FoodPanda คือ บริการสั่งอาหารออนไลน์ โดยใช้เพียงแอปพลิเคชันเดียวก็เข้าถึงได้เกือบทุกร้าน เหมาะสำหรับคนขี้เกียจออกจากบ้าน รถติด หรืออย่างเมื่อไม่กี่วันก่อนฝนตกอย่างแรงทั่วกรุงเทพฯ จนทำให้น้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้จึงขอมารีวิวแชร์ประสบการณ์มนุษย์เงินเดือนกัน
FoodPanda
หากคุณอยู่ในตัวเมืองกรุงเทพหรือหัวเมืองใหญ่ต่าง ๆ ใช่ว่าการที่มีเงินแล้วจะได้กินอาหารได้ เพราะบางร้านก็มีคิวค่อนข้างเยอะ กว่าจะได้คิวเข้าร้าน และกว่าจะได้อาหารที่สั่งตีไป 30-60 นาที ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ยังไม่นับรวมระยะเวลาในการฝ่ารถติดเพื่อที่จะเข้าไปกินร้านนั้น ดูเป็นอะไรที่ไม่ค่อยคุ้มกันเสียเลย
แต่หากคุณต้องการสั่งอาหารออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ บางร้านก็ไม่มีพนักงานให้บริการจัดส่ง (โดยเฉพาะที่ไกล ๆ) ผู้ให้บริการที่เป็นคนกลางอย่างแอปพลิเคชันนี้ ซึ่งมีเครือข่ายพนักงานจัดส่งอยู่ทั่วจังหวัด จึงมาช่วยให้บริการตรงจุดนี้ แถมยังมีราคาค่าจัดส่งที่เป็นมิตร กว่าการจ้างมอเตอร์ไซค์แถวบ้านไปรับมาก
ในการรีวิวครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการผ่าน เว็บไซต์ ซึ่งก็ดูง่ายดี แต่หากใครต้องการสั่งผ่านแอปพลิเคชันก็มีให้เลือกทั้ง Android และ iOS ส่วนการใช้งานค่อนข้างง่ายเพียงไม่กี่คลิกก็เสร็จ ระดับความยุ่งยาก = 0 ถือว่าเป็นการไม่ทำร้ายคนโมโหหิวอย่างหนึ่ง ส่วนหลักการสั่งอาหารก็คือเลือกเมืองและระบุพื้นที่คุณอยู่เป็นอันดับแรก
อาหารก็มีแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามความต้องการ เช่น ส่งด่วน (สำหรับคนหิวมาก), อาหารมังสวิรัติ, อาหารญี่ปุ่น, อาหารเกาหลี, ฯลฯ โดยแต่ละเขตพื้นที่จะมีจำนวนร้านค้าไม่เท่ากัน อย่างกรณีผมลองเลือกสั่งให้มาส่งบ้านพักแถวย่านบางนา-กรุงเทพฯ
พวกร้านอาหารก็จะจัดเมนูมาให้เสร็จสรรพพร้อมรูปและราคาประกอบ มีตั้งแต่อาหารไทยราคาหลักสิบบาทไปจนถึงมื้อหรูหลักพันเลยก็มี เหมาะสำหรับอาหารมื้อพิเศษและมื้อธรรมดา ส่วนระยะเวลาจัดส่งและการเปิดให้บริการแต่ละร้านจะไม่เท่ากัน (แนะนำให้วางแผนเรื่องเวลาให้ดี) และค่าส่งแต่ละร้านรวมถึงขั้นต่ำก็มีไม่เท่ากัน
ส่วนตัวผมเลือกที่จะสั่งอาหารมากินที่ออฟฟิศในตอนกลางวันเลยขอมองข้ามพวกเส้นและซุปไป เลยไปสะดุดเข้ากับร้าน Kaizen Sushi & Hibachi ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ถ้าหากต้องขับรถออกไปกินชุดอาหารกลางวันของร้านนี้แทบเป็นไปไม่ได้ 100% เพราะคนเยอะมากและกว่าจะไปถึงกว่าจะกลับอีก แต่ชุดดังกล่าวดันมีให้สั่งบนออนไลน์ !!!
ผมเลือกที่จะวางแผนล่วงหน้า คือสั่งแต่เช้าแล้วให้ผู้จัดส่งมาส่งในเวลาพักเที่ยง 12.30 น. โดยเลือกใช้คูปองส่วนลดที่เคยได้มาเพื่อทดลองใช้งาน (แต่ถ้าใครติดตามแฟนเพจก็จะพบว่ามีโปรโมชั่นพิเศษ มาให้ได้ใช้บริการกันเรื่อย ๆ ครับ) ราคาอาหารก็พอกับไปกินที่ร้านเพียงแต่ว่าบวก ค่าส่ง 60 บาท (หรือตามแต่ร้านกำหนด) และมีค่าบริการเพิ่มแค่ 5% ซึ่งถ้าเทียบกับโค้ดส่วนลดที่ได้บางทีก็เหมือนได้ส่งฟรี
ค่าบริการ 5% ที่จ่ายให้กับผู้ให้บริการไป ก็ถือว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว (สั่งไปพันนึงก็เสียแค่ 50 บาท) เพราะทางระบบมีการติดตามงานค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นการโทรยืนยัน แจ้งสถานะ หรือติดตามพนักงานส่งอาหารให้ นอกจากนี้ยังมีการส่งเมล์ยืนยันและส่ง SMS ยืนยัน (ส่งมันทุกทางเลยทีเดียว) สำหรับการชำระค่าอาหารสามารถจ่ายได้ทั้งเงินสดเมื่อรับของ หรือจะตัดผ่านบัตรเครดิตก็ได้ครับ
การส่งสินค้าพนักงานมาตรงเวลาดี (อันที่จริงช้าไม่กี่นาทีแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้) รถที่มาส่งเป็นมอเตอร์ไซค์พนักงานสวมเสื้อสีส้มสีชมพูสังเกตง่าย เป็นลักษณะรถมอไซค์ต่อเติมคล้ายรถส่งพิซซ่า
ซูชิมาเป็นกล่องหน้าตาแบบนี้ของ Kaizen Sushi & Hibachi แท้แน่นอน ตะเกียบไม่ได้ร้องขอแต่ก็ส่งให้มาสองอัน (แต่ถ้าใครอยากสั่งพิเศษ เช่น ไม่เอาผัก, ขอซอสเพิ่มอะไรพวกนี้ตอนสั่งก็มีช่องให้กรอกอยู่) ซึ่งร้านนี้หากต้องการไปกินมื้อเที่ยงเพื่อให้ทันชุดกลางวัน ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอนสำหรับพนักงานออฟฟิศ
นั่งกินซูชิได้ไม่นานฝนก็ตกมาตามนัด จนพนักงานบางคนไม่อาจออกจากตึกเพื่อไปหาอะไรกินได้ ~ ถือว่าเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งของผมเลยทีเดียว (แอบภูมิใจเล็ก ๆ)
อาหารที่วัดความสดได้เป็นอย่างดีคงหนีไม่พ้นซูชิ จากที่ได้ลองก็มีความสดไม่แพ้ไปกว่าการนั่งกินที่ร้านครับ
ตัดภาพไปดูที่ไข่หอยเม่นและไข่ปลาบิน (หรือที่หลายคนเรียกว่าไข่กุ้ง) มากันแบบแน่น ๆ ล้นทะลักกันเลยทีเดียว ต้องขออภัยด้วยสำหรับคนที่กำลังท้องว่างอยู่นะครับ
หากสมัยก่อนมีสมุดหน้าเหลือ FoodPanda เปรียบเสมือนการรวบรวมเบอร์โทรและรายชื่อร้านอาหารใกล้ตัว พร้อมทั้งรวบรวมเมนูและราคาให้พร้อมสรรพ ไม่ต้องเสียเวลาฝ่าฝนหรือรถติดไปเพื่อกินที่ร้านอาหารอีกต่อไป ส่วนใหญ่คนเราถ้าจะสั่งอาหารมากินที่บ้านจะนึกถึงแต่แค่ KFC, Pizza จนลืมนึกไปว่าหลายร้านดัง ๆ ก็สามารถสั่งอาหารออนไลน์ได้เหมือนกัน
ระหว่างที่รีวิวนี้บริษัทฯ ยังเป็นของ Rocket Internet (เจ้าของเดียวกับ Lazada ก่อนขายกิจการให้ Alibaba) หลังจากนี้ได้ขายกิจการให้กับ Delivery Hero ไปเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว และมีการรีแบรนด์จากสีส้มมาเป็นสีชมพู โดยปัจจุบันยังคงให้บริการอยู่ใน 190 เมือง 12 ประเทศ รวมทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และไทย
ข้อดี
- ใช้งานง่ายได้ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
- มีให้บริการในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด
- ตั้งเวลาสั่งอาหารล่วงหน้าได้
ข้อเสีย
- โปรโมชั่นน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
- ร้านอาหารยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
สรุป
FoodPanda ระบบสั่งเข้าใจได้ง่ายและมีร้านที่เราไม่คาดคิด ช่วงราคาอาหารมีหลากหลาย และตอบโจทย์ในทุกความต้องการของเราในหนึ่งมื้อ จะเสียเวลาขับรถออกไปกินอาหารอร่อยร้านดังทำไม ในเมื่ออาหารร้อยกว่าร้านก็สามารถมาเสิร์ฟได้ถึงหน้าบ้านคุณได้ ส่วนคู่แข่งตอนนี้ก็มีทั้ง LINE Man, GrabFood และ Now โดยหากมีโอกาสคงได้รีวิวให้อ่านกันครับ