ถึงแม้ว่าปัจจุบัน Tablet/Smart Phone จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมาก แต่การใช้งาน Desktop ก็ยังคงความจำเป็นอยู่ (อย่างน้อย ๆ ก็เรื่องประสิทธิภาพและขนาดหน้าจอ) แต่การซื้อ Desktop มาตั้งโต๊ะแบบสมัยก่อนมันก็คงจะแลดูเชยเกินไป จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถลดความยุ่งยากลงได้และให้มันเหลือสายไฟเพียงแค่เส้นเดียว และ All-in-One (AIO) คือคำตอบ
Dell Inspiron 23 AIO ราคาเริ่มต้นที่ 44,990 บาท สามารถซื้อได้จาก Dell Concept Stores หรือตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคของท่าน ที่นี่
สเปค Dell Inspiron 23 AIO
สามารถตรวจสอบได้ ที่นี่ ซึ่งเป็น All-in-One ตัวที่บางที่สุดจาก Dell (ขนาด 12 มม.) มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 23″ รองรับความละเอียด Full HD 1080P แบบ Multi Touchscreen ถึง 10 จุด และหน่วยประมวลผลเป็น 4th generation Intel® Core™ processor family (มีให้เลือกตั้งแต่ i5-4200M และ i7-4700MQ) ตัวหน้าจอสามารถพับและเอียงหรือปรับให้แบนราบกับพื้นได้
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows® 8 และการรับประกันแบบ Dell On-Site Service ซ่อมตรงถึงที่ในอีก 1 วันทำการ สูงสุด 2 ปีเต็ม
พอร์ทด้านหลังก็ให้มาครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
- Audio Line out
- RJ-45 (สายแลน 10/100/1000 Mbps)
- USB 2.0 x 2
- HDMI out
- HDMI in
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไม Dell ถึงเอา USB ไปไว้ด้านหลังล่ะ? หรือแม้กระทั่งว่าทำไมเป็นแค่ USB 2.0 เอง? อย่าพึ่งตกใจไปครับ นี่เป็นแค่ส่วนนึงของทั้งหมดเท่านั้น
ด้านข้างก็ยังมีพอร์ท USB 3.0 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้อีก นอกจากนั้นยังมี
- USB 3.0 x 4 (มีด้านข้างทั้งสองฝั่ง)
- 8:1 MCR รองรับการ์ด MS/MS pro/MS pro hg/MS xc/SD/SDHC/SDXC/MMC
- แจ็ค Microphone/headphone
ในด้านการดีไซน์แล้วถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว เพราะมี USB 3.0 ทั้งสองฝั่งแถมยังไม่รวม USB 2.0 ที่อยู่ด้านหลังอีก เท่ากับมี USB รวมทั้งหมด 6 พอร์ท ไม่แพ้ Desktop ตั้งโต๊ะเลยทีเดียว เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวจบไม่ต้องมาต่อพ่วง USB Hub ให้เกะกะและวุ่นวาย (แถมยังทำให้โต๊ะดูรกอีก)
หน้าจอเป็นระบบสัมผัสขนาดใหญ่ที่ 23″ (เมื่อใช้กับ Windows 8 ก็เป็น Tablet จอยักษ์ดี ๆ นี่เอง) สำหรับการติดตั้งง่ายมากครับเพราะว่าสายไฟเส้นเดียวจริง ๆ เสียบแล้วก็ใช้ได้เลยไม่ต้องยุ่งยากกับการติดตั้ง Windows ช่วยให้ประหยัดเวลาลงได้เยอะ ส่วนเมาส์และคีย์บอร์ดก็เป็นแบบไร้สายครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจใน Dell Inspiron 23 AIO ก็คือ “มันไม่เกะกะพื้นที่แถมยังเป็นของตกแต่งบ้านได้ในตัว” ใช่ครับ … ในฐานะที่ผมอยู่คอนโด เรื่องพื้นที่ทุกตารางเมตรนี่สำคัญมาก (เพราะตอนซื้อเขาคิดราคาเป็นตารางเมตร) สิ่งที่ผมจะโฟกัสเวลาจะซื้อของเข้าคอนโดคือ
- ประหยัดพื้นที่หรือเคลื่อนย้ายง่าย
- ต้องใช้ได้สารพัดประโยชน์
- ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูดีและน่าอยู่ (ถ้าเป็นไปได้)
การใช้เครื่อง All-in-One ถือว่าเป็นการตอบโจทย์มากจริง ๆ ครับ ซึ่งผมเคยมองข้ามมาโดยตลอดเพราะสมัยก่อนนั้น All-in-One เป็นเครื่องที่ทั้งร้อน ประสิทธิภาพต่ำ และหน้าตาก็ไม่ได้ดูดีนัก แต่ในครั้งนี้ Dell ทำการบ้านมาอย่างดี ช่วยกลบข้อเสียของ All-in-One รุ่นก่อน ๆ ไปได้จนไม่เหลือเลย
ขาตั้งจอของ Dell Inspiron 23 AIO ยังสามารถพับให้ก้มหรือเงยได้หลายระดับ ซึ่งสามารถยื่นออกมาตั้งไว้ได้เหมือนกรอบรูป ช่วยให้ง่ายต่อการใช้ระบบสัมผัสของ Windows 8 หรืออย่างผมใช้มันแทน TV ในการดู YouTube ไปในตัวด้วยเลย พอยกไปนั่งดูบนโซฟาหรือหน้าเตียงก็ถนัดดีครับ
หรืออยากจะพับลงวางราบในแนวนอนเอาไว้เล่นเกมกับหลาน ๆ ที่แวะมาหาที่คอนโดก็อเนกประสงค์ดี ดูเป็นเครื่อง All-in-One เพื่อครอบครัวอย่างแท้จริง
สำหรับการปรับหน้าจอจะปรับได้ทั้งหมดประมาณนี้ตั้งแต่ 90 ถึง 180 องศา (สามารถเลื่อนลงและเลื่อนขึ้นได้มากกว่านี้อีกเล็กน้อย)
และหากใครกังวลเรื่องบานพับของ Dell ก็ไม่ต้องห่วงครับ เท่าที่ได้ทดสอบก้มและเงยเป็นร้อย ๆ ครั้ง ผลคือ Dell ทำน้ำหนักถ่วงสมดุลมาได้ค่อนข้างดี ไม่มีโยกหรือโอนเอนแต่อย่างใด เรื่องเครื่องล้มเครื่องคว่ำอะไรจำพวกนี้ไม่มีแน่นอนครับ
ส่วนเกมใน Store ของ Windows 8 ก็เริ่มจะมีค่อนข้างมากแล้ว การเล่นผ่านระบบสัมผัสช่วยให้ประสบการณ์พิเศษแบบใหม่ ที่เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เล่นร่วมกันได้ในครอบครัว เพราะเราสามารถเคลื่อนย้ายเอาไปไว้ที่ห้องนั่งเล่นหรือที่อื่น ๆ ได้ตามต้องการ เพียงแค่ถอดสายไฟเส้นเดียว
SkyDrive บน Windows 8 ก็ช่วยผมเก็บความทรงจำได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วีดีโอ หรือไฟล์งานอื่น ๆ หากใครไม่เคยลองใช้แนะนำให้ลองดูครับ เพราะการใช้ผ่านระบบสัมผัสของ Windows 8 จะให้เราได้อารมณ์การใช้งานอีกแบบหนึ่ง
สารพัดประโยชน์ได้อีก
อย่างที่ผมกล่าวไปขั้นต้นว่าการที่ผมจะตัดสินใจเลือกซื้อของเข้าคอนโด คือนอกจากจะต้อง “ประหยัดพื้นที่หรือเคลื่อนย้ายง่าย” และควรจะ “ต้องใช้ได้สารพัดประโยชน์” ส่วน Dell Inspiron 23 AIO เครื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน ตามสเปคที่กล่าวไปด้านบนจะเห็นได้ว่ามันมีทั้ง HDMI out และยังมี HDMI in อีกด้วย
การที่ Dell Inspiron 23 AIO มี HDMI in นั่นหมายความว่าเราสามารถใช้มันเป็น Monitor ได้ในตัว เพียงแค่เสียบสาย HDMI (ลองนึกถึงการใช้แทนจอโทรทัศน์) อย่างกรณีผมนี่คือแบก Notebook กลับบ้านมาถ้าหากต้องการใช้งานจอใหญ่ ๆ ก็เอาสาย HDMI มาต่อกับ Dell Inspiron 23 AIO ได้เลย (ด้านข้างจอมีปุ่มให้เปลี่ยนโหมด) หรือจะเอา Tablet มาต่อออกจอใหญ่ 23″ แบบนี้ก็อเนกประสงค์ดี
เสียงดีไม่ต้องง้อลำโพงแยก
อีกสิ่งที่ช่วยลดพื้นที่ลงไปอีกก็คือ “ลำโพง” ภายใน Dell Inspiron 23 AIO มาพร้อมกับพลังเสียงระดับ HD audio MaxxAudio® 4 จาก Waves ซึ่งได้รับรางวัล Technical GRAMMY award อีกด้วยครับ ตอนแรกคิดว่าเสียงจะทื้อ ๆ เหมือนกับ Notebook แต่เปล่าเลยเพราะเสียงที่ได้สุดยอดมากจริง ๆ คมและชัดแถมเสียงยังไม่ตันอีกด้วย หากเป็นลำโพงบ้าน ๆ หลาย ๆ รุ่นคงจะต้องชิดซ้ายไปเลย
แต่เสียงก็ไม่ได้กระหึ่มถึงขนาดกระจกสั่นข้างบ้านด่านะครับ แค่เพียงพอสำหรับการใช้งานในห้อง ๆ หนึ่งรวมถึงการดูหนังแล้วไม่หงุดหงิดหัวใจ (เพราะฟังไม่รู้เรื่อง) เท่านั้นเอง
ด้านข้างจะเป็นปุ่มสำหรับเปิดเครื่อง ถัดไปด้านบนจะเป็นปุ่มสำหรับเลือกว่าจะต่อจอภายนอกหรือไม่? หรือจะให้ทำหน้าที่เป็นจอแทน ส่วนด้านบนขึ้นไปอีกจะเป็นปุ่มสำหรับปรับแสงสว่างของหน้าจอครับ เรียกได้ว่าดูดีทุกระเบียบนิ้วจริง ๆ
ข้อดี
- ดีไซน์หน้าตาดีใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้
- สามารถปรับระดับหน้าจอได้หลากหลาย
- รองรับระบบสัมผัสถึง 10 นิ้วพร้อมกัน
- ระบบเสียง HD audio MaxxAudio® 4
- พอร์ทรองรับครบครันไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก
ข้อเสีย
- ราคาสูงพอสมควร
- ไม่สามารถอัพเกรดด้วยตนเองได้
- ไม่มีช่องใส่ DVD
สรุป
เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่พื้นที่จำกัด ไม่ชอบอะไรที่เกะกะและอยากได้เครื่องที่วางแล้วสบายตา ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องประกอบด้วยอะไรบ้าง? (จอ, เคส, เมาส์, คีย์บอร์ด, ลำโพง) และยังไม่รวม ไมค์, เว็บแคม, ไวเรส, บลูทูธ, การ์ดรีดเดอร์, ฮับยูเอสบี, ฯลฯ อีกสารพัดลองคิดดูว่าหากต้องการใช้งานหมดนี่สายจะระโยงระยางยุ่งยากมากแค่ไหน? การเลือกใช้เครื่อง All-in-One เดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องประสิทธิภาพต่ำอีกต่อไป เพราะ Dell อัดสเปคมาให้สมราคาจริง ๆ
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial