Doogee Titan DG700 มีความทนทานระดับเดียวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทหาร (Military Grade) พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 และยังมาพร้อมกับความหรูหราระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่ทุกคนสามารถจ่ายได้อย่างสบายกระเป๋า
สเปค | Doogee Titan DG700
- ระบบปฏิบัติการ : Android 4.4 (Kitkat)
- หน้าจอ : 4.5″ ความละเอียด 540 x 960 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล : Quad-core 1.3 Ghz
- แรม : 1 GB
- หน่วยความจำ : 8 GB
- กล้องหลัง : 8 MP
- กล้องหน้า : 5 MP
- รองรับ 3G : สองซิม (850/2100 MHz)
- แบตเตอรี่ : 4,000 mAh
วัสดุระดับเดียวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทหาร (Military Grade) พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67 และเทคโนโลยี Fast Charging (ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
สเปคที่ให้มานั้นถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Line, Instagram และการเล่นเกมทั่วๆ ไป
อุปกรณ์ที่แถมมาภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง Doogee Titan DG700
- สาย Micro-USB
- หูฟังพร้อมไมค์
- ที่ชาร์จ
- สาย OTG
- ฟิล์มกันรอย
โดยรวมแล้วถือว่าครบแต่ได้ของแถมเป็นสาย OTG (เอาไว้เปลี่ยนเครื่องเป็น Power Bank) และฟิล์มกันรอยพ่วงมาด้วยครับ ประหยัดไปได้หลายร้อยอยู่เหมือนกัน
Doogee Titan DG700 (ต่อไปนี้ขอเรียก DG700 แล้วกันนะครับ) มีดีไซน์ที่คล้ายกับมือถือสุดหรู Vertu เป็นอย่างยิ่ง และสัมผัสแรกที่รู้สึกเลยก็คือ “หนัก” มันหนักเอาเสียมากๆ ประมาณ 230 กรัมได้เลยทีเดียว (iPhone 5 หนัก 112 กรัม)
ด้านหลังเป็นลายจระเข้ นกกระจอกเทศ อืม … ตัวอะไรก็ช่างมันเถอะ เพราะยังไงด้วยราคาแล้วก็ไม่ใช่หนังแท้แน่นอน แต่มันช่วยเพิ่มความหรูหราได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
หากใครยังไม่ทราบ DG700 สามารถกันน้ำได้ด้วย แต่ถึงอย่างไรคุณก็ไม่ควรเอามันไปแช่น้ำ เพียงแค่ใช้งานทั่วไปกันฝนกันละอองน้ำจะดีกว่า เพราะด้านหลังเป็นแผ่นยางปิดสำหรับแบตเตอรี่ และว่ากันตามตรงมันก็มีสิทธิที่น้ำจะเข้าได้เช่นกัน
แบตเตอรี่สุดอึด 4,000 mAh ตัวนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วย ข้อดีก็คือสะดวกส่วนข้อเสียก็คือมันทำให้มีโอกาสที่น้ำจะเข้าได้ง่ายมากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอด้วยสาย OTG ยังสามารถเปลี่ยน DG900 เป็น Power Bank เพื่อถ่ายแบตเตอรี่ให้เครื่องอื่นยามฉุกเฉินได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Fast Charging (ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
ตัวขอบด้านล่างเป็นอลูมิเนียมอัลลอย (Zinc-Aluminum Foundry Alloys) ซึ่งแข็งและหนักมาก ส่วนตัวเองผมมองว่ามันค่อนข้างที่จะหนักเกินไปด้วยซ้ำ
ด้านล่างของเครื่องก็เก็บงานได้เป็นอย่างดี รูปทรงดูโฉบเฉี่ยวกับรอยตัดที่ทันสมัย
อีกฝั่งหนึ่งก็เรียบๆ เช่นเดียวกันครับ เป็นปุ่มปรับเสียง
ด้านบนของเครื่องเป็นลักษณะเหมือนฝาปิดที่สามารถแกะได้ (และกันน้ำ) ข้างในเป็นพอร์ต USB และแจ็คหูฟัง ตรงนี้ไม่ถูกใจนิดนึงตรงที่ช่องพอร์ต USB ค่อนข้างเล็กหากเอาไปใส่กับสาย Micro-USB บางยี่ห้ออาจสะดุดหรือติดขัดได้ ถ้าหัวต่อนั้นมีขนาดใหญ่
ทรงด้านหลังนี้มองมุมไหนก็ Vertu ชัดๆ ดูหรูและมีระดับมาก ในราคาที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเป็นแสน (ฮา) ส่วนแสงแฟลชอันนี้น่าตกใจมากครับ เพราะทาง Doogee โฆษณาว่าตัวนี้แฟลชแรงกว่าปกติถึง 5 เท่า !!!
UI ที่มาจากโรงงานทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์และหรูหราขึ้นมาอีกระดับ
ตัวเครื่องรองรับฟีเจอร์ HotKnot, Gesture motion, Three point screenshot รวมถึงฟีเจอร์อื่นๆ
มีรอมให้ลง App ประมาณ 1.44 GB และสำหรับตัว ROM ได้ปรับแต่งมาทำให้สามารถย้าย OBB ลง Micro-SD ได้ (หรือก็คือย้าย App ไปลงเมมนั่นเอง)
ภาพจากกล้องหลัง
ภาพจากกล้องหน้า
สุดท้ายแล้วทั้งหมดนี้คุณคิดว่าราคาเท่าไหร่? หมื่นนึง … แปดพัน … ไม่ครับทั้งหมดนี้เพียงแค่ 6,290 บาท ได้ทั้งความครบครันและคุ้มค่า แถมยังรองรับสองซิม กันน้ำกันฝุ่นกันกระแทกและใช้เป็นอาวุธ (ห๊ะ?) ด้วยวัสดุอลูมิเนียมผสมกับดีไซน์ที่หรูหรา สามารถหาซื้อได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2015 ระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2015 (ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์) สำหรับโปรโมชั่นเชื่อว่ามีและจัดเต็มอย่างแน่นอน ใครสนใจไปดูตัวจริงเสียจริงกันได้ที่งานเลยครับ
หรือหากใครสะดวกสั่งซื้อออนไลน์แล้วนอนรอรับของอยู่ที่บ้าน ก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ http://www.doogeethailand.com
ข้อดี
- ทนทานกันน้ำกันฝุ่นกันกระแทก
- ดีไซน์สวยและดูหรูหรา
- แบตเตอรี่สูงถึง 4,000 mAh
- สามารถใช้เป็น Power Bank สำรองได้
- ชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (Fast Charging)
ข้อเสีย
- น้ำหนักมาก
- ขนาดที่ค่อนข้างเทอะทะ
สรุป
วัสดุเกรดสูงในราคาที่ไม่แพงเวอร์ ถามจริงๆ ว่าชอบมั้ย … ตัวนี้คิดว่าคนชอบคงเฉพาะกลุ่มจริงๆ จากการดีไซน์และการเน้นความทนทานของมัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบซื้อครั้งเดียวแล้วใช้ยาวๆ เพราะตัวเครื่องมันทนชนิดทีว่าหล่นพื้นที พื้นแตก !!!