Canon PIXMA G Series คือเครื่องพิสูจน์ได้ว่า “สิ่งพิมพ์ยังไม่ตาย” และความต้องการพรินเตอร์ยังมีอยู่ ตราบใดที่นักเรียนยังต้องพิมพ์รายงานส่งอาจารย์ และพนักงานออฟฟิศยังต้องพิมพ์เอกสารการประชุมอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่นิยมติดแท็งก์ (ยอมรับเลยว่าติดของแคนนอนด้วย) และเมื่อไม่กี่วันนี้เองก็ได้มีโอกาสไปร่วมพูดคุยอัปเดตผลิตภัณฑ์ “แท็งก์แท้ตัวท็อป” กับทางแคนนอน

Canon - PIXMA G Series (1)

Canon PIXMA G Series

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเดี๋ยวนี้เราไม่ต้องไปแอบติดแท็งก์ตามร้านตู้อีกต่อไป เพราะทางผู้ผลิตหลายแบรนด์เริ่มทำเครื่องออกมาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น และแคนนอนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงได้ทำการเปิดตัว Canon PIXMA G Series (G1000, G2000, G3000) พรินเตอร์แท็งก์แท้ตัวท็อปล่าสุดของทางบริษัท เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการพิมพ์ปริมาณมาก และอยากได้ต้นทุนต่อแผ่นราคาถูก ในขณะที่ได้น้ำหมึกคุณภาพสูงมาใช้งาน

เหมาะกับใคร? สำหรับคนที่เหมาะกับพรินเตอร์ซีรีย์นี้ก็จะเป็นกลุ่มนักเรียน/นักศึกษา พนักงานบริษัทขนาดเล็ก (Home Office/Startup) หรือแม้กระทั่งร้านอินเตอร์เน็ต/ร้านถ่ายเอกสาร ที่ต้องการลดต้นทุนแต่ไม่ลดคุณภาพ

  • หมึกขาวดำพิมพ์ได้ประมาณ 6,000 แผ่น/ขวด – ราคาต่อแผ่นเพียง 5 สตางค์
  • หมึกสีพิมพ์ได้ประมาณ 7,000 แผ่น/ขวด – เยอะที่สุดในตอนนี้
  • รับประกันหัวพิมพ์ใช้งานได้มากกว่า 15,000 แผ่น

ส่วนการรับประกัน 1 ปี แต่ถ้าหากไปลงทะเบียนออนไลน์ที่ https://life.canon.co.th/warranty จะได้รับประกันเพิ่มเป็น 2 ปี หรือ 15,000 แผ่น (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) สำหรับรุ่นที่สูงสุดอย่าง G3000 จะได้รับประกันสูงถึง 30,000 แผ่น

Canon - PIXMA G Series (2)

ทางทีมงานของ Canon ได้เปิดพรินเตอร์กล่องใหม่ ให้ทางทีมงาน iReview.in.th เองและเหล่า Blogger ท่านอื่นได้ทดสอบตั้งแต่เริ่มเปิดเครื่องใช้งานครั้งแรก (ลืมบอกไป … วันนี้ผมได้ทดสอบร่วมกับคุณ DigitalNext ด้วยครับ) สำหรับการเติมสีครั้งแรกหลายคนเกี่ยงกันทำเพราะกลัวสีจะหกเลอะเทอะมือ (ฮา) แต่อันที่จริงเขาออกแบบหัวขวดมาดีมาก ขนาดบีบแรงยังไม่เลอะเลย

Canon - PIXMA G Series (3)

ความพิเศษของน้ำหมึกแท้แบบเติม ที่แตกต่างจากหมึกปลอมที่ขายทั่วไปก็คือ “คุณภาพ” โดยน้ำหมึกทุกขวดนั้นผลิตในประเทศญี่ปุ่น (ลองดูได้จากคำว่า Made in Japan ด้านล่าง) แตกต่างจากทั้งหมึกปลอมและหมึกแบรนด์อื่น ที่ไม่มียี่ห้อไหนผลิตที่ญี่ปุ่นเลย ส่วนเหตุผลก็เพราะทางบริษัทฯ ค่อนข้างที่จะหวงสูตรการผลิตหมึกเป็นความลับนั่นเองครับ

Canon - PIXMA G Series (4)

ว่าแล้วก็เติมเสร็จเรียบร้อยทั้ง 4 สี ส่วนน้ำหมึกที่แถมมากับเครื่องครั้งแรกจะเป็น “ขวดเต็ม” ไม่ใช่แค่ “ขวดทดลองใช้” แล้วต้องไปซื้อใหม่ในภายหลัง ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่าทันทีที่คุณกำเงินไปซื้อเครื่องพรินเตอร์ใหม่ คุณจะพิมพ์เอกสารได้อย่างน้อยประมาณ 6-7 พันแผ่น (อันนี้ต้องระวังนะครับ เพราะบางแบรนด์แถมหมึกแค่เป็น Starter Kit พิมพ์ไปไม่กี่ร้อยแผ่นก็หมดแล้ว)

Canon - PIXMA G Series (5)

ด้านในจะเป็นกล่องใส่น้ำหมึกแบบแยกสีชัดเจน สามารถมองเห็นได้โดยง่ายและแยกสีดำ (BK) เฉพาะไปอีกฝั่งหนึ่งชัดเจน ถ้าใครเติมผิดอีกงานนี้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เมื่อเติมเสร็จเรียบร้อยแล้ว (ปกติจะหมดขวดพอดี) ก็ปิดจุกให้เรียบร้อยดังภาพ

Canon - PIXMA G Series (6)

จากนั้นเปิดให้เครื่องทำงาน แล้วรอให้หมึกไหลไปตามสายประมาณ 6 นาที ก็พร้อมสำหรับการพิมพ์แผ่นแรกแล้ว แตกต่างจากบางแบรนด์ที่คุณอาจต้องใช้เวลารอเป็นชั่วโมง ส่วนสายน้ำหมึกนั้นเป็นแบบใสช่วยให้ง่ายต่อการตรวจสอบ ซึ่งถ้าน้ำหมึกขนาดตอนหรือมีฟองอากาศ ผู้ใช้สามารถทราบได้ทันทีและสั่งไล่น้ำหมึกผ่านโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ โดยสามารถเลือกเฉพาะเจาะจงแต่ละสีได้ ไม่จำเป็นต้องสั่งไล่ทุกสีให้สิ้นเปลือง

Canon - PIXMA G Series (7)

เปรียบเทียบพรินเตอร์แต่ละรุ่น

ด้านบนเป็นตัวอย่างการพิมพ์งานแบบฉบับร่าง (Draft) ระหว่างเครื่องพิมพ์ที่เป็นหมึกแท็งก์ด้วยกัน ด้านบนจะเห็นได้ว่า PIXMA G Series ทำสีออกมาได้สวยสดมากกว่า นอกจากนี้เอกสารที่พิมพ์ออกมายังมีอายุการใช้งานที่มากกว่า สามารถเก็บไว้ได้นานโดยที่เอกสารไม่ซีดจางไปเสียก่อน

Canon - PIXMA G Series (8)

ส่วนแผนนี้เป็นการทดสอบพิมพ์รูปความละเอียดแบบคมชัด ผ่านทางกระดาษ A4 ที่ความหนา 70 แกรมธรรมดา (ไม่ใช่กระดาษ Photo) งานที่ได้สวยสมจริงมาก และที่สำคัญคือกระดาษไม่เปียกหรือซึมเลอะเทอะเหมือนเวลาใช้หมึกปลอมที่เคยติดแท็งก์เถื่อน

Canon - PIXMA G Series (9)

หมึกดำกันน้ำ

จุดอ่อนของการใช้ Inkjet ก็คือการหมึกไม่คมและกันน้ำเหมือน Laser แต่ก่อนหลายคนอาจสับสนว่า Printer Inkjet หรือ Printer Laser แบบไหนดีกว่า แต่ตอนนี้จุดอ่อนของ Inkjet ได้ถูกกำจัดไปโดย PIXMA G Series เนื่องจากผลิตออกมาให้ หมึกดำกันน้ำ ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Pigment จึงทำให้สีดำสามารถกันน้ำได้ (ปลอดภัยต่อเอกสารสำคัญ) ส่วนการพิมพ์แบบสีเนื่องจากข้อจำกัดด้านการให้สีสัน จึงจำเป็นต้องพิมพ์ในแบบ Dye Ink ซึ่งไม่สามารถกันน้ำได้

มาถึงจุดนี้หลายคนคงเริ่มเห็นประโยชน์ของหมึกแท้กันบ้างแล้ว

เมื่อเทียบความแตกต่างด้านราคาแล้วหารตกแล้วขาวดำตกแผ่นละ 5 สตางค์ ซึ่งถ้าหากคุณใช้หมึกปลอมราคาก็คงหนีกันไม่เท่าไหร่ แต่หมึกแท้ให้ทั้งความทนทานของหัวพิมพ์ที่มากกว่า เอกสารที่ได้สวยและคมกว่า แถมยังได้คุณสมบัติกันน้ำเพิ่มเข้ามา ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องซื้อหมึกปลอม มาต่อสลิ้งดูดหมึกให้เลอะมืออีกต่อไป

PIXMA Ink Efficient G1000
PIXMA Ink Efficient G1000
PIXMA Ink Efficient G2000
PIXMA Ink Efficient G2000
PIXMA Ink Efficient G3000
PIXMA Ink Efficient G3000

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

รุ่น PIXMA Ink Efficient G1000 PIXMA Ink Efficient G2000 PIXMA Ink Efficient G3000
ประเภท พรินเตอร์แท็งก์แท้ พรินเตอร์แท็งก์แท้
All-In-One
พรินเตอร์แท็งก์แท้
All-In-One แบบไร้สาย
จำนวนงานพิมพ์ สีดำ

ปริมาตรน้ำหมึกต่อขวด

6,000 แผ่น

135 มล.

6,000 แผ่น

135 มล.

6,000 แผ่น

135 มล.

จำนวนงานพิมพ์ สี

ปริมาตรน้ำหมึกต่อขวด

7,000 แผ่น

70 มล.

7,000 แผ่น

70 มล.

7,000 แผ่น

70 มล.

พิมพ์ไร้ขอบ มี มี มี
ขนาด (กว้างxยาวxสูง) 445x330x135 มม. 445x330x163 มม. 445x330x163 มม.
ความเร็วในการพิมพ์ ขาว-ดำ: 8.8 ภาพต่อนาที

สี: 5 ภาพต่อนาที

ขาว-ดำ: 8.8 ภาพต่อนาที

สี: 5 ภาพต่อนาที

ขาว-ดำ: 8.8 ภาพต่อนาที

สี: 5 ภาพต่อนาที

ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มี มี มี
เชื่อมต่อไร้สาย (Wi-Fi) ไม่มี ไม่มี มี
การพิมพ์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่มี ไม่มี Canon Print Inkjet/ SELPHY และ Canon Print Service
การพิมพ์ด้วยระบบคลาวด์ ไม่มี ไม่มี PIXMA Cloud Link และ Google Cloud Print
รับประกัน 2 ปี* ลงทะเบียนออนไลน์

หรือ 15,000 แผ่น (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

2 ปี* ลงทะเบียนออนไลน์

หรือ 15,000 แผ่น (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

2 ปี* ลงทะเบียนออนไลน์

หรือ 30,000 แผ่น (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

ราคา 4,390 บาท 5,190 บาท 6,490 บาท

Compact Design

ดีไซน์และตัวเครื่อง

ขนาดของทุกเครื่อง G1000, G2000 และ G3000 นั้นไม่แตกต่างกัน (ยกเว้น G1000 ที่สูงน้อยกว่าหน่อย เพราะสแกนเอกสารไม่ได้) สำหรับแท็งก์ใส่น้ำหมึกอยู่ข้างในไม่ยื่นออกมาภายนอก จึงทำให้มีขนาดกะทัดรัดหาพื้นที่วางลงบนโต๊ะทำงานได้อย่างง่ายดาย แท็งก์ไม่ยื่นออกมาให้หกเลอะเทอะหรือเสี่ยงหยดเวลาเคลื่อนย้าย

High Volume Printing

สรุป

ใช้งานง่ายและคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ลองเปรียบเทียบอย่างง่ายซื้อเครื่องรุ่นถูกสุด G1000 ราคา 4,390 บาท ซื้อมาถึงพิมพ์งานสีได้ทันที 7,000 แผ่น ต่อให้นับราคาค่าเครื่องไปด้วย ก็ตกเพียงแผ่นละ 0.62 บาท ซึ่งเท่าที่เคยสำรวจราคาเวลาไปจ้างเขาพิมพ์สีตกแผ่นละ 2-5 บาท (แล้วแต่ร้าน) ยังไงก็คุ้มกว่าแถมยังได้เครื่องพรินเตอร์มาไว้ประจำบ้านอีกด้วย

ส่วนข้อเสียก็พอมีบ้างอย่างเรื่องน้ำหมึกที่ราคาขวดละ 300 บาท และมันดูแพงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย (อย่าลืมว่า Made in Japan) ซึ่งถึงแม้จะเฉลี่ยออกมาต่อแผ่นแล้วไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ก็มีผลด้านจิตวิทยาเวลาตัดสินใจซื้อพอสมควร และอีกเรื่องก็คือหัวพิมพ์ไม่มีขายเป็นอะไหล่แยกเหมือนรุ่นอื่น จำเป็นต้องส่งเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ทางช่างเป็นคนติดตั้งให้เท่านั้นครับ

ขอขอบคุณ: Canon Thailand สำหรับการเชิญไปทดสอบ และอัพเดตผลิตภัณฑ์