ในยุคนี้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้รับความนิยมมาก แต่สำหรับเครื่องดูดฝุ่นเองก็มีข้อดีกว่าในเรื่องแรงดูด Hoover ONEPWR FloorMate JET เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายยุคใหม่ ที่ไม่ต้องมีการลากสายเกะกะเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังให้ความแรงในการดูดไม่น้อยไปกว่ากัน สามารถเคลื่อนย้ายไปยังบริเวณจุดต่าง ๆ ของบ้านได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติถูพื้นแบบเปียกในตัว จึงไม่จำเป็นต้องถูพื้นซ้ำอีกรอบให้สิ้นเปลืองเวลา

Hoover แบรนด์ดังจากอเมริกา

หากเป็นคนรุ่นใหม่อาจไม่ค่อยคุ้นหูแบรนด์ Hoover สักเท่าไหร่เพราะเขาไม่ได้ทำตลาดบ้านเรามานานมาก ซึ่งคนรุ่นใหม่น่าจะคุ้นเรื่องเครื่องดูดฝุ่น Hi-End จากแบรนด์ Dyson มากกว่า แต่ความจริงแล้วแบรนด์ Hoover หากไปคุยกับคนมีอายุหน่อย (หรือไปอยู่ต่างประเทศมา) ก็จะคุ้นกับแบรนด์นี้เป็นอย่างดี ในฐานะแบรนด์อเมริกาที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ในเรื่องของเครื่องดูดฝุ่นและอุปกรณ์ทำความสะอาด

Hoover (ฮูเวอร์) เป็นสินค้าคุณภาพสูงสัญชาติอเมริกัน

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน Hoover เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในอเมริกา และถ้าเทียบคู่แข่งทางตรงก็เป็น Dyson ที่เน้นเรื่องของดีไซน์และเทคโนโลยี หรือจะเรียกว่าของดีจากอังกฤษและอเมริกันมาแข่งกันเลยก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้อ่านจะสนใจซื้อรุ่นไหน อันนี้คงตัดสินใจแทนกันไม่ได้จริง ๆ เพราะมีเรื่องของสเปกและราคาหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง เอาเป็นว่าลองมาดูข้อมูลจากทางฝั่งของ Hoover กันก่อนก็แล้วกัน

เริ่มต้นใช้งาน

การประกอบก็ง่ายมากเพียงแค่เสียบก้านจับและใส่ขนแปรงก็เสร็จ โดยก้านจับช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่ง ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะถอดได้แต่ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ถอดแกะโดยง่าย (เน้นความแข็งแรง) นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนแปรงหรือแบตเตอรี่ จะถูกออกแบบมาให้ถอดประกอบ รวมถึงการล้างทำความสะอาดได้อย่างง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือแรงเยอะเป็นพิเศษ ก็สามารถถอดอุปกรณ์ออกมาได้ทุกชิ้น

อุปกรณ์ภายในกล่อง

สามารถดูได้จากรูปแรก (ฮา) ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากครับ จุดที่น่าสนใจก็คือ Hoover ONEPWR FloorMate JET ได้ให้ หัวแปรงทำความสะอาด (FloorMate Jet Brushroll) มาถึง 2 ชิ้น ซึ่งก็ไม่ได้มีความหยาบเรื่องละเอียดต่างกันสักเท่าไหร่ (น้อยมากจนแทบไม่รู้สึก) ตรงนี้ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ผลิตทำสีให้ต่าง “เพื่อผู้ใช้งาน” จะได้ไม่สับสนมากกว่า

  • FloorMate Jet Gentle Brushroll : ทำจากวัสดุไมโครไฟเบอร์เพื่อการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน
  • FloorMate Jet Multi-Surface Brushroll : ทำจากวัสดุไมโครไฟเบอร์พร้อมขนแปรงไนลอนเพื่อการขัดถูอย่างอ่อนโยน

เอาจริงสองหัวแปรงนี้ก็ไม่ได้ต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญนัก เพราะก็เหมาะกับการใช้งานในบ้านทั้งคู่ แต่มีความต่างกันที่ความหยาบและละเอียดอยู่เพียงเล็กน้อย รวมถึงว่าบางบ้านอาจมีแยกใช้งานแต่ละห้องไม่เหมือนกัน เช่น ห้องครัว, ห้องนอน, ฯลฯ เพื่อเป็นการควบคุมความสะอาดของผ้าไปในตัวด้วย จะได้ไม่มีการใช้ปะปนกัน หรือจะเอาไว้เปลี่ยนระหว่างรอผ้าอีกหัวแปรงแห้งก็ได้

ถัดมาเป็นหัวใจการทำความสะอาดของเครื่องดูดฝุ่น เพราะมีการดูดอากาศเข้ามาก็จำเป็นต้องกรองและปล่อยอากาศออกไป โดยสำหรับฟิลเตอร์ HEPA H-10 จะเอาไว้กรองฝุ่นแบบละเอียด ตรงนี้สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าได้ (และซื้ออะไหล่เพิ่มเติมได้ในอนาคต) สำหรับการทำความสะอาดตัวฟิลเตอร์ ตากไว้จะค่อยแห้งเองภายใน 24 ชั่วโมง ถึงจะนำออกมาใช้ต่อได้

ถัดมาเป็นถังเก็บน้ำเสียและฝุ่น (Dirty Water Tank + Dirty Water Tank Lid) ซึ่งทุกอย่างที่ดูดเข้ามาจะรวมกันอยู่ในนี้ ไม่ว่าจะเป็นเศษขยะ เศษอาหาร เส้นขนสัตว์เลี้ยง หรือแม้กระทั่งน้ำยาถูพื้นที่เราฉีดลงไปที่พื้น จะทำการปั่นและถูกดูดขึ้นมาทั้งหมด และเมื่อเต็มแล้วก็สามารถถอดออกไปเททิ้ง โดยที่มือไม่ต้องเลอะเทอะอีกทั้งยังสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้โดยง่าย

ถัดมาด้านหลังเครื่องจะเป็นถังเก็บน้ำดี (Clean Water Tank) ตรงนี้เราสามารถผสมน้ำยาถูพื้นลงไปได้เลย โดยน้ำยาที่ดีที่สุดก็คือของ Hoover นั่นเอง (ฮา) ซึ่งเราสามารถเลือกเต็มปริมาณน้อยและปริมาณมากได้ มีการใส่สเกลให้เรียบร้อยสะดวกดี แต่อันนี้รีวิวกันตามตรงเลยว่าไม่จำเป็นต้องน้ำยาของ Hoover ก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน ขอเพียงแค่เป็นสูตรที่อ่อนโยนหน่อยและไม่กัดกร่อน

ONEPWR จุดขายของ Hoover

ชื่อรุ่นของ Hoover ONEPWR FloorMate JET สังเกตว่าจะมีคำว่า “ONEPWR” แปลว่าสามารถใช้งาน “แบตเตอรี่” ร่วมกันได้ทั้งระบบของจักรวาล Hoover กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด โดยแบตเตอรี่ก็จะมีให้เลือกตั้งแต่ 3.0 Ah และ 4.0 Ah สามารถใช้ร่วมหรือสลับกันได้หมดเลย และจะประหยัดเงินในกระเป๋ามากขึ้น เพราะตอนซื้อบางอุปกรณ์สามารถซื้อเครื่องเปล่า (ไม่มีแบตเตอรี่) ได้ด้วย

ตัวแบตเตอรี่ทำออกมาค่อนข้างดี สามารถเช็คประมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้ด้วยตัวเอง แท่นชาร์จสามารถใช้ร่วมกับแบตเตอรี่ ONEPWR รุ่นอื่นได้ และอย่างที่บอกคือเราอาจเลือกซื้อแบตเตอรี่แค่ก้อนเดียว (ประหยัด) แต่มีเครื่องดูดฝุ่นถึงสองเครื่อง สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องของประโยชน์ในการบำรุงรักษา อนาคตใช้ไปหากแบตเตอรี่เสื่อมก็สามารถซื้อแค่เฉพาะแบตเตอรี่มาเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเอาเข้าศูนย์บริการ

Hoover ONEPWR FloorMate JET

เริ่มต้นใช้งานหลังจากชาร์จแบตเตอรี่เต็มก็ง่ายมาก เพียงแค่ใช้เท้าเหยียบเครื่องดูดฝุ่น จากนั้นก็หันมือจับก้านโยกเข้าหาตัวเอง เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการเริ่มต้นใช้งาน และในเรื่องของงานประกอบแม้จะเป็นพลาสติก แต่ก็ให้สัมผัสและความรู้สึกทนทานในแบบฉบับอเมริกัน ส่วนการทำความสะอาดแบบไทยหรือเอเชีย แค่ดูดฝุ่นมันไม่เพียงพอต่อความสะอาด ถ้าจะให้ดีก็จำเป็นต้องมีการถูเปียกร่วมด้วย

การใช้งานก็ง่ายมากชนิดที่ว่าผู้สูงอายุก็ใช้ได้ เพราะมีเพียงแค่ปุ่มปิด/เปิดและถัดไปคือโหมด (Mode) สำหรับการเปลี่ยนระดับความแรง โดยในกรณีนี้มีให้เลือกเพียงแค่ความแรงสูง (High) และแบบปกติ (Eco) มีปริมาณแบตเตอรี่แสดงให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ถึงแม้ว่าส่วนตัวจะอยากให้มันแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า สำหรับโหมดความแรงสูงจะมีเสียงดัง และกินแบตเตอรี่มากกว่าปกติ

ด้านล่างมีปุ่มลักษณะไกปืนสำหรับ “พ่นน้ำ” ที่เราได้เอาใส่ไว้ในข้างต้น เพื่อเป็นการถูและดูดพื้นไปในตัว โดยการกดหนึ่งครั้งก็จะทำให้ผ้าเปียกพอสมควร สามารถกดได้ถี่บ่อยตามที่ต้องการ แต่ถ้าหากกดมากเกินไปก็ต้องระวังพื้นเปียกเกินไป จากที่ผู้เขียนได้ลองใช้งานจริงพบว่าระยะทางประมาณ 3 เมตรค่อยกดทีก็ได้ แทงค์น้ำยาประมาณหนึ่งถังก็เพียงพอสำหรับการทำความสะอาดบ้าน

หากดูจากภาพด้านบนจะเห็นว่าพื้นมีความหมาดเล็กน้อย สามารถทำความสะอาดได้อย่างกำลังพอดี โดยที่พื้นไม่เปียกมากจนเกินไป โดยการทำความสะอาดพร้อมถูแบบนี้ ให้ความสะอาดเทียบกับกับการดูดฝุ่นและถูพื้นไปด้วยกัน แต่หากพื้นของคุณเป็นไม้หรือลามิเนตที่ไม่ถูกกับน้ำ ทางเราแนะนำให้ใช้วิธีดูดฝุ่นอย่างเดียวจะดีกว่า แต่ถ้าเป็นการทำความสะอาดทั่วไปยังไงก็ต้องถูพื้นครับ

มาพร้อมกับ LED ส่องสว่างในซอกมุมที่เข้าไม่ถึง

ระหว่างทำความสะอาดก็จะมีการดูดน้ำเสียขึ้นมาที่ถังเก็บน้ำเสีย ตรงนี้จะมาตรวัดอยู่หากถึงระดับสูงสุด (Max) ค่อยเอาไปเททิ้ง แต่ว่าถ้าหากไม่ได้พ่นน้ำหรือดูดคราบอาหารที่เป็นของเหลว ข้างในก็จะมีเพียงแค่ฝุ่นหรือเศษขยะที่เราดูดเข้าไป อันนี้ก็จะสามารถอยู่ได้นานหน่อยไม่ต้องทิ้งทุกวันก็ได้ แต่หากเป็นการใช้วิธีถูพื้นเราขอแนะนำให้ทำความสะอาดทุกครั้งที่จะดีกว่า ลดโอกาสเกินกลิ่นเหม็น

การทำความสะอาดสามารถใช้ได้กับแทบจะทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้, พื้นปาร์เก้, พื้นกระเบื้อง, พื้นลามิเนต, พื้นไวนิล และแม้กระทั่งพรมขนสั่นก็สามารถใช้ดูดฝุ่นได้ด้วย แต่ในบางวัสดุพื้นผิว (เช่น พรม) อาจไม่เหมาะกับการฉีดน้ำ อันนี้ก็แนะนำให้ใช้วิธีดูดฝุ่นเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ ส่วนแรงดูดที่ได้ค่อนข้างเป็นที่พึงพอใจเพราะว่าแรงมากพอสมควร เลยไม่จำเป็นต้องคอยย้ำจุดบ่อย

หากเป็นเพียงแค่เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปไม่มีทางทำแบบนี้ได้แน่นอน แต่สำหรับ Hoover ONEPWR FloorMate JET ที่เป็นทั้งเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย และถูพื้นแบบเปียก สามารถเช็ดได้ทั้งคราบอาหารและซอสที่เปื้อน (ในเมืองนอกใช้ดูดสปาเก็ตตี้โชว์เลย) เลยเหมาะกับเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะพื้นบ้านอาจมีเด็กเล็กหรือต้องทำกิจกรรมที่นั่งตามพื้น หากพื้นไม่สะอาดจริงจะไม่ดีต่อสุขภาพ

หลังจากทดสอบทำความสะอาดคราวซอสคือใช้งานได้จริง ดูดและเช็ดอาหารตามพื้นได้ปกติเลย ทีนี้พอใช้งานไปสักพักถ้าเป็นผ้าถูพื้น เราก็จะต้องมีการบิดทำความสะอาดกันบ้าง แต่สำหรับเครื่องนี้มีวิธีที่ง่ายกว่าการถอดแปรงออกมาล้าง นั่นก็คือการเทน้ำลงบนถาดตามปริมาตรที่ระบุไว้ จากนั้นก็เปิดเครื่องประมาณ 15 วินาที ตัวเครื่องก็จะทำความสะอาดในการสูบน้ำและปั่นหัวแปรงให้เอง

สิ่งเดียวที่ผู้ใช้งานต้องทำด้วยตัวเองคือการชาร์จแบตเตอรี่ รวมถึงการเอาน้ำเสียออกมาเททิ้งทุกครั้งหลังทำความสะอาด เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมหรือมีกลิ่นเน่า ส่วนวิธีถอดแกะก็ไม่ยาก สามารถถอดออกจากเครื่องได้ด้วยมือเดียว และเวลาเทก็ไม่เลอะสกปรกมือ จากนั้นก็แค่ล้างด้วยน้ำเปล่าจากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง ซึ่งก็ทำแบบเดียวกันกับฟิลเตอร์สำหรับกรองอากาศ (อันนี้ไม่ต้องล้างบ่อยก็ได้)

การใช้งานแบตเตอรี่อยู่ประมาณ 25-60 นาที (แล้วแต่โหมด) หากใครบ้านใหญ่ก็สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ระหว่างใช้งาน แต่โดยทั่วไปก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานต่อรอบชาร์จ สำหรับระยะเวลาชาร์จจะอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 5.1 กิโลกรัม ใช้งานทั่วไปไม่ได้หนักอะไรแต่ถ้ายกข้ามชั้นจะหนักไปหน่อย เหมาะกับบ้านที่เลี้ยงสัตว์ หรือต้องทำความสะอาดเยอะเป็นพิเศษ

ในเรื่องราคาก็ค่อนข้างสูงขึ้นมานิดหน่อยอยู่ประมาณหมื่นกลาง ๆ แต่ก็ไม่ได้แบบมากแบบ Dyson อะไรขนาดนั้น จุดสังเกตคือการรับประกันของตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (ถ้าคุณซื้อเครื่องหิ้วหรือไม่ใช่ตัวแทนจะไม่ได้จุดนี้) ก็คือการรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี อันนี้คือปกติไม่ได้พิเศษอะไรมาก แต่สำหรับแบตเตอรี่คือรับประกัน 2 ปี เยอะกว่าแบรนด์ในท้องตลาดที่ส่วนใหญ่ให้เพียงแค่ 6-12 เดือน

ข้อดี

  1. ดูดฝุ่นและถูพื้นในเครื่องเดียว
  2. ใช้ดูดอาหารหรือทำความสะอาดหนักได้
  3. เครื่องทำงานแบบไร้สายไม่เกะกะ
  4. แบตเตอรี่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้
  5. รับประกันแบตเตอรี่ 2 ปี

ข้อเสีย

  1. น้ำหนักค่อนข้างสูง หากเติมน้ำยาเต็ม
  2. เสียบชาร์จตรงไม่ได้ ต้องถอดแบตเตอรี่

สรุป

ให้คำแนนเต็มเลยสำหรับ Hoover ONEPWR FloorMate JET ในเรื่องของการทำความสะอาด สามารถดูดได้ทั้งเศษอาหารสัตว์เลี้ยงหรือแม้กระทั่งน้ำหวานหก เวลาทำความสะอาดไม่ต้องคอยดูดฝุ่นและถูพื้นเหมือนแต่ก่อน (ประหยัดเวลาไปได้เท่าตัวนึง) พอถูพื้นไปสักพักผ้าเริ่มสกปรก ก็ไม่ต้องถอดออกมาซักให้เลอะมือ อันนี้ให้คะแนนเต็มในเรื่องของการใช้งาน ส่วนหน้าตาอาจดูใหญ่เทอะทะไปบ้าง

สำหรับใครที่สนใจ Hoover ONEPWR FloorMate JET ราคาอยู่ที่ 16,900 บาท (ปกติ 22,900 บาท) สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ผ่าน Shopee หรือหากใครสนใจจะไปดูผ่านเว็บไซต์ AllAboutBotStore.com ก็ได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวผู้เขียนชอบซื้อผ่าน Shopee มากกว่า เพราะมีโค้ดส่วนลดเยอะตามเทศกาล และก็มีความสะดวกในการสั่งซื้อดี ส่วนการรับประกันก็ไม่ได้แตกต่างกัน

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial