หากพูดถึง Mini PC สมัยก่อนเป็นอะไรที่แพงมาก แต่เดี๋ยวนี้ราคาไม่สูงอย่างที่คิด GEEKOM Mini PC MiniAir 11 ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับ Intel INSIDE และ Windows 11 Pro เปิดมาพร้อมใช้งานเลย ที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีก็เพียงแค่หน้าจอ (ซึ่งเดี๋ยวนี้ถูกมาก) แล้วก็พวกเมาส์กับคีย์บอร์ดเท่านั้นเอง เห็นเล็กแบบนี้จะทำงานออกมาได้คุ้มค่าตัวมั้ยไปดูกัน
GEEKOM Mini PC MiniAir 11
GEEKOM เป็นแบรนด์จากจีนที่ทำตลาดในเมืองไทย โดยสามารถสั่งซื้อง่าย ๆ ผ่านทาง Shopee โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ประมาณ 5,xxx บาท (บวกลบนิดหน่อยตามค่าเงินและโปรโมชั่น) สำหรับสเปกของ GEEKOM Mini PC MiniAir 11 ก็มีให้เลือกได้ตั้งแต่เครื่องเปล่าไม่มี RAM + SSD หรือจะเลือกว่าเอา RAM 8/16GB, SSD 256/512GB อันนี้แล้วแต่สะดวกเลย
กรอกโค้ด GEEK00001 ลดเพิ่มอีก 999 บาท
สำหรับการสั่งผ่าน Shopee อันนี้รับประกันได้เลยว่าได้ของเพราะ ช้อปปี้การันตี ส่วนผู้ขายก็ยินดีเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ภายใน 7 วัน ส่วนประกันเครื่องทั่วไปอยู่ที่ 3 ปี แต่โดยรวมแล้วด้วยราคาของเครื่องมันก็ไม่ได้แพงอะไรมาก ตรงนี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงลงได้นิดนึง ใครที่เคยซื้อมือถือเครื่องหิ้วน่าจะพอเข้าใจกันดี เพราะถ้าเกิดไปซื้อแบรนด์หลักที่มีศูนย์กันยังไงก็ต้องหมดหมื่นแน่นอน
สเปกเครื่อง
- CPU : 11th Gen Intel® Celeron® Processor N5095 (4 Cores, 4 Threads, 4M Cache, up to 2.90 GHz) TDP 15W
- GPU : Intel® UHD Graphics 605
- RAM : Dual-channel DDR4 SODIMM, 8GB; expandable up to 32GB
- SSD : 1 x SSD (2280 M.2 PCIe/SATA), 256GB; expandable up to 1TB
- Operating System : Windows 11 Pro
- Connection : Bluetooth® v4.2, Intel® 10/100/1000 Mbps Ethernet, Intel® Wi-Fi 5
- Size : 117 x 112 x 34.2 mm
- Weight : 500.3 g
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- MiniAir 11 Mini PC
- VESA Mount
- Power Adapter
- HDMI Cable
- User Guide
- Thank You Card
เรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่ออันนี้ให้มาครบมากไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Gen 2 หรือ USB-C (ข้อมูลอย่างเดียวจ่ายไฟไม่ได้) ช่องเสียบหูฟังและไมค์ ส่วนช่องด้านซ้ายสุดเข้าใจว่าจะเป็นไมค์ในเครื่อง เรื่องลำโพงอันนี้ไม่ได้ตรวจสอบว่าเสียงเป็นยังไง (แต่เข้าใจว่าไม่มี) ซึ่งการที่เราเสียบกับจอ HDMI อันนี้ปกติก็มักจะมีลำโพงในจอมาอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อคุณภาพเสียงที่ดียังไงใช้ลำโพงแยกเอาดีกว่า
ด้านข้างมีช่องเสียบ SD Card อันนี้สะดวกดีเวลาโอนรูปถ่ายไม่ต้องหา Card Reader
ด้านหลังเรียงกันไปเลยก็จะมีช่องเสียบจ่ายไฟ 45Watts (19V/2.36A), Mini DisplayPort, LAN, USB 3.2 Gen 1, USB-C และ HDMI 1.4 อันนี้ชอบมากทุกอย่างเพราะบางแบรนด์ไม่ชอบให้ HDMI แต่ให้เป็น DisplayPort (เข้าใจว่าลดต้นทุน) แต่อันนี้ก็แอบเคืองนิดนึงที่ให้เป็น Mini DisplayPort แต่ก็ช่างมันเถอะไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว ยังไงหลักก็ขอให้เป็น HDMI ก็พอ
ส่วนอีกฝั่งเป็น Kensington Lock กันเครื่องหายอะไรก็ว่ากันไป
การออกแบบ
วัสดุตัวเครื่องกรอบเป็นโลหะดูแข็งแรงดี ส่วนน้ำหนักก็ไม่ได้มากมายอะไรประมาณ 500 กรัม (ประมาณมือถือสองเครื่อง) ส่วนขนาดก็ถือว่าเล็กกว่ามือถือเยอะกว่าเพียงแต่มีเรื่องความหนาเท่านั้นเอง สามารถพกพาใส่กระเป๋าหรือถือมือเดียวก็สะดวก ชอบตรงมี VESA Mount ให้มาเลยจะเอาไปติดหลังจอหรือกำแพงอะไรก็สะดวก (แบรนด์อื่นส่วนใหญ่ไม่มีให้) โดยรวมแล้วงานประกอบทำได้ดี
ด้านล่างก็เป็นยางกันลื่นทั่วไปไม่ได้มีอะไรพิเศษ สามารถขันน็อตได้ง่ายดายเพียง 4 ตัวเท่านั้น แต่อันนี้ขอยอมรับตามตรงว่าไม่ได้แกะมา เพราะเป็นคนไม่ได้ชอบซุกซนอะไรขนาดนั้น ส่วนคนที่อยากอัปเกรดเพิ่มเติมสามารถทำเองได้เลย ส่วนตัวผมถ้าจะอัปเกรดก็คงทำตั้งแต่ตอนซื้อเลยสะดวกกว่า (ประหยัดด้วย) ส่วนตัวได้เป็นโมเดล 8GB + 256GB มาก็ถือว่าเพียงพอกับงานทั่วไปแล้ว
สำหรับคนชอบแงะใน Review ของเว็บไซต์ GEEKOM อันนี้มีคนทำให้แล้วเป็นช่องใส่ RAM จำนวน 2 สล็อต และช่อง M.2 SSD จำนวน 1 สล็อต สำหรับข้อจำกัดด้านขนาดรวมถึงไม่มีพอร์ตด้วย ทำให้ไม่สามารถใส่ HDD ขนาด 2.5″ เข้าไปได้ ซึ่งตามชื่อรุ่นของมันก็คือ Mini Air 11 ถ้าหากขนาดใหญ่มันก็คงจะแปลกเกินไป ดังนั้นหากต้องการอัปเกรดทำให้เสร็จตั้งแต่ซื้อเลยก็ดี
สุดท้ายเลยก็คือเรื่องของอะแดปเตอร์ อันนี้ให้มาขนาดเล็กไม่เกะกะเลย แต่ส่วนตัวอยากให้มันจ่ายไฟผ่าน USB-C มากกว่า อาจจะเป็นคำขอที่มากเกินงบประมาณไปหน่อย ถ้าทำได้มันจะสะดวกใช้งานมากเลยจริง ๆ อันนี้แอบเสียดายไปนิดนึง แต่ถ้าให้ใช้งานก็คือไม่ได้ติดอะไรนะ ขนาดเท่านี้ก็ยังคงพกพาได้อยู่ ไม่ต้องลากสายอะแดปเตอร์แบบโน๊ตบุ๊กรุ่นเก่าที่ไม่รู้ว่าขนาดมันจะใหญ่ไปไหน
ประสิทธิภาพ
ขึ้นต้นด้วยคำว่า Celeron หลายคนอาจจะส่ายหน้า แต่อยากบอกว่าถึงมันจะเป็น Celeron แต่ว่ามันเป็น 11th Gen Intel® Celeron® Processor N5095 รุ่นใหม่ที่ไม่ได้ช้าเลย (4 Cores, 4 Threads) ไม่ใช่ Dual-Cores แบบรุ่นก่อนหน้า และหากเทียบกับ i3-10110U หรือ i3-8145U ขอบอกเลยว่า N5095 ยังมีประสิทธิภาพพอฟัดพอเหวี่ยงกันในหลายด้าน
เปิดเครื่องมาแล้วพร้อมใช้งานแค่ได้ Windows 11 Pro อันนี้ก็เกินคุ้มมากแล้ว SSD ความจุเหลือให้ใช้จริงประมาณ 203GB ตัวเครื่องไม่ได้มี Bloatware หรือของแถมอะไรมาให้ขุ่นเคืองจิตใจ อันนี้ผู้รีวิวไม่ขอทดสอบคะแนนเพราะคิดว่า Google น่าจะมีให้อ้างอิงกันอยู่แล้ว แต่จากประสบการณ์ใช้งานทั่วไปในการท่องเว็บก็ไม่ได้ถึงกับอืด ใช้เพียงแค่ RAM 8GB ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เรื่องความแรงคือต้องอย่าลืมว่ามันเป็น Mini PC ถ้าจะให้แรงแบบ Desktop ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องของขนาดคงจะเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างก็คือเรื่องของพลังงานที่ใช้เพียงแค่ TDP 15W (ปกติ 65-95W) ดังนั้นยังไงก็ต้องมีข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากใช้ถูกกับงานก็ไม่ใช่ปัญหา พวกการเข้าเว็บไซต์ทั่วไป งานออฟฟิศ เล่นเกมนิดหน่อย หรือจะเป็นการดูหนัง 4K อันนี้ก็ประสิทธิภาพเหลือล้น
โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับคนที่อยากได้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อาจด้วยข้อจำกัดที่อยู่คอนโดหรือหอพัก อยากให้โต๊ะทำงานไม่เกะกะมากจนเกินไป หรืออาจเสียบกับทีวีเป็นเครื่องเล่นดูหนังฟังเพลงอันนี้ก็สะดวกกว่า Smart TV แถมต่อคีย์บอร์ดกับเมาส์ Bluetooth เข้าเว็บไซต์หรือพิมพ์อะไรก็สะดวกไปหมด อาจจะต่อเพิ่มกับจอยเกมทำเป็นเครื่องเล่นเกมขนาดเล็ก All-In-One ทุกอย่างก็ได้
ข้อดี
- ขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายสะดวก
- ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานพื้นฐาน
- ราคาไม่แพง มาพร้อมกับ Windows 11 Pro
ข้อเสีย
- มีช่อง M.2 สล็อตเดียว
- ต้องซื้อผ่านออนไลน์
สรุป
สำหรับ GEEKOM Mini PC MiniAir 11 ราคาอยู่ที่ 5,900 บาท หลังจากกรอกโค้ด GEEK0001 ผ่านทาง Shopee ก็ถือว่าไม่ได้แพงอะไรมากนักเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กยังไงก็ต้องมีหลักหมื่น แต่สำหรับคนที่มีจออะไรอยู่แล้วหรือจะมาใช้งานร่วมกับทีวีก็เป็นอะไรที่คุ้มค่า สามารถเสียบปลั๊กให้มันทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าไฟถือว่าถูกมาก ที่เหลือก็แล้วแต่ว่าคุณอยากจะซื้อมันไปทำอะไร ?
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial