จาก Preview ครั้งก่อนที่ได้แนะนำกับ DooGee (ดูจี) ตัวเล็กๆ อย่างรุ่น Leo DG280 พร้อมกับข่าวการเปิดตัวซึ่งออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ไปคาดว่าหลายคนคงสนใจถึง Feature หลักๆ กันแล้วไม่กล่าวอะไรมากมาอ่านรีวิวเต็มๆ กันดีกว่าครับ
Full Specifications
- CPU : ใช้แบบ Quad Core (สีหัวประมวลผล) MediaTek MTK ความเร็ว 1.3GHz ARM 7
- GPU : การ์ดจอใช้ ARM Mali-400 MP2 ความเร็ว 500MHz
- RAM :ขนาด 1G
- ROM พื้นที่จัดเก็บขนาด 8GB (ซึ่งพื้นที่ Disk นี้จะโดนจัดสรรปันส่วนเป็นส่วนจัดเก็บข้อมูลหลักของระบบและส่วนของการจัด เก็บในรูปแบบ SD Card ที่ขนาด 4.7GB)
- External MicroSD Card Support : ยัดไปเลยได้สูงสุด 32GB
- Camera : กล้องหน้าความละเอียด 1.3MP , กล้องหลังความละเอียด 5MP พร้อม LED Flash 1 ดวง
- Network Cellular : WCDMA 850/1900/2100 , GSM 850/900/2100 จะสลับ SIM ไหนไป 1 หรือ 2 ก็ใช้ 3G ได้ตามที่เราใช้บริการเช่น AIS 3G , True-H , DTAC Trinet , my By CAT โดย SIM 1 จะเป็นแบบขนาดไซส์ปกติ ส่วน SIM 2 จะเป็น Micro SIM อยู่ในลักษณะการใส่ทับซ่อนกัน
- Networking Support : รองรับ Wi-Fi , GPS , BlueTooth Version 4.0
- Display : หน้าจอขนาดจอ 4.5 นิ้ว แสดงผลที่ความละเอียด 854 x 480 pixels แบบ IPS ชัดเห้ๆ เห็นแล้วร้องเฮมีด้วยเหรอ Smart Phone ราคา 2,xxx บาทแต่ยัดจอ LED IPS ให้ ตอบมีแล้ว!! เฮ~ ไปสอยกันเถอะ
- OS : ระบบปฎิบัติการ Android 4.4.2 Kitkat
- Battery : ขนาด 1,800mAh ก็พอนะสบายๆ สำหรับ 1 วันในการ Standby สายหรือเล่นเน็ตเล่นเกมเล็กๆ (แต่ยังไงซะแนะนำพก Power Bank ด้วยจะดีกว่าครับ)
- Warranty : รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี เสียเหรอซ่อม 7 วัน ซ่อมไม่ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ไปใช้โล้ดโดย DooGee Thailand
- Back Cover : เป็นแบบซิลิโคนผสมคาร์บอนกันลื่นมือได้กันกระแทกได้แถมมีสีให้เลือกถึง 5 สี คือ ฟ้า , เขียว , เหลือง , ชมพู , เทาเข้มออกไปทางดำ
- มี Feature จับความเคลื่อนไหวของร่างกาย Somatosensory ช่วยในการรับสายโทรเข้าหรือปิดเสียงให้เงียบเมื่อมีเสียงเรียกเข้า
- มี Visitor Mode ช่วยให้เราปลอดภัยในการใช้งานโดยป้องกันไม่ให้คนอื่นมายุ่งเครื่องเราได้
- มีระบบล๊อคการใช้งานแอปที่เราทำการติดตั้งไว้ (App Lock) เจ๋งสุดๆ ไปเลย
Unboxing
แกะกล่องกัน
หน้าตากล่องเล็กๆ ดูเรียบง่าย
ด้านข้าง
ด้านล่างกล่อง
ด้านหลังกล่อง
ซูมให้ดู Spec จะมีบอกคร่าวๆ ครับสำหรับ DooGee Leo DG280
งานออกแบบของตัว DooGee Leo DG280 ออกแบบที่ประเทศฮ่องกงแล้วไปผลิตที่จีน
ภายในกล่องนะจะมีแถมกันรอย 1 ชิ้น , ผ้าเช็ดหน้าจอ , คู่มือการใช้งาน , ตัวเครื่อง , อะแดปเตอร์ , สายชาร์ต , หูฟังชุด Head-Set 1 ชุดแถมมาให้ครับ
หน้าตาตัวหม้อแปลงอะแดปเตอร์
หม้ออะแดปเตอร์ตีตราของ DooGee ชัดเจนบางยี่ห้อไม่ได้ตีตรายี่ห้อตัวเองเลยครับ
สาย Micro USB สำหรับเสียบกับหม้อแปลงอะแดปเตอร์ชาร์ตหรือเอาไว้เสียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับโอนถ่ายข้อมูล
ชุด HeadSet จะเป็นแบบ Ear Bud หลายคนชอบแบบนี้เพราะใช้แล้วไม่เจ็บหู
ปุ่มกดวาง-รับ สายสนทนาหรือจะใช้เปลี่ยนคลื่นวิทยุก็ทำได้นะ
คู่มือไกด์แนะนำการใช้งาน
ผ้าเช็ดหน้าจอ
กับฟิมล์กันรอยที่แถมมาให้
เปิดเครื่องหน้าจอ UI Lock เครื่องเรียกได้ว่าดูดีทีเดียว
Body Design
สำหรับงานออกแบบของเจ้าตัว DooGee Leo DG280 นั้นต้องปรบมือให้ทีมออกแบบของทาง DooGee จริงๆ เพราะออกแบบมาดีมากโดยใช้แนวคิดแบบว่าเหมารวมจบในตัวคือคุณไม่ต้องวิ่งหาซื้อเคสให้เหนื่อยเลยเพราะฝาหลังที่ออกแบบมานั่นทำออกมาได้อย่างดีแล้วเพราะทั้งกันกระแทกได้ระดับนึงกันลื่นมือด้วย
ภาพด้านหลังเต็มๆ (Back Cover)
ภาพรวมด้านหลัง
พื้นผิวของ Cover หลังจะเป็นเหมือนทรายหยาบๆ เอาไว้จับกันลื่นมือ (Anti-Slip)
กล้องตัวเลนส์ที่หลายคนมองผ่านๆ ตาไม่รู้ว่าข้างในหน้าตาจริงๆ เป็นแบบในภาพครับ
ช่องเสียบหูฟังจะอยู่ด้านบนขนาด 3.5mm.
หาตั้งนานว่า Logo ของ DooGee อยู่ตรงไหนนะสำหรับตัวรุ่น Leo DG280 อ่ออยู่ด้านข้างนี่เองครับถ้าไม่สังเกตไม่เห็นเลยล่ะตอนจับ
ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องจะอยู่ด้านซ้ายมือ
ปุ่มเพิ่ม-ลด เสียงอยู่ด้านขวามือ
ช่องเสียบ USB สายชาร์ตอยู่ด้านบน
ส่วนของลำโพงอยู่ในตะแหน่งเดียวกันกับช่องเสียบสายชาร์ต
เปิดฝาให้ดูใกล้ๆ
เป็น Sticker ที่ปิดน๊อตไว้ครับห้ามแกะเล่นล่ะประกันหลุดเลย
ช่องเสียบ SIM Card และ Memory Card
เวลาใส่ Memory Card ใสง่ายถอดง่ายมากครับ
แบ็ตเตอร์รี่ของตัวเครื่องสามารถถอดเปลี่ยนได้นะหลายคนยังชอบแบบนี้เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องการพก Power Bank หนักๆ
ผลิกอีกด้านของตัวแบ็ตเตอร์รี่จะบอกรุ่นของ Battery และ ขนาดความจุด ชัดเจน 1,800mAh เพียงพอต่อการใช้งาน
ถอดข้างหลังออกจะมีคำแนะนำภาพประกอบการใส่ SIM Card และ Memory Card ครับแรกๆ นี่งงเหมือนกันว่าใส่ยังไงนะกับ SIM Card ที่ใส่ในตำแหน่งเดียวกันแบบซ้อนทับแบบนี้แล้วจะดึงยังไงหว่า?
ซูมให้ดูใกล้ๆ ชัดๆ เลยครับว่าใส่กันแบบนี้นี่แหละ SIM 1 อยู่บน SIM 2 อยู่ล่างยัดๆ เข้าที่กันในจุดเดียวนับว่าเป็นการออกแบบที่ล้ำลึกมากเพราะทำให้ประหยัดพื้นที่ของตัวเครื่อง แน่นอนมันอยู่ที่การออกแบบของ Motherboard ที่จะเอามาใช้กับตัวเครื่องซึ่งทาง DooGee ทำออกมาได้ดีมากๆ
เวลาจะดึง SIM 2 Micro Sim แรกๆ หลายคนที่ไม่เคยจับเครื่องแบบที่ใช้ SIM ซ้อนกันงงแน่ๆ เขาจะมีขาไว้ดึง SIM ออกมาครับดึงเสร็จเอา SIM ออกดันก้านนี้กลับเข้าไปครับ
ตอนดึงอยู่ในลักษณะนี้
ตอนแกะถอดฝาออกแล้วเราอยากเปิด-ปิด เครื่องหรือเพิ่มลดเสียงนี่ลำบากนะ
พฤติกรรมของบางคนจะชอบรีบเปิดเครื่องก่อนปิดฝาหลังผมก็ด้วยที่ชอบเปิดเครื่องก่อนปิดฝาหลังครับคุณผู้อ่าน 😀 ทำให้ต้องเอานิ้วจิ้มๆ ลึกหน่อยสำหรับตัว DooGee LEO DG280 ตัวนี้
ช่องเสียบหูฟังแงมให้เห็นกันชัดๆ
ตัวกล้องเนี่ยพอถอดฝาหลังออกมาแล้วมันจะดูนูนๆ อยู่เหมือนกันนะ
นูนแบบนี้เห็นชัดกันไปเลยครับเลนท์กับแฟลช
ระบบเสียงสุดยอดมากเห็นอันแค่นี้นะคุณผู้อ่านโอ๊ยยอย่าให้พูดเลยจับไฝว้กับ Acer Z205 ได้สบายล่ะดังมาก 3D Sound มาเลยเต็มๆ
แต่มีอยู่จุดนึงคือ Hardware Key Menu Home นั่นออกแบบมาดูไม่ต่างจากยี่ห้ออื่นๆ ทั่วไปนักแต่มีจุดที่เรียกได้ว่าหลายคนบอกเป็นข้อด้อยไปเลยใน Android Phone ที่น่าจะมีติดตัวคือไม่มีไฟแสดงผลตรงแผง Hardware Key นี่แหละมาแนวอารมณ์เดียวกันกับ Asus ZenFone 5 เลยครับต้องใช้ระบบจำตำแหน่งจิ้มเอาเอง
User Interface
หน้า Home และ Desktop สวยงาม
มีจุดนึงที่เป็นข้อเสียคือตรงที่ใช้จัดการเคลียร์แอปที่รันไม่มีปุ่ม “ล้างทั้งหมด” แบบรวดเดียวนี่แหละที่ควรจะมีซึ่งผู้ใช้หลายคนชอบเปิดแอปค้างไว้เยอะๆ แล้วเวลาจะปิดก็รู้สึกรำคาญที่ต้องมานั่งไล่ปิดทีละตัวๆ ไม่สะดวกเลยครับก็เป็นข้อด้อยไปในการทำ Rom ของทาง DooGee ในส่วนนี้ สำหรับส่วนอื่นๆ ใน UI การตั้งค่าก็ทำออกมาได้ดีเข้าใจง่ายแต่ก็ยังอ้างอิงรูปแบบมาตรฐานของ Android เพียงแต่ว่าจะมี Feature ที่ทาง DooGee ใส่เข้ามาให้เราได้ใช้งานเพิ่มขึ้น
ตรงคำสั่ง Somatosenrory จริงๆ แล้วผมอยากให้ดูคลิปนะผมทำไว้อธิบายการทำงานของคำสั่งนี้แต่ทำไมทำมาดั๊นออกมาเป็นสปอย์ยาวไป 15 นาที ใครอยากดูคลิกดูได้นะครับถ้าขี้เกียจดูจนจบไม่ว่าอะไร 🙂 เป็นคลิปแรกที่อัดลงเสียงมีผิดๆ ถูกๆ บ้างก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับคุณผู้อ่านคลิปต่อๆ ไปถ้ามีแทรกอธิบายจะพยายามทำให้ดีกว่านี้
ส่วน Icon และแผงคำสั่งอื่นๆ
หน้าจอการโทรออกก็ยังคงเป็นรูปแบบทั่วไปที่เราคุ้นเคยใน Android Phone
อันนี้ตัวเด็ดจริงๆ เพราะไม่เคยพบที่ไหนมาใน Android Phone มาก่อนนั่นคือ Lock App คือเหมือนไว้ป้องกันคนที่เราไม่อยากให้เปิดแอปหรือเล่นแอปจะเรียกว่า โหมดกันลูกเมียยุ่งก็ได้มั้งครับอย่างผมไม่อยากให้แฟนหรือไม่ให้เด็กมากดเล่นในแอปสำคัญๆ เอาง่ายๆ อย่างแอป Line ถ้าจะใช้งานต้องใส่รหัสเปิดกันเลยทีเดียวถึงจะเปิดใช้งานได้
ในส่วนของการออกแบบ UI ให้ดูเป็นเอกลักษณ์ของ DooGee ที่ครอบสวมทับเป็นเหมือน Launcher มานับว่าทำได้ดีทีเดียวระว่างที่ผมนำมาใช้งานทดสอบไม่พบ Bug ใดๆ ใน Rom เลยครับ
UI ของกล้องก็ไม่ต่างจาก Android Phone ทั่วไป
Photo and Camera
สภาพแสงปกติกลางวันถ่ายในโหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติ
จะว่าไปกล้องหลังของ DooGee Leo DG280 นั่นกินสีแดงได้ดีเว่อร์ๆ เลย
ส่วนภาพถ่ายกลางคืนเหรอสบายครับถึงแม้นมันจะดูเป็นปื้นๆ แบบกล้อง Digital ยุคแรกๆ ก็เถอะแต่ได้แค่นี้ก็แจ๋วแล้วสำหรับมือถือเครื่องล่ะ 2,490 บาท
กล้องหน้าก็พอไหวนะไม่ได้ถึงกับว่าไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย
ถ่ายกลางคืนไม่เปิด Flash ก็ยังสามารถมองเห็นรายละเอียดของวัตถุได้บ้าง
พอเปิด Flash ยิงเท่านั้นแหละเห็นความชัดเจนของวัตถุมากขึ้น
ถ่ายกลางคืนถ่ายไฟก็ยังสบายครับ
ภาพสวยๆ ตัว DooGee Leo DG280 ก็ถ่ายเก็บมาได้นะ
ถ่ายของกินก็ยังโอเคเอาไว้แกล้งเพื่อนส่งหากันตอนดึกๆ ไว้ทำร้ายจิตใจกันดูแล้วก็ยังไม่แย่สำหรับภาพอาหารที่ออกมาได้ขนาดนี้
ทดสอบถ่ายภาพแบบ Zoom สุดๆ สามารถ Zoom ได้สูงสุด 4 เท่า
ถ่ายออกมาแล้วได้ประมาณนี้ >_< เรียกได้ว่าไม่แย่ที่สุดแต่พอทำใจรับได้ล่ะกันครับคุณผู้อ่านภาพนี้ไม่ได้ Crop มานะครับมาจากตัวกล้องของ DooGee Leo DG280 ตรงๆ เลยแค่ย่อภาพเท่านั้น
การถ่ายภาพแบบ Panorama ก็สามารถทำได้นะคลิกดูที่ภาพขยายใหญ่ๆ เลยครับ
ภาพแบบ Panoramic ก็ถ่ายได้ถ่ายแบบแนวตั้ง
Benchmark
ผลเทสด้าน Benchmark Gaming 3D ของ DooGee DG280 ออกมาก็นับว่าไม่ได้แย่สุดๆ ล่ะครับด้วยหน่วยประมวลผล Quad-Core สี่แกนเลยทำให้เล่นเกมใหม่ๆ พอได้อยู่ถึงแม้นว่าจะกระตุกไปบ้างในบางเกมที่หนักๆ แต่หากตัวเกมสามารถปรับตั้งค่าให้แสดงผลอยู่ในโหมด Low ได้ก็จะทำให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้นแน่นอน
CPU-Z
Geekbench 3 ได้คะแนน Multi-Core Score 1178 คะแนน
AuTuTu ผลคะแนนออกมาอยู่ที่ 19,637 คะแนนแหม่ดูแล้วไล่จี้ตูด Asus ZenFone 5 อยู่หน่อยนึง
PC Mark for Android วัดออกมาได้ 1,988 คะแนน
ข้อดี
- Feature หลายอย่างน่าใช้งาน
- เสียงลำโพงดังดีมาก
- งานออกแบบดีไซน์และการประกอบดีมาก
- ราคาถูกและตัว Rom ก็ทำออกมาได้ดีมากๆ
- ความร้อนขอตัวเครื่องไม่ร้อนเลยขณะสนทนาในสายถ้าเล่นเกมก็แค่อุ่นๆ เท่านั้น
- พื้นที่ Rom และ Ram ที่ให้มาเรียกได้ว่าเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไปอีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ 2 Sim
- ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้วทำให้โดยรวมของตัวเครื่องจับได้ถนัดมือรวมไปถึงฝาหลังที่เป็นซิลิโคนผสมคาร์บอนทำให้กันลื่นได้ดีมาก
- หน้าจอชัดคมให้สีสันสดใสเป็นจอแบบ LED IPS ที่หาไม่ได้ง่ายนักใน Smart Phone Android ระดับราคา 2,xxx บาทในตลาด
- ประสิทธิภาพตัวเครื่องโดยรวมดีหาไม่ได้ง่ายใน Smart Phone Android ที่มี Feature ในระดับราคาครึ่งหมื่นแต่นี่มัน 2,490 บาทเองนะ!
- CPU 4 Core ทำให้ช่วยในการประมวลผลหรือเปิดแอปได้ไวแม้นแต่เล่นเกมยอดนิยมอย่าง เกมเศรษฐี หรือเกม 3D อื่นๆ ที่ไม่ได้กินสเปคสูงมากนักก็ยังเล่นได้ไหว
ข้อเสีย
- แบ็ตน้อยไปหน่อย 1,800 mAh
- แผง Hardware Key Menu ไม่มีไฟบอกสถานะการทำงาน
- Feature อย่างระบบป้องกันเช่น Visitor Mode , Lock App อาจจะทำให้บ้านแตกหรือแฟนงอนได้คำแนะนำของผมคืออย่าใช้มันจะดีที่สุด 🙂
สรุป
เป็น Smart Phone Android ที่ราคาและเหตุผลความคุ้มค่าบังเกิดขึ้นแล้วและข้อเด่นใหญ่ๆ ข้างต้นก็คงเป็นตัวช่วยตัดสินใจในการซื้อมาใช้งานได้ครับขนาดผู้เขียนเองยังอยากได้ไม่คืนเลยอ่ะอิอิเอาเป็นว่าไม่รู้จะสรุปอะไรยาวๆ เพราะข้อดีมันดีไปหมดข้อเสียมีนิดเดียวแล้วถ้าท่านชอบมือถือราคาถูก Spec แรงอย่าง DooGee Leo DG280 สิงห์เล็กราคาเบานี้ก็ลองไปหาจับๆ ถูๆ ได้ครับรู้สึกว่าทาง DooGee Thailand จะไปเปิดบูธในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2558 นี้ ตัวบูธของทาง DooGee จะจัดอยู่ตรงล๊อค ZM9 , ZM10 Zone Plaza ให้เราๆ ท่านได้ยลโฉมและทดลองเครื่องกันด้วยครับขอขอบคุณ DooGee Thailand เอื้อเฝื้ออุปกรณ์รีวิวในครั้งนี้ครับ สำหรับรีวิว DooGee Leo DG280 สิงห์เล็กราคาเบาจบเท่านี้สวัสดีครับ