เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นกลางราคาประหยัด HONOR 70 5G Series โดยในครั้งนี้บอกเลยว่าโดนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดีไซน์ กล้อง และหน้าจอ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ HONOR X6, HONOR Pad 8 และ HONOR Band 6 พร้อมกับสมาร์ตโฟน HONOR X7 และ HONOR X8 ที่ทางเราเคยได้พรีวิวไปก่อนหน้านี้

HONOR 70

สมาร์ตโฟน HONOR 70 เปิดตัวราคา 16,990 บาท มีจุดเด่นเรื่องดีไซน์ที่ได้รับรางวัล BEST Product 2022-2023 จากงาน EISA Award นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้เซนเซอร์ภาพ IMX800 มีการรวมเอาเลนส์ Ultra Wide และ Macro ไว้ในกล้องตัวเดียว มีลูกเล่นเหมาะกับสาย Vlog ไม่ว่าจะเป็น Solo Cut, Dual View และอื่น ๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อการถ่ายวิดีโอ

ส่วนเรื่องการใช้จริงหากใครกังวลเรื่อง Play Store รุ่นนี้มีมาให้จากโรงงานเลย (ไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม) สามารถใช้งาน Google Mobile Service ได้เต็มรูปแบบ และผู้ให้บริการหลังการขายของแบรนด์นี้ก็คือ SYNNEX มีศูนย์บริการมากมายทั่วประเทศ เชื่อมั่นได้ภายใต้ตราสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX

สเปกและคุณสมบัติ

  • ระบบปฏิบัติการ Android 12 (ครอบทับด้วย Magic UI 6.1)
  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.67″ ความละเอียด Full HD+ (1080 × 2400) 120 Hz
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 778G+
  • แรม 8 GB
  • รอม 256 GB (ไม่รองรับ microSD)
  • กล้องหลังแบบ 3 เลนส์ (AI Matrix Camera) – IMX800 Super Sensing
    • กล้องหลัก 54 MP F/1.9
    • กล้องมุมกว้างและมาโคร 50 MP F/2.2
    • กล้องความลึก 2 MP F/2.4
  • กล้องหน้า 32 MP F/2.4
  • รองรับสองซิม 5G (ไม่แชร์ช่องใส่ซิม)
  • รองรับ Bluetooth 5.2, Wi-Fi 6
  • แบตเตอรี่ 4800mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W
  • ขนาด 161.4 × 73.3 × 7.91 มม.
  • น้ำหนัก 178 กรัม

การออกแบบ

ยอมรับเลยว่า HONOR 70 ออกแบบมาได้หรูหราเกินตัวมาก เหมือนกับสมาร์ตโฟนราคาสองสามหมื่นบาท โดยเครื่องที่ขายจะมีสี Crystal Silver (ตัวที่รีวิว) และ Midnight Black มีการวางโมดูลกล้องแบบวงแหวนคู่ ให้ความรู้สึกหรูหราและสมมาตรในทุกมิติ ส่วนสโลแกนรุ่นนี้ก็คือ Seize the Moment เน้นกล้องเป็นหลัก แต่ส่วนตัวผู้รีวิวมองว่าเรื่องจอกับดีไซน์เขาก็สวยไม่แพ้กัน

ตัวเครื่องนอกจากจะเป็นสีเงินประกายเพชรเหลี่ยมข้าวหลามตัด (Crystal Silver) ยังมาพร้อมกับความหนาเพียง 7.91 มม. ทำให้คุณสามารถเก็บเข้ากระเป๋าได้อย่างง่ายดาย บวกกับน้ำหนักเบาเพียง 178 กรัม ถือใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวหนัก และไม่เพียงแค่ด้านหลังแต่ด้านหน้าก็สวยงามด้วยจอโค้งที่ไร้ขอบ

หน้าจอ

แม้ว่าจะไม่ถูกพูดถึงเท่าไหร่แต่หน้าจอของ HONOR 70 ดีพอที่จะใช้เป็นจุดขายเลยด้วยซ้ำ ด้วยหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ 6.67″ กระจกแบบโค้งดูไร้ขอบ (เครื่องไม่หนา) มาพร้อมกับรูกล้องหน้าตรงกลางแบบ Punch Hole ความละเอียด 32 MP รองรับการแสดงผล 120Hz และสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย

สำหรับสายดูหนังหรือเล่นเกมก็คือตอบโจทย์เลย เพราะหน้าจอรองรับ HDR10+ สามารถสู้แสงนอกอาคารได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการแสดงผล 10-Bit มากกว่า 1.07 พันล้านสี พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz เล่นเกมลื่นไหลทุกมิติ พร้อมคุณสมบัติ High-Frequency PWM dimming สูงถึง 1920Hz

ประสิทธิภาพ

ขุมพลังภายใน HONOR 70 มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับโลกอย่าง Qualcomm Snapdragon 778G+ มาพร้อมกับแรม 8 GB แต่ถ้าหากยังไม่พอก็สามารถเพิ่มได้อีก 2 GB (HONOR RAM Turbo) ส่วนหน่วยความจำ 256 GB ก็เหลือเฟือสำหรับการถ่าย Vlog เอาไปเล่นเกมสุดฮิตได้แบบปรับสุดไม่ต้องกลัวสะดุด

ตัวเครื่องเปิดตัวมาเข้าคู่กับนาฬิกาอัจฉริยะ HONOR Band 6 (ถ้าได้ใช้ด้วยกันจะเข้าคู่กันมาก) ส่วนเรื่องการใช้งานเป็น Magic UI 6.1 ใช้งานง่ายบน Android 12 ใหม่ล่าสุดกับ Google Mobile Service เต็มรูปแบบ ชาร์จเร็วแบตเตอรี่เต็มเพียงแค่ 45 นาที ด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว 66W HONOR SuperCharge

กล้อง

จุดเด่นสุดของรุ่นไม่พูดไม่ได้กับสโลแกน Seize the Moment ที่จะเห็นกล้องทั้งหมด 3 เลนส์ สามารถใช้ถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยมดุจมืออาชีพ แต่ที่ดีกว่านั้นคือคุณสมบัติด้านวิดีโอเหมาะกับคนชอบ LIVE, VDO Call, Youtuber หรือ TikTok ด้วยประสิทธิภาพของเซนเซอร์ภาพ IMX800 ขนาดใหญ่ถึง 1/1.49 นิ้้ว

Hardware ดีอย่างเดียวคงไปได้ไม่รอด หากไม่มี Software ที่ช่วยเกื้อหนุนอย่าง HONOR Image Engine ปลดล็อกศักยภาพในการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ทั้งในที่มืดหรือถ่ายภาพย้อนแสง และด้วยความละเอียดสูงถึง 54 MP จึงช่วยให้มั่นใจได้เลยว่าทุกภาพและวิดีโอที่ถ่ายออกมาจะคมชัดสวยงาม

ฟีเจอร์สุดล้ำสำหรับสาย Vlog

ยุคนี้คนถ่าย Short VDO กันเยอะมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Facebook Reels, YouTube Shorts หรือแม้กระทั่ง TikTok และทุกคนต้องการความ “แตกต่าง” จุดแข็งรุ่นนี้มีฟีเจอร์ด้านวิดีโอมากมาย โดยที่คุณสามารถถ่ายครั้งเดียวโดยไม่ต้องตัดต่ออะไรอีก ยกตัวอย่างการเปิดสองกล้องพร้อมกันของ Dual View หรือการถ่ายสองไฟล์พร้อมกันอย่าง Solo Cut ที่เลือกถ่ายเฉพาะบุคคลและแยกออกได้สองไฟล์อิสระ หรือจะชอบถ่ายแนวตั้งและแนวนอนพร้อมกันอย่าง Double Excellence ก็สามารถทำได้ง่ายดาย

Dual View

การถ่าย Dual View มีความพิเศษมากกว่าการเปิดกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน แต่สามารถเลือกรูปแบบการจัดวางได้ สามารถเลือกกล้องหลังทั้งคู่เลยก็ได้ (คนละระยะกัน) แต่หากใครไม่ถนัดถ่ายวิดีโอแบบนี้ HONOR 70 ก็มีให้เลือกชุดรูปแบบให้ถ่ายตามได้เลย กดตามคำแนะนำเพียงไม่กี่ครั้งก็ได้วิดีโอที่สวยงาม

Solo Cut

การถ่าย Solo Cut เป็นการทำงานร่วมกับ AI เพื่อจับภาพคนหรือวัตถุในวิดีโอ สมมุติว่าเราถ่ายบรรยากาศโดยรอบ เราสามารถเลือกคนที่ต้องการ (Motion Track) เพื่อจับภาพคนนั้นโดยเฉพาะแล้วแยกเป็นอีกวิดีโอหนึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นก็จะได้วิดีโอสองไฟล์ เหมาะกับคนอยากถ่ายครั้งเดียวได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน

HONOR Vlog

นอกจากคุณสมบัติ Dual View และ Solo Cut ยังมีคุณสมบัติอีกมากมายเพื่อสนับสนุนการถ่าย Vlog ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Slow-motion ที่สามารถช้าลงได้ถึง 4 เท่า (Full HD) หรือ 8 เท่า (HD) นอกจากนี้การถ่ายตอนกลางคืนก็ยังคงสามารถทำได้ดีเช่นกัน มีแนวทางให้ถ่ายตามแบบฉบับ HONOR Vlog ใช้ง่ายมาก

กล้องหลัง 54 MP

ด้วยประสิทธิภาพของกลังหลังผ่านเซนเซอร์ IMX800 รหัสเดียวกับรุ่นเรือธง ขนาดเซนเซอร์ใหญ่ถึง 1/1.49″ รูรับแสงกว้าง F/1.9 ให้ความละเอียด 54 MP และประมวลผลผ่าน HONOR Image Engine แม้ว่าจะถ่ายในฤดูฝนที่มีเมฆมากและแดดไม่ดี แต่ก็ยังถ่ายภาพบุคคลออกมาได้ดีเยี่ยม

ทีนี้เราลองมาถ่ายวิวก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ AI เลือกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมฆหรือทะเลก็ให้สีสรรที่สวยงาม หรือแม้ว่าจะเป็นภาพตอนกลางคืนก็ยังคมจับโฟกัสได้ง่าย และจัดการกับแสงรบกวนได้ค่อนข้างดี ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนราคาหมื่นกลาง ๆ เท่านั้นเอง

โหมดกลางคืน (มีฟีเจอร์นี้แยกออกมาโดยเฉพาะ) สามารถทำได้ดีแม้ว่าจะเป็นการถ่ายบุคคลในพื้นที่แสงน้อย มีการใช้ AI มาช่วยในการจัดการเรื่องสี สามารถแยกบริเวณสว่างและมืดสุดของภาพได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ภาพที่สวยแม้ว่าผู้ถ่ายเองจะไม่มีความรู้เรื่องพื้นฐานการถ่ายภาพเองก็ตาม

กล้องมุมกว้างและมาโคร 50 MP

สองเลนส์ในหนึ่งเดียวสำหรับมุมกว้างและมาโคร (สะดวกดี) ให้ความละเอียดเท่ากันคือ 50 MP และแม้ว่าจะมีรูรับแสงที่แคบลงมาหน่อย ทำให้แสงอาจจะดูลดลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกล้องหลัก แต่โดยรวมก็ยังสามารถหวังผลใช้งานจริงได้ กล้องมุมกว้างสามารถเก็บได้ถึง 122 องศา และมีการแก้ไขสัดส่วนไม่ให้บิดเบี้ยวด้วย AI ส่วนกล้องมาโครสามารถถ่ายได้ใกล้สุดถึง 2.5 ซม.

กล้องหน้า 32 MP

การถ่ายเซลฟี่ก็ยังคงทำได้ดีอีกเช่นเคย มีกล้องหน้าความละเอียดสูง สามารถถ่ายเซลฟี่ได้แบบไม่ต้องอายใคร และหากใครอยากได้ Beauty Mode อันนี้ก็มีมาให้เลยเช่นกัน ส่วนใครต้องการโบเก้ (เบลอพื้นหลัง) ก็สามารถปรับจำลองจากหน้ากล้องได้เลย มีความเนียนอยู่ประมาณหนึ่ง

ตามที่โฆษณาคือรุ่นนี้เด่นที่กล้องวิดีโอ เหมาะสำหรับคนชอบถ่าย Vlog มีฟีเจอร์ช่วยให้การเล่าเรื่องง่ายขึ้น ประทับใจสุดคือ Solo Cut เพียงแค่เราเลือกคนที่ต้องการติดตามในวิดีโอ ระบบก็จะจับวิดีโอแยกเป็นไฟล์ออกมาให้ต่างหาก เหมาะสำหรับคนที่ขี้เกียจถ่ายสองรอบหรือไม่อยากตัดต่อให้เหนื่อย

ข้อดี

  1. กล้องหลัก 54 MP เซนเซอร์ IMX800
  2. กล้องมุมกว้าง 50 MP พร้อมถ่ายมาโคร
  3. ชาร์จเร็ว 66W HONOR SuperCharge
  4. หน้าจอ OLED ไร้ขอบ 1.07 พันล้านสี
  5. เหมาะสำหรับคนชอบถ่าย Vlog

ข้อเสีย

  1. ไม่รองรับ microSD
  2. ไม่รองรับหูฟัง 3.5 มม.

สรุป

สำหรับค่าตัวในราคา 16,990 บาท เรามองว่า HONOR 70 ทำราคาออกมาได้ “ถูกเกินไป” แทบจะหาข้อติแทบไม่ได้เลย รุ่นเดียวใช้งานได้ครบเครื่องโดดเด่นทั้งกล้องและจอ รองรับชาร์จไวแถมอะแดปเตอร์มาให้เลย ฟิล์มก็มีมาให้เคสก็มีมาให้ แทบไม่มีการตัดฟีเจอร์อะไรออก รองรับ WiFi 6 แถมยังมี NFC มาให้อีกไม่รู้ว่าจะคุ้มไปไหน ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องก็หรูหราเกินเบอร์ไปเยอะมากจริง ๆ

สำหรับคนที่อ่านรีวิวแล้วสนใจสมาร์ทโฟน HONOR​ 70 สามารถเป็นเจ้าของ​ได้แล้ววันนี้ที่ HONOR Official Store บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย HONOR ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางร้านค้าออนไลน์
ทุกแพลตฟอร์ม

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial