Garmin ประกาศความสำเร็จในการรุกตลาดไลฟ์สไตล์และสุขภาพ ด้วยการเติบโต 300% ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา พร้อมเสริมทัพความแข็งแกร่งในไตรมาสสุดท้าย เปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ 7 รายการที่สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่หันมาดูแลสุขภาพและ เล่นกีฬามากขึ้น รวมถึงเทรนด์ wearable device ที่เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก มั่นใจครองตำแหน่งผู้นำตลาดจีพีเอส 10 ปีต่อเนื่อง
Garmin เป็นผู้นำตลาด GPS มาอย่างยาวนาน รวมถึงเป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ GPS แบบครบวงจรซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Garmin ซึ่งภาพรวมในปีนี้ นอกจาก Garmin จะมีการเปิดตัวอุปกรณ์ช่วยนำทาง (Personal Navigation Device – PND) หลายรุ่นแล้ว ยังเป็นปีที่ Garmin บุกตลาดแก็ดเจ็ตกลุ่มสุขภาพและไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบ โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา Garmin เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสิ้น 16 รุ่น และเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มไลฟ์สไตล์ 47% ซึ่งช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาถือว่า Garmin ประสบความสำเร็จมากในกลุ่มไลฟ์สไตล์โดยมียอดขายเติบโตถึง 300% ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับเทรนด์อุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ (Wearable Device) กำลังมาแรงมากในตลาดโลกรวมถึงประเทศไทย
Garmin เน้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในไตรมาสสุดท้ายนี้ Garmin จึงได้ตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 7 รายการโดยมีไฮไลท์เป็น wearable device 2 รุ่นในกลุ่มไลฟ์สไตล์ ได้แก่ vivosmart สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพที่จะมาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้แอคทีฟมากขึ้น และForerunner 920XT นาฬิกามัลติสปอร์ต GPS ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันที่หลากหลาย รองรับการใช้งานทั้งการวิ่ง ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ จัดเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับนักกีฬามืออาชีพและมือสมัครเล่นที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเอง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ยังตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ด้วยฟังก์ชัน Smart Notifications ที่จะเชื่อมต่ออุปกรณ์กับ SmartPhone เพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีสายโทรเข้าหรือมีข้อความจากแชทแอพลิเคชั่น
นอกจาก wearable device แล้ว อีกหนึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ Garmin คือนักปั่นจักรยาน Garmin จึงตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง GPS สำหรับจักรยานด้วยการเปิดตัว Edge 1000 GPS อัจฉริยะรุ่นล่าสุดที่จะทำให้ผู้ใช้ปั่นจักรยานได้สนุกและน่าสนใจขึ้น ด้วยการเก็บและแชร์สถิติเพื่อจัดอันดับของนักปั่น
บนชุมชนออนไลน์ของการ์มิน ผ่านฟีเจอร์ Garmin Connect นอกจากนี้ สามารถดึงข้อมูลของ นักปั่นที่เคยปั่นในสถานที่เดียวกัน มาเปรียบเทียบกับสถิติที่เราปั่น ณ ปัจจุบัน ผ่านฟีเจอร์ Segment
อีกหนึ่งเซกเมนต์ที่ Garmin ได้เล็งเห็นว่ามีศักยภาพในการเติบโตอย่างสูง คือ กลุ่มของกล้องบันทึกภาพ ติดรถยนต์ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาติดกล้องที่รถยนต์มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย รวมถึงใช้เป็นข้อมูล ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือรถยนต์สูญหาย โดยในไตรมาสนี้ Garmin ได้เปิดตัวกล้องบันทึกภาพติดรถยนต์ Driving Recorder GDR 45 ความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080P ที่มี GPS ในตัว พร้อมคุณสมบัติพิเศษในการบันทึกภาพขณะจอดรถด้วยโหมดจับการเคลื่อนไหว ซึ่งกล้องจะเริ่มบันทึกภาพเมื่อตรวจพบการเคลื่อนที่ที่หน้ากล้องหรือรู้สึกได้ถึงการชน
บริษัทมั่นใจว่า Garmin ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกใช้งานอุปกรณ์ไอทีต่างๆ มากขึ้น รวมถึงสนใจในข้อมูลและประสิทธิภาพของการออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อใช้เป็นสถิติและข้อมูลในการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ Garmin สามารถตอบรับความต้องการในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมีฟีเจอร์ Garmin Connect ซึ่งช่วยเก็บข้อมูลของผู้ใช้จากทุกผลิตภัณฑ์ไปรวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้เห็นข้อมูลภาพรวมของการดูแลสุขภาพในที่เดียว บวกกับจุดแข็งของ Garmin ที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างในระดับโลกถึงความเป็นสินค้าคุณภาพสูง
Garmin มีแผนเสริมความแข็งแกร่งด้านภาพลักษณ์ของบริษัทด้วยการสนับสนุนการแข่งขันประเภทต่างๆ โดยเฉพาะงานวิ่ง เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ที่สูงขึ้น ประกอบกับการเพิ่มช่องทางจำหน่ายในร้านค้าเฉพาะทางมากขึ้น รวมถึงการขยายกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น ท้ายนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า Garmin จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในไตรมาสที่ 4 และจะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด GPS ได้เป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน