fbpx
Review Mobile

รีวิว Honor 10 สมาร์ทโฟน 2018 คุ้มเงินที่สุดในตอนนี้ AI Camera ความจุ 128 GB

16219

สมาร์ทโฟน 2018 รุ่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น Honor 10 หลังจากเปิดตัวในราคาสุดถูก ซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนก็คุ้ม ได้ทั้งกล้องคู่ AI Camera สเปคสุดแรงพร้อมวัสดุสุดหรู ดีไซน์เทียบชั้นสมาร์ทโฟนราคาสองสามหมื่นได้สบาย นอกจากนี้ออเนอร์ยังไม่กั๊กสเปค ให้ความจุมาแบบไม่หวง 128 GB นาทีนี้ราคาหมื่นกว่าบาท ไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว ดีไม่ดีคนที่ตั้งงบไว้สองหมื่นกว่าบาทอาจปันใจเปลี่ยนมาซื้อรุ่นนี้แทน

Honor 10
Honor 10

Honor 10

ก่อนอื่นมาพูดถึงราคากันก่อน Honor 10 รุ่นนี้กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทย วันที่ 6 มิถุนายน 2018 แต่ข่าวดีก็คือเราสามารถสั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงก่อนวันเปิดตัว โดยจะได้รับของแถมรวมมูลค่า 2,580 บาท หากใครสนใจสามารถเข้าไปจองได้ที่ Lazada มีสองสีให้เลือก (Midnight Black กับ Phantom Blue) ราคา 13,990 บาท นับว่าเป็น สมาร์ทโฟน 2018 ที่คุ้มเงินสุดในตอนนี้

ออเนอร์ได้จัดให้ Honor 10 อยู่ในตระกูล N ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดในทั้งหมด 4 ซีรี่ส์ (View, N, X, Lite) หนักเน้นไปที่ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด แต่ก็ยังคงความสวยงามในการออกแบบ ซึ่งจุดเด่นรุ่นนี้นั้นมีหลากหลาย แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็จะเป็นเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่อยู่ในตัวเครื่อง หากสรุปแล้วจะแบ่งรุ่นดังนี้

  • Honor View : เน้นความทนทาน
  • Honor N : เน้นประสิทธิภาพสูงสุดและความสวยงาม
  • Honor X : เน้นความทันสมัยและเข้าถึงได้ง่าย
  • Honor Lite : เน้นคุณสมบัติใหม่ ๆ

จะเห็นได้ว่าตระกูล N ไม่เพียงแค่ประสิทธิภาพ แต่ยังมีต่อท้ายคำว่าความสวยงามอีกด้วย ดังนั้นดีไซน์และวัสดุของมันจึงย่อมไม่ธรรมดา มีทั้งการใช้สี วัสดุ และการตกแต่งขั้นสุดท้าย (CMF) โดยก่อนหน้านี้ Honor 8 และ Honor 9 ก็เคยได้รับรางวัลด้านการออกแบบมาแล้วเช่นกัน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ารุ่นล่าสุดนี้จะสวยขนาดไหน

เริ่มต้นจากวัสดุลืมพลาสติกไปได้เลย และถึงแม้อลูมิเนียมจะได้ความแข็งแรง แต่ก็ไม่อาจมอบความสวยงามขั้นสูงสุดให้ได้ ออเนอร์จึงเลือกใช้วัสดุกระจกแบบ 2.5D ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยแต่ละด้านประกอบไปด้วยกระจกจำนวน 15 ชิ้น หยิบนำมาซ้อนกันด้วยความปราณีต เพื่อให้เกิดความมันวาวราวสะท้อนกับแสงที่มุมต่างกันออกไป

น่าเสียดายที่รุ่นนี้เป็นสี Midnight Black จึงอาจไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไหร่นัก (แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนสีสุภาพ) แต่หากเป็น Phantom Blue หรือ Phantom Green คุณจะพบว่าสีมันไล่ระดับ และเปลี่ยนไปทุกครั้งเมื่อขยับหรือเปลี่ยนมุมมอง แถมสีม่วงในนั้นยังเป็นสีที่ Pantone ประกาศให้ Ultra Violet เป็นสีของปี 2018

ทั้งหมดอาศัยหลักการสะท้อน การหักเหของแสง การรบกวนของแสง และการเบี่ยงเบนของแสง โดยกระบวนการทั้งหมดเหล่านี้ ถูกสร้างขึ้นผ่านอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพ เพื่อประกอบแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน แถมยังใช้เวลาเทียบเท่าการผลิตสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง (ในขณะที่ยังได้แค่ฝาหลัง) มั่นใจได้ถึงความงามที่เป็นเอกลักษณ์

ตัวเครื่องเลือกใช้ USB-C ตามสมัยนิยมของ สมาร์ทโฟน 2018 (รองรับชาร์จเร็ว 5V/4.5A SuperCharge) แต่ก็ยังคงมาพร้อมกับ 3.5 มม. นอกจากนี้ยังมีชิปเซ็ต AI พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลพิเศษ แถมให้มาแบบไม่กั๊กสเปคด้วย RAM 4 GB + ROM 128 GB ส่วนกล้องหลังเป็นเลนส์คู่ 20 MP + 16 MP, กล้องหน้า 16 MP นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย EMUI 8.1

เกริ่นกันอีกนิดในกล้องคู่ ซึ่งเราจะขยายความเพิ่มทีหลัง โดยกลังหลังจะเป็นกล้องขาวดำ (20 MP) และกล้องสี (16 MP) รูรับแสง F/1.8 ซึ่งทั้งคู่จะทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้โฟกัสที่เร็วขึ้น แถมยังให้ประสบการณ์ถ่ายภาพเทียบชั้นมืออาชีพ เมื่อทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลพิเศษ NPU ภายในชิปเซ็ต AI

สแกนนิ้วมือเป็นสิ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะรุ่นนี้ “แตกต่าง” จากสมาร์ทโฟนทั่วไป เนื่องจากเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังบนกระจก เรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่องเลย (แต่ที่เห็นในภาพคือติดฟิล์มกันรอยไว้) นับเป็นอะไรที่ใหม่มากและเป็นครั้งแรกของ Ultrasonic Fingerprint ใช้งานได้ทั้งตอนนิ้วเปียก เท่าที่ทดสอบมันเร็วมากครับ

ในบางครั้งเราก็ไม่สะดวกสแกนใบหน้า และในบางครั้งเราก็ไม่สะดวกสแกนนิ้วมือ ดังนั้นออเนอร์จึงใส่มาให้ทั้งคู่แบบไม่ต้องเลือก ด้วยความเร็วสแกนใบหน้าระดับ 0.064 วินาที จากการที่ได้ทดสอบคือมันเร็วมาก หยิบขึ้นมาก็ปลดล็อคได้ชนิดที่ว่าพร้อมใช้งานเลย

ความกว้างของช่วงสีที่จอภาพรองรับถึง 96%

ส่วนหน้าจอไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ เพราะเป็น FullView 2.0 หน้าจอไร้ขอบขนาด 5.84″ อัตราส่วน 19:9 ทำให้มีพื้นที่แสดงผลถึง 86% ของตัวเครื่อง แต่เห็นหน้าจอใหญ่แบบนี้แต่ขนาดจริงตัวเครื่องกลับไม่ใหญ่ตาม สามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว

AI Camera
AI Camera

AI Camera

การถ่ายรูปของ Honor 10 มีลูกเล่นเยอะมากจนเล่าไม่หมด (เยอะจริง) สรุปแบบสั้นก็คือมันมีชิปเซ็ต AI พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลพิเศษ Neural Processing Unit (NPU) แบบอิสระภายใน พูดภาษาชาวบ้านก็คือกล้องมันรับรู้ถึงสิ่งที่เราจะถ่าย และปรับการตั้งค่าให้เราโดยอัตโนมัติ เพื่อที่ว่าจะทำให้เราได้ภาพที่ดีที่สุด

รู้จักภาพ 500 ประเภทใน 22 หมวดหมู่

สมัยก่อนเราเชื่อว่าคอมพิวเตอร์คิดเองไม่เป็น แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี AI ช่วยให้กล้องเรียนรู้ได้ว่าตอนนี้เรากำลังถ่ายภาพคน, ต้นไม้, วิว, สัตว์เลี้ยง, ฯลฯ แถมรุ่นนี้ไม่ได้รับรู้แค่เพียงวัตถุอย่างเดียว แต่ยังสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งที่อยู่รอบข้างวัตถุได้อีกด้วย เช่น ต้นไม้, ท้องฟ้า, คน, น้ำตก, ฯลฯ (อย่างในภาพลูกเกดที่อยู่ในโหลมันก็ยังรู้)

ภาพในโหมด Auto
ภาพในโหมด Auto
ภาพในโหมด AI
ภาพในโหมด AI

ตัวอย่างภาพลูกเกดด้านบนคือในโหมด Auto และ AI ซึ่งจะเห็นได้ว่ากล้องรับรู้ว่าเป็นอาหาร (และเปลี่ยนการตั้งค่าให้) ทำให้ได้ภาพสีสดใสน่าทานเหมาะกับอาหาร จากเดิมที่เป็นภาพแบบตุ๋น ๆ ธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าหากเป็นภาพชนิดอื่นก็อาจมีการตั้งค่าที่แตกต่างกันไป ช่วยให้คนที่ไม่มีทักษะในการถ่ายภาพสามารถได้รูปสวย ๆ แบบมืออาชีพ

ลองเปลี่ยนจากลูกเกดเป็นมะกรูด AI มันก็รู้ว่าไม่ใช่อาหาร เลยทำการเปลี่ยนเป็นโหมดธรรมชาติ (พืช) ให้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดกล้องใหม่ สีที่ได้ก็สวยงามดีเป็นเขียวที่สดใสน่ามองตา แต่หากคุณไม่ชอบก็สามารถเอาออกได้ครับ

และด้วยความที่กระแสเดี๋ยวนี้ฮิต AR กับ 3D ทางออเนอร์ก็จัดเต็มให้เช่นกัน มีลูกเล่นอื่นอีกเพียบ เช่น การปรับแสงไฟแบบสตูดิโอ, สโลว์โม, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายหน่วงเวลา, ถ่ายวาดแสง, ปรับความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสง, ฯลฯ

ความกังวลเกี่ยวกับ “ติ่ง” หน้าจอที่หลายคนกังวล อันนี้อยากบอกว่าเฉย ๆ มากครับ ถึงแม้จะเป็นสัดส่วน 19:9 แต่ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่มันจะเต็มหน้าจอ (ยกเว้นแต่พยายามขยายมันแบบในภาพนี้) เพราะพื้นที่ด้านบนจะเว้นไว้ให้กับพวกการแจ้งเตือนและสถานะแบตเตอรี่, เครือข่าย, ฯลฯ และจากที่ทดสอบทั้งดูหนังรวมถึงเล่นเกมก็ปกติดีครับ

EMUI 8.1
EMUI 8.1

EMUI 8.1

Honor 10 มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการใหม่ล่าสุด Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย EMUI 8.1 ทำให้มั่นใจได้ถึงความลื่นไหลและความปลอดภัยล่าสุดที่ Google มอบให้มาตั้งแต่เริ่มใช้งาน (ไม่ต้องรอลุ้นอัปเดตให้เสียเวลา) การใช้งานเรียบง่าย แต่ก็ยังแฝงไปด้วยลูกเล่นอีกมากมายให้รอการค้นหา ยกตัวอย่างอันนี้ผมชอบก็มี

  • บันทึกหน้าจอเป็นวิดีโอ
  • บันทึกหน้าจอเป็นภาพแบบยาว
  • การกำหนดพื้นที่ส่วนตัว, ล็อคแอปฯ, เข้ารหัสไฟล์
  • แชร์ไฟล์จากคอมฯ ในเครือข่าย (Huawei Share)
  • โหมดป้องกันการรบกวนเล่นเกม (Game Suite)
  • รีโมทอินฟราเรดควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • โคลนแอปพลิเคชัน
  • แบ่งสองหน้าจอ

อันนี้เพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น เพราะเท่าที่ดูมันมีลูกเล่นอีกเยอะ ส่วนใครไม่ถนัดใช้ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจากที่ลองเล่นดูเมนูทั้งหมด ภาษาไทย แปลเสร็จเรียบร้อยเข้าใจง่ายครับ คีย์บอร์ดมีให้เลือกทั้งแบบดั้งเดิม (ตัวอักษรวางเรียบร้อยสวยงาม) และแบบภาษาไทยตัวใหญ่เต็มตาเอาใจผู้สูงวัย

ตัวเครื่องถึงแม้จะระบุว่า 128 GB แต่หลังจากติดตั้งระบบปฏิบัติการเรียบร้อยเปิดใช้มาเหลือ 113 GB ซึ่งก็เหลือเฟือพอที่จะติดตั้งแอปพลิเคชันและเกม รวมถึงใส่หนังหลายเรื่องได้อย่างสบาย ส่วนใครชอบถ่ายรูปก็เก็บกันได้เลยไม่ต้องคอยมานั่งลบออก แรมให้มา 4 GB กำลังดีตามสมัยนิยมและเหลือให้ใช้อีก 1.23 GB ลื่นไหลไม่มีกระตุก

อย่างที่บอกคือกล้องมีลูกเล่นเยอะมาก จึงขอพูดเฉพาะส่วนที่ใช้กันบ่อยอย่างการปรับรูรับแสง (เบลอหลัง) สามารถทำได้ถึง F/0.95 นอกจากนี้ยังสามารถจัดแสง 3D ได้แบบไฟสตูดิโอ (มีให้เล่นเยอะมาก) และโหมดที่ขาดไม่ได้ก็คือ AI Camera นั่นเอง ซึ่งหากถ่ายและไม่ชอบที่มันปรับมาก็สามารถแก้ไขทีหลังได้ครับ

ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้คะแนนไปถึง 200,205 คะแนน จึงสามารถเรียกได้เต็มปากว่ามันเป็นหนึ่งในเรือธงของ สมาร์ทโฟน 2018 คุ้มเงินที่สุดในตอนนี้ และเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ได้คะแนนสูงที่สุดในตอนนี้อยู่ที่ 264,638 คะแนน แต่ราคาเปิดตัวสามหมื่นกว่าบาท จึงไม่แปลกใจที่หลายคนเริ่มหันมามอง Honor 10 ที่ถึงแม้สเปคจะด้อยกว่าแต่คุ้มราคากว่ามาก

เปรียบเทียบ AI Camera
เปรียบเทียบ AI Camera

Camera

ด้านบนจะเป็นความพยายามเทียบโหมด Auto (ซ้าย) กับ AI (ขวา) ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันพอสมควร เกี่ยวกับสีของภาพและความสวยงามที่ได้ โดยส่วนตัวเปิดโหมด AI ถ่ายสัก 10 รูปจะประทับใจสัก 9 รูป ซึ่งน้อยมากที่รูปจะออกมาแล้วไม่พอใจ เช่น สีเพี๊ยนเกินความต้องการ แต่ถึงอย่างไรเราก็สามารถเลือกเอาออกได้ครับ

ด้านบนจะเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจาก Honor 10 ซึ่งเปิดโหมด AI Camera ทุกรูป และไม่มีการแก้ไขภาพนอกจากเพียงแค่ย่อขนาด เพื่อให้สามารถแสดงผลบนเว็บไซต์ได้อย่างลื่นไหล แต่หากใครต้องการดูภาพต้นฉบับทั้งหมดสามารถไปดูได้ที่ Imgur จากลิงก์ที่ด้านล่าง

Photos taken with Honor 10

สรุป

สมาร์ทโฟน 2018 คุ้มเงินที่สุดในตอนนี้ จัดเต็มมาด้วยสเปคเกือบทุกด้าน ในราคาเพียงแค่หมื่นกว่าบาท ได้แม้กระทั่ง NFC ใส่ซิมได้สองซิม 4G มีทั้งสแกนใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ ยังไม่วายมีรีโมทอินฟราเรดฝังมาให้อีก ส่วนคุณภาพของ AI Camera เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ คุ้มขนาดนี้คงหาไม่ได้อีกแล้ว (ในตอนนี้) น่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่ว่าไม่มีโปรโมชั่นร่วมกับค่ายมือถือ ไม่งั้นจะยิ่งถูกลงไปกว่านี้อีก!

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial

REVIEW OVERVIEW
การออกแบบ
ใช้งานจริง
ความคุ้มค่า
คุณภาพวัสดุ
บริการหลังการขาย
Previous article[PR] กรุงศรี มอบเอกสิทธิ์ที่เหนือกว่า ทั้งด้านการเงิน และไลฟ์สไตล์
Next article[PR] Pioneer เปิดตัวสายชาร์ตและโอนย้ายข้อมูลคุณภาพสูง
review-honor-10ที่สุดแห่งความคุ้มค่าของ สมาร์ทโฟน 2018 ได้ครบจบในเครื่องเดียว แต่หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อออเนอร์เท่าไหร่ เลยทำให้เกิดความกังวลใจไปบ้าง แต่เชื่อเถอะครับว่าออเนอร์คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน และมีความเชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนไม่น้อยไปกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ยังไงขอให้เปิดใจดูครับ เพราะถูกและดีนั้นมีอยู่จริง!