นับว่าในยุคนี้ไม่มีใครที่จะไม่เคยได้สัมผัส Tablet หรือไม่รู้จักกันยิ่งเป็น Tablet คุณภาพ ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงในงานด้านธุรกิจก็มักหาตัวจับมาใช้งานยากแต่ Dell มีคำตอบให้คุณนั้นคือ Dell Venue 11 Pro ที่มาพร้อมกับ Spec ที่สูงด้วย CPU Intel Core-M ตัวใหม่เราไปทำความรู้จักกับ Dell Venu 11 Pro ให้มากกว่านี้ครับ
Specifications
|
Body and Design
ตัว Tablet จาก Dell นั้นขึ้นชื่อเรื่องความถึกและวัสดุงานการผลิตที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วแต่ข้อเสียใช่ว่าจะไม่มีเลยครับเท่าที่ผมรับมาทดสอบนั้นพบว่ามีข้อเสียเรื่องเคสนี่แหละ ที่บางทีจะพับกางตั้งเพื่อใช้ Keyboard ใช้ยากเหลือเกินบางทีจิ้ม ๆ พลั๊ก! นอนกองกับพื้นโต๊ะค่อนข้างทำให้รำคาญใจเวลาจะใช้งานแต่อย่างอื่นนับว่าทำได้ดีทีเดียวถ้าใช้งานด้านธุรกิจหรืองานที่ไม่ได้หนักแต่เน้นความคล่องตัวในการใช้งานแต่ถ้าเทียบกับ Microsoft Surface ไม่ว่าจะรุ่น 1,2,3,4 อันนี้คงเทียบไม่ได้เพราะ Microsoft Surface ถือว่าเป็นต้นตำหรับของ Hybrid Tablet ซึ่ง Dell เอาบางส่วนมาใช้ใน Venue 11 Pro แต่ข้อดีของ Dell Venue 11 Pro จริง ๆ มีคือเรื่อง spec ที่โหดทำให้รองรับการใช้งานได้เต็มที่มาก ๆ ไม่ว่าจะยัด SSD ขนาด 256GB มาให้ ใส่ Ram 4GB หรือบางรหัสเป็น 8GB เลยทำให้เห็นความแตกต่างชัดเจน ต่อมาก็คงเป็นเรื่องจอภาพแสดงผลความละเอียดแบบ 1080P แต่ข้อเสียคือมันไม่สู้แสงแดดกลางแจ้งนี่แหละครับอย่างอื่นถ้าทำงานในร่มสบาย
แถมยังรองรับการใส่ SIM Card แบบ 4G LTE อีกด้วยแต่ตอนเทสนั้นผมลองใช้ DTAC ซึ่งอาจจะไม่ได้ความเร็วที่ดีนักหรือในย่านที่ผมอยู่ความเร็ว 4G ของ DTAC อาจจะ Service มาไม่ถึงก็เป็นได้แต่เอาเป็นว่าใช้งานได้แบบ Full Mobility เต็มสูบเลยครับส่วนแบ็ตเตอร์รี่นั้นคงอยู่ได้ยาวนานประมาณ 7 ชั่วโมงกว่า ๆ หากทำงานแบบต่อเนื่องแต่ก็สามารถ Standby ได้ข้ามวันล่ะครับ งานออกแบบ Desing ตัว Body ของ Dell นั้นอาจจะไม่ดูหรูหราหรือเป็นแบบดูแล้วไฮโซคือเขาออกแบบมาสำหรับทำงานจริง ๆ เป็นเชิงธุรกิจดังนั้นการสื่อความหมายของดีไซน์คือ “เน้นทำงาน” ไม่ได้ “เน้นเล่น” แต่อย่างใด
Benchmark Test
SSD Benchmark
การทดสอบหลัก ๆ ผมคงไม่เน้นอะไรมากมายนักแต่ที่ชัดเจนคงเป็นเรื่องของ SSD Benchmark ที่ต้องบอกว่าไม่ได้แรงมากนะครับมันแรงระดับพอรับได้คือเน้นใช้งานจริง ๆ
All System Performance
การทดสอบอีกอย่างคือทดสอบด้าน 3D กับประสิทธิภาพเครื่องอย่างที่บอก Dell Venue เน้นใช้ทำงานจริง ๆ ไม่ได้เน้นเพื่อเล่นเกม
หรืองานด้าน 3D โดยอาศัย Intel Core-M Platform ที่มาพร้อมกับกราฟิการ์ด HD5000 Series ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Platform Core-M คือเน้นความประหยัดทั้งราคาและประหยัดไฟ
Photoshop Benchmark : รวม ๆ แล้วการ Processing แบบรวมโดยอาศัยคำสั่ง Action ทำได้ ใน 24 วินาที ไม่เลวเลยยกความดีให้ Core-M และ SSD ไปได้เลยครับ
ผลทดสอบอีกอย่างคืองานด้าน Video Post Processing ก็พอไหวนะครับในการการเข้ารหัสถอดรหัสสัญญาณวีดีโอหากเราต้องการทำงาน Video Conversion แปลงไฟล์ก็ทำได้สบาย ๆ อย่างน้อยก็มีคำสั่ง Hyper Threading ของ Intel ช่วยอยู่
Image Gallery
ภาพเดียวก็ได้คำตอบว่ามันก็ชัดอยู่นะกล้องหลังความละเอียด 8 MP กล้องหน้า 2MP ก็พอไหวครับเสียดายว่าลืมถ่ายหน้าตัวเองมาให้ดูขออภัย
Video Record Test
[youtube id=”hqX59krkhzY” align=”center” mode=”normal” autoplay=”no” maxwidth=”800″ grow=”yes”]
ข้อดี
- แบ็ตเตอร์รี่อึดดี
- แป้นพิมพ์ทำได้ค่อนข้างดี
- รองรับ 4G LTE ทำให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สายเป็นอะไรที่ง่าย
- พกพาสะดวกเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางเน้นการทำงานเป็นหลัก
ข้อเสีย
- น้ำหนักตัวหนักไปหน่อยนึง
- หน้าจอไม่สูงแสงแดดกลางแจ้ง
- เคส Type Cover ของ Dell การตั้งวางอาจจะไม่ได้ล๊อคตั้งให้ดีจนบางทีพิมพ์ ๆ บนแป้นอยู่พับกางลงไปกองกับพื้น
สรุป
Tablet แบบ Hybrid ที่เป็นลูกผสมระหว่าง Tablet กับ Notebook ในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อออกมาให้เราเลือกแต่มีน้อยมากที่จะทำสำหรับงานธุรกิจเพื่อให้คนทำงานจริงจังได้สัมผัสแต่สำหรับ Dell Venue 11 Pro รุ่นนี้ที่ใช้ CPU Intel Core M รุ่นใหม่นั้นทำออกมาได้ดีในระดับที่พอจะตอบสนองด้าน Mobility ได้อย่างเต็มรูปแบบเพราะบางครั้งเราออกไปทำงานข้างนอกพบปะลูกค้าครันจะต่อ Wi-Fi ใน ณ จุดบริการตรงที่คุยงานก็ไม่สะดวกแต่เรายังใช้ 4G Internet เชื่อมต่อได้ทำให้สะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทผ่าน Cloud หรือรับส่งอีเมลได้สะดวกมากขึ้นถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องอาศัย Air Card ต่อกันแต่อันนี้เขา Built-In มาให้ในตัวเลยจบในตัวก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนสายธุรกิจที่ต้องการ Hybrid Tablet แบบนี้ครับ