สวัสดีครับสำหรับรีวิว DooGee ที่ iReview เคยนำเสนอไปแล้วนั้นมี 2 รุ่นคือ DooGee TiTan 2 และ DooGee LEO DG280 ก็ได้รับความสนใจอย่างมากแต่ขออภัยที่ทำรีวิวิของตัว DooGee DG900 Turbo 2 ไม่ทันก่อนงาน Thai Mobile Expo 2015 ไม่เป็นไรเรายังรีวิวที่มีต่อไปให้ชม
กล่าวถึง DooGee DG900 Turbo 2 ซักหน่อย สำหรับตัว DG900 Turbo 2 เนี่ยนับว่าเป็นเรือธงใหญ่ของทาง DooGee เลยก็ว่าได้ครับเพราะว่าใช้ OCTA Cores หรือหน่วยประมวลผล 8 หัวแต่ราคาไม่ถึงหมื่่นบาทกับ Design ที่บางๆ น้ำหนักค่อนข้างเบาแต่จุดเด่นอีกจุดคือกล้องนะครับ
[divider]
Full Specifications
เปิดดูกับโปรแกรม Wondershare MobileGo รายงานผล Spec ตรงเป๊ะกับตัวเครื่องและ Spec แบบาภาพรวมตามนี้ครับ
Model: Doogee DG900
[starlist]
- Base Band: 2G: 850/900/1800/1900 , 3G: WCDMA 900/2100MHz
- OS: Android 4.4.2 Kitkat
- CPU: MTK6592, Cortex-A7 Octa core, 1.7GHz
- GPU: Mali-450
- ROM: 16GB
- RAM: 2GB
- Display Size: 5 Inch Corning Gorilla glass3
- Resolution: 1920*1080 pixels
- Screen Color: 16000K Colors
- Card Extend:Support TF card up to 64GB extended
- Camera/Picture Resolution: Dual Cameras, 8.0MP front camera, 18.0MP back camera
- WIFI: Yes, 802.11 b/g/n
- Bluetooth: Bluetooth 4.0
- Gravity Sensor: Yes
- Multi-Touch: Yes, 5 point touch
- Ringtones Type: Polyphonic/MP3
- Earphone Port: 3.5mm
- Data transfer: USB/Bluetooth
- Mobile internet: WAP/WIFI
- Audio File Format: MP3/WAV/AMR/AWB
- Video File Format: Support H.265, 3GP/MPEG4
- Image File Format: JPEG/BMP/GIF/PNG/GIF
- E-book Format: TXT/CHM/DOC/HTML
- FM Radio: Yes, earphone needed
- Input: Handwrite/Keypad
- 1 x 2500mAh Battery
- 1 x 3.5mm Earphone
- 1 x USB Cable
- 1 x Charger
[/starlist]
[divider]
Unboxing
ตัวกล่องมาแบบว่าแนวมากมาเป็นกระดาษเนื้อกระดาษลัง
ตีตรา DooGee ชัดเจน
มองหาดูรุ่นเอ้า! อยู่ด้านข้าง
ด้านหลังกล่อง
หลังกล่องจะมี Spec บอกอย่างชัดเจน
โดยมี 6 ภาษาแน่นอนว่าทาง DooGee เน้นขายตลาดฝั่งโซนยุโรปเป็นส่วนใหญ่สำหรับประเทศไทยเรียกว่าคาดไม่ถึงเลยล่ะที่นำเข้ามาจะมาขาย
สติกเกอร์ด้านท้ายจริงสิก่อนจะซื้อดูที่สติกเกอร์นี้ด้วยนะครับเพราะมีระบุติกกาถูกว่าตัวเครื่องเป็นสีไหน
เปิดล่ะนะสิ่งทีน่าทึ่งคือกล่องออกแบบ Layout การใส่บรรจุภัณฑ์มาดีมากๆ และยังแถมที่ดันถาด Sim Card มาให้ด้วย 1 อัน
มีหูให้ดึงเพื่อเปิดอุปกรณ์จากกล่อง
ตัวดันถาดซิมการ์ด
เปิดช่องที่ใส่อะแดปเตอร์ชาร์จแบ็ต
ที่ใส่หูฟัง Head Set / สายชาร์จ USB จะมีที่เก็บเฉพาะของมันเรียกได้ว่าแค่กล่องก็ออกแบบมาได้ดีมีช่องเก็บอุปกรณ์เป็นสัดเป็นส่วนในกล่องเดียว
ภาพรวมๆ หลังแกะกล่อง
อุปกรณ์ต่างๆ ตัวหลักๆ ที่อยู่ภายในกล่อง : ตัวเครื่อง DG900 Turbo 2 , สายชาร์จ USB , อะแดปเตอร์ชาร์จ , ที่ดันถาด Sim Card ,หูฟัง Head Set
คู่มือการใช้งาน 1 เล่มขนาดคู่มือยังออกแบบมาธีมเดียวกับกล่องน่าทึ่งไปไหนกับไอเดีย
และคู่มือก็มีการอธิบายอย่างดีทีเดียว
การอธิบายการใช้งานนั้นถึงจะอธิบายสั้นๆ แต่เข้าใจง่ายมาก
หน้าตาอะแดปเตอร์ชาร์จนึกว่าใหญ่ไม่เลยเล็กดีพกพาง่าย
ช่องเสียบเป็นแบบ USB 2.0
น่าทึ่งที่ 2 คือสายชาร์จ USB ตรงส่วนหัวใหญ่เนี่ยออกแบบมาแนวและสวยงามจริงๆ
หัวส่วนที่เป็นด้าน Micro USB เรียกได้ว่ารู้เลยว่านี่คือสายชาร์จของ DooGee
หัว Micro USB ของ DooGee ชัดๆ มี 4 Pin
เวลาเสียบสายด้านที่เป็น USB 2.0 กับอะแดปเตอร์ชาร์จมันเป๊ะพอดีมาก
ที่ดันถาด Sim Card อันนี้สำคัญนะ
หูฟัง Head Set เป็นแบบ In-Ear มาเลย
อีกด้านของ Head Set คือปุ่มกดรับโทร ตัดสายควบคุมการทำงานแอปต่างๆ
มีซองมาให้ด้วย 1 ซองซองกระดาษแต่มันคืออะไรน๊า?
เป็นกระจกกันรอยครับ! เพิ่งเคยเจอผู้ผลิตที่แถมกระจกกันรอยมาส่วนใหญ่จะเป็นฟิลม์กันรอยเท่านั้นแถมใส่มาให้สองชิ้นเพื่อกันหน้ากันหลังกันเลย
ด้านหน้าตัวเครื่อง
ด้านหลังตัวเครื่อง
บนฟิมล์ที่ติดมาด้านหลังจะมีไกดล์บอกว่าคุณสามารถใส่ Sim Card ได้แบบไหนบ้างหรือใส่ Memory Card วางยังไงแรกๆ ก็คงงงกันแหละครับถ้าไม่ดูให้ดีเนี่ย
แบบเต็มๆ เรียกได้ว่าเป็นการไกด์อย่างฉลาดที่ทำ Label ใส่มาบนฟิมล์ด้านหลังเลย แน่นอนว่าตัว DooGee DG900 Turbo 2 สามารถใช้ Function พิเศษได้อย่าง Camera touch key , และไกด์ถึงตำแหน่งปุ่ม Volume , Power
ด้านหลังบอกตัวเครื่อง IMEI แนะนำว่าให้เก็บฟิล์มนี้ไว้ให้ดีนะครับ สำหรับตัวเครื่องของ DooGee เกือบทั้งหมดออกแบบที่ DooGee ในประเทศจีน
เปิดเครื่องล่ะนะหน้าตา Boot Loader Logo ของทาง DooGee
หน้าแรกที่เราได้เจอกันหลังจาก Boot Up เครื่องเสร็จหน้า Log Screen สวยงาม
[divider]
Body Design
ด้านการออกแบบของตัว DooGee DG900 Turbo 2 นั้นถ้าจะให้วิจารณ์คงต้องบอกว่ามันบังเอิญคล้ายๆ มือถือ Nokia รุ่นเก่ารุ่นนึงแต่ไม่ได้เหมือนนะครับแค่การออกแบบคล้ายๆ กันเท่านั้นแต่นั้นก็เป็นรุ่นที่นานมากๆ แล้วล่ะผมเองก็จำรุ่นไม่ได้ด้วยสิแค่เป็นสะเก็ดๆ ที่อยู่ในความทรงจำเมื่อนานมาแล้วว่ามันมีคล้ายๆ กันอยู่นะ
การจัดวางตำแหน่งตัวกล้องค่อนข้างดีนะดูดีไม่ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองซึ่งตัวกล้องและ Flash วางในตำแหน่งด้านขวาสุดของตัวเครื่องปกติแล้วพวก Smart Phone Android จะวางกล้องไว้ตรงกลางไม่ก็มุมซ้ายๆ ขวาๆ แต่ไม่มีดีไซน์หรูๆ แต่สำหรับ DooGee DG900 Turbo 2 นี่ต่างออกไปอย่างชัดเจน!
ด้านล่างช่องเสียบสาย USB ไว้ชาร์จแบ็ตและโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์
ด้านขวาจะเป็นจุดใส่ Sim Card + Memory Card
เวลาจะดันซิมก็ใช้ที่ดันถาดซิมจิ้มแล้วก็ดันเพื่อให้ถาดใส่ Sim Card เลื่อนออกมา
ลักษณะถาดใส่ Sim Card แบบ Dual Sim การวาง Sim Card จะอยู่ในทิศทางเดียวกัน
แต่เมื่อคุณต้องการใส่ Sim Card ร่วมกับ MicroSD Card ล่ะ? แน่นอนก็ต้องถอดเอา Sim Card อันใดอันนึงออกไปมันเหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องใช้เบอร์เดียวอยู่แล้วแต่ซีเรียสเรื่องความจุของพื้นที่จัดเก็บมากกว่าครับในลักษณะแบบนี้
ด้านซ้ายตำแหน่งปุ่ม เปิด-ปิด ตัวเครื่องและปุ่ม Volume เพิ่ม-ลดเสียง
ด้านขอบที่เรียกได้ว่าเป็นการออกแบบเฉพาะอารมณ์แบบทำเครื่องให้ดูหรูหรา
ปุ่ม Hardware Key นี่มีไฟ LED มาด้วยหลายคนชอบแบบนี้เพราะเวลาอยู่ที่มืดจะได้รู้ว่าแตะอยู่บนปุ่มไหน
ลำโพงแบบ Single เสียงดังใช้ได้ครับไม่ได้ถึงกับแย่
มุมมองแบบมองด้านข้างจอเนื่องจากตัว DooGee DG900 Turbo 2 ใช้จอ LED IPS ทำให้การแสดงผลด้านข้างยังมองเห็นได้และจอ IPS ที่ใช้ก็เป็นแบบ OGS (One Glass Solution) ที่จะทำให้การ Touch บนหน้าจอทำงานได้รวดเร็วขึ้น
ด้านบนเป็นที่เสียบหูฟัง 3.5mm.
ด้านหลังโดยรวมของ DooGee DG900 Turbo 2 ; สำหรับ DooGee DG900 Turbo 2 นั้นไม่สามารถแกะฝาหลังได้นะครับแบ็ตเตอร์รี่ก็เป็นแบบ Build-in มาในตัวเลย
[divider]
User Interface
[divider]
Photo and Camera
ภาพถ่ายทั้งกลางวันและกลางคืนจากกล้องหลังของ DooGee DG900 Turbo 2 จะเห็นได้ชัดเจนว่ากล้องเยี่ยมยอดในการใช้งานถ่ายทั้งในที่โล่งแจ้งทั้งกลางวันและภาพถ่ายกลางคืนจะเปิด Flash หรือไม่เปิดตัวกล้องสามารถประมวลผลภาพออกมาได้ดีคงเป็นอานิสงฆ์จาก Sensors จาก Sony ที่ทาง DooGee เลือกนำมาใช้นี่แหละครับ
ถ่ายกล้องหน้า Selfie ก็ยังชัดนะแม้นจะถ่ายในที่แสงน้อยก็ตามทีประทับใจมากๆ
การถ่ายภาพแบบ Panorama ก็ทำได้ดีไม่มีขาดเลยเนียนสุดๆ
ถ่ายแบบ Panoramic ก็สบายครับแนวตั้งยาวๆ กันไปเลย ไม่มีขาดช่วงเป็นภาพคาดกัน
Video Recoder Test
ถ่าย Video กลางคืนยอดเยี่ยมมากสำหรับ DooGee DG900 Turbo 2
และถ่าย Video แบบ Time Lapse ที่ความเร็ว 10 วิต่อเฟรมลองชมกันได้ผมว่า DooGee DG900 Turbo 2 ทำได้ดีมากๆ เลยล่ะตอนอัด Video เสร็จตัวเครื่องไม่ร้อนเท่าไหร่ไม่เหมือนกับตอนเล่นเกมเลยร้อนมากจบไม่อยากจับไว้ในเมือนานๆ เลย 🙁
เบื้องหลังการถ่าย Time Video Lapse โดยการจับตัว DooGee DG900 Turbo 2 มาติดกับขาตั้งกล้องแล้วถ่ายครับ
[divider]
Benchmark
3D Mark ได้คะแนน 2858 คะแนน
Geekbench คะแนนทดสอบออกมาตามภาพครับถ้าประมวลผลแบบ Single Core ได้ 434 คะแนน และถ้าเป็นแบบ Multi-Core ได้คะแนน 2339 คะแนน แล้วถ้าย้อนเทียบดูกับ 3D Mark ล่ะก็จะพบว่ามันไล่เลี่ยใกล้ๆ กัน
AuTuTu Benchmark ได้คะแนนรวม 26591 คะแนน ส่วนการเทียบประสิทธิภาพเครื่องกลายเป็นว่า AuTuTu ไม่รู้จัก DooGee DG900 Turbo 2 ซะอย่างนั้นคงเพราะทาง AuTuTu ยังไม่ได้อัพเดตฐานข้อมูลในตัวโปรแกรมนั้นเอง
เรื่องแบ็ตเตอร์รี่อันนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างใช้ได้เลยแหละเพราะอย่างน้อยในการทดสอบก็ได้เห็นชัดเจนว่าพอแบ็ตเตอร์รี่เหลือ 15% แบ็ตจะเหลือไว้ให้เรา Standby เครื่องใช้ได้อีกราวๆ 4 ชั่วโมง โดยการเปิด Power Saving Mode และถ้าปิดก็เหลือครึ่งนึงที่ 2 ชั่วโมงเศษๆ ผมคงไม่เทสอะไรมากนะครับเพราะเวลายืมเครื่องจำกัดพอสมควรผลเทสก็เทสให้ดูเป็นตัวประกอบเท่านั้นแต่จริงๆ แล้วสำหรับ DooGee DG900 Turbo 2 นั้นจุดเด่นจริงๆ คือเรื่องกล้องและเรื่องการประมวลผลที่มีความรวดเร็วมากกว่าส่วนอื่นๆ ในระดับราคาที่หลายๆ คนเอื้อมถึง
[divider]
ข้อดี
[starlist]
- แบ็ตเตอร์รี่ค่อนข้างอึดในระดับนึง
- แพ็คเก็จกล่องสวยเท่ห์ไม่เหมือนใคร
- อุปกรณ์ที่แถมมาให้ถือว่าเยี่ยมครบครัน
- กล้องหน้า-หลัง คุณภาพดีไม่แย่อย่างที่คิด
- ประกันเทพๆ ซ่อมใน 7 วันซ่อมไม่ได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลย
- หน้าจอสดใสแสดงผลที่ 1080P ทำให้ดูหนังบนมือถือได้เต็มเฟรม
- ลำโพงดังค่อนข้างดีทีเดียวถึงมิติเสียงจะไม่ได้เด่นแต่ก็ให้อถรรรสในการดูหนังหรือเล่นเกมฟังเพลงได้ดีระดับนึง
- กราฟิกการแสดงผลและการประมวลผลไวรวดเร็วทันใจเหมาะกับการเล่นเกมชิวๆ แต่ไม่อยากถือนานๆ เอ๊ะยังไง?
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยค่านข้างบางและดีไซน์ไม่ซ้ำใครต่อให้จะมีกลิ่นอายดีไซน์ของมือถือยี่ห้อนึงสมัยก่อนนิดๆ ก็ตาม
[/starlist]
ข้อเสีย
[starlist]
- มีข้อเดียวคือความร้อนเล่นเกมไปนานๆ ตัวเครื่องจะร้อนจัดจนไม่อยากถือมันไว้ในมือเลย
[/starlist]
สรุป
คงจะหาอะไรเปรียบได้ยากสำหรับ Android Phone ที่มีพลังประมวลผล 8 Core ในราคา 8 พันบาทมีถอนที่จะได้ทั้งกล้องหน้าหลังแจ๋วๆ ดีไซน์สวยๆ ดูหรูๆ แต่ไม่น่าเชื่อมาตกม้าตายเรื่องความร้อนของตัวเครื่อง 🙁 ตอนเล่นเกมถือว่าเป็นการบ้านใหญ่เลยล่ะของทาง DooGee ที่ต้องทำการแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาตัวเครื่องให้มีความร้อนน้อยลงเพราะมันคือปัจจัยหลักของการตัดสินใจของผู้ซื้อที่ไม่ค่อยอยากมีใครได้เครื่องที่ร้อนคามือระดับถือแก้วกาแฟที่อุณภูมิเกือบๆ 50 – 60 องศา >_<” เอาเป็นว่าคุณผู้อ่านไปลองหาเล่นตามร้านที่มีจำหน่ายแล้วตัดสินใจกันเองดีกว่าครับส่วนผมมีความชอบเรื่องกล้องกับดีไซน์ตัวเครื่องแค่นี้ก็ฟินแล้วล่ะสำหรับ DooGee DG900 Turbo 2 ตัวนี้ขอขอบคุณ DooGee Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์รีวิวครั้งนี้ครับสนใจอยากซื้อออนไลน์เข้าไปได้ที่ stepgeek.lnwshop.com หรือหากสั่งซื้อออนไลน์อีกที่ครับคือ http://www.doogeethailand.com