับไมโครซอฟต์โดยเจ้า AI อีกตามเคย

AI ในชิป Kirin 970 ตัวนี้สามารถสร้างฟังก์ชัน Huawi Easy Talk เรียนรู้ได้ว่าเสียงไหนเป็นเสียงของเจ้าของเครื่องแม้จะอยู่ในที่เสียงดังก็ตามจะมีการตัดเสียงรบกวนจากรอบข้างให้ส่วนระบบเสียงของรุ่นนี้ยังรองรับ Hi-Res แบบแบบ 32Bit /384K ให้คุณภาพสูงอีกด้วยต่อที่เรื่องของ GPS กันบ้างระบบ GPS ของเครื่องนี้เรียกตัวเองว่า GEO Enhanted GPS Technology เป็นจีพีเอสแบบใหม่ที่ทำให้ไม่ติดขัดแม้จะอยู่ในที่อับสัญญาณอย่างอุโมงค์รถไฟใต้ดินหรือใต้ทางด่วนก็ตาม

ฟีเจอร์สุดท้ายที่เราจะพูดถึงก่อนจะไปปิดด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องเป็นเรื่องของระบบซิมการ์ด Mate 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รองรับเครือข่าย 4.5G และอีกฟังก์ชั่นที่น่าสนใจของระบบซิมก็คือ 4G Standby คือสามารถเกาะสัญญาณ 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม


กล้อง | Huawei Mate 10 Pro

สำหรับคนที่รักการถ่ายรูปแล้วล่ะก็ อาจจะรักรัก AI Camera ของ Mate 10 Pro ไปด้วย เพราะมาพร้อมกล้องคู่จาก Leica จับภาพ RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลกับเลนส์จับภาพขาวดำอีก 20 ล้านพิกเซลกับเลนส์ SUMMILUX-H ที่รูรับแสงกว้างถึง f/1.6 ในทั้งสองเลนส์ ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยไม่เป็นปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนระบบจับโฟกัสมี 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ PDAF + CAF + Laser + Depth Auto Focus และระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ถ้ากล้องที่มี AI ตัวนี้ยังเด็ดไม่พอ เรามีความสามารถของมันมาเสริมให้ฟังอีกหน่อยก็คือ เรียนรู้และเลือกรูปแบบการถ่ายภาพได้เหมาะสมกับภาพที่เราจะถ่าย เช่น โหมดถ่ายภาพอาหาร และยังไม่พอ หากคุณรักการเซลฟี่ HUAWEI ก็จัดให้กับฟีเจอร์ AI Selfie ตามด้วย AI Zoom ที่ซูมเท่าไหร่ก็ไม่แตก(แต่เบลอ)


AI ของ Huawei สามารถรู้ได้ว่า รูปที่เราจะถ่าย เป็นรูปอะไร และปรับกล้องให้เข้าตามสถานะการณ์นั้นๆ โดยที่เราไม่ต้องคิดเอง อำนวยความสะดวกได้มาก ยกขึ้นมา เปิดกล้อง แล้วถ่ายได้เลย

รูปถ่ายแบบไม่ซูม
ถ่ายด้วยซูม 2x

ประสิทธิภาพ | Huawei Mate 10 Pro

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนนไปที่ 178943 คะแนน


 

ข้อดี

  1. กล้องมี AI ไม่ต้องคิดเยอะ ถ่ายได้เลย
  2. กล้องหลังและกล้องหน้าประสิทธิภาพเยี่ยม
  3. แสตนบาย 4G ได้ทั้ง 2 ซิม
  4. ต่อจอ Desktop แล้วเป็น PC Mode ได้เลย ไม่ต้องพึ่ง Dock

ข้อเสีย

  1. ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
  2. โหมดหน้าชัดหลังเบลอยังดูหลอกตาอยู่มาก

 

สรุป

 

Huawei Mate 10 Pro ถือว่าเป็นมือถือจอใหญ่ที่ครบครันเครื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสเปกที่สามารถเล่นเกมได้ทุกเกม กล้องหน้าและกล้องหลังคุณภาพดีมาก รวมถึงในตอนที่แสงน้อยก็ยังทำได้ดี ตัวเครื่องเป็นกระจกและโลหะ เงางาม ดูหรูหรามีระดับ (ถึงสีทองจะดูแก่ไปนิดนึงก็ตาม) พร้อมระบบ AI ที่มีอยู่ในทุก ๆ ฟีเจอร์ ถ้าใครต้องการหามือถือคู่ใจที่แสนรู้เหมือนเพื่อนซี้ แนะนำ Mate 10 Pro ตัวนี้เลย