รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ FORD FUSION HYBRID จะถูกนำมาใช้ทดสอบจริงบนถนนสาธารณะในรัฐแคลิฟอร์เนีย ภายในปีหน้า ซึ่งเป็นการเดินหน้าสู่ความสำเร็จไปพร้อมกับศูนย์วิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมพาโลอัลโตที่กำลังเติบโต

Ford-to-Begin-Autonomous-Vehicle-Testing-1

FORD ได้เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อใช้ทดสอบวิ่งจริงบนถนนสาธารณะ การทดสอบนี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จของแผนการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติตลอดระยะเวลา 10 ปี และเป็นองค์ประกอบสำคัญของแผนการสัญจรอัจฉริยะของ FORD เพื่อนำบริษัทไปสู่อีกขั้นของความสำเร็จในการเชื่อมต่อสื่อสาร การสัญจร เทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ขับขี่ รวมทั้งข้อมูลและการวิเคราะห์อย่างแม่นยำ

ศูนย์วิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมพาโลอัลโตเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยด้านการพัฒนาด้านยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุด ที่มีทีมนักวิจัย วิศวกร และนักวิทยาศาสตร์กว่า 100 คน ประจำการ โดย FORD ได้เปิดตัวศูนย์วิจัยแห่งใหม่ที่เมืองซิลิคอนวัลเลย์ เมื่อเดือนมกราคม 2012 ที่ผ่านมา

80 เปอร์เซ็นต์ของทีมงานพาโลอัลโตมาจากภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และอีก 20 เปอร์เซ็นต์เป็นพนักงานฟอร์ดจากประเทศสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมันและออสเตรเลีย ซึ่งล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยานยนต์และการออกแบบ

ทีมของพาโลอัลโตเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ จากการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่เพื่อสำรวจและพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาการสัญจรในอนาคต เราได้เชิญชวนผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมด้วยความสามารถจากทั่วโลกเพื่อเข้าร่วมทีมของเราในเมืองซิลิคอนวัลเลย์ รวมถึงพนักงานจากบริษัทและมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนวิธีที่โลกกำลังขับเคลื่อน

Ford-to-Begin-Autonomous-Vehicle-Testing-2

การทดลองขั้นสูง
FORD ได้ขยายสิ่งอำนวยความสะดวกภายในศูนย์วิจัยที่เมืองซิลิคอนวัลเลย์ จากสำนักงานสำหรับ 15 คนให้กลายเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาที่สามารถรองรับพนักงานได้มากว่า 100 คน สำหรับผลงานที่ศูนย์วิจัยได้ดำเนินการในปีนี้ ได้แก่

  • การทดลองขับขี่รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบเสมือนจริง การศึกษานี้ได้แสดงให้เห็นถึงปฎิสัมพันธ์เสมือนจริงระหว่างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกับคนเดินถนน โดยการจำลองสถานการณ์จริงเพื่อทำความเข้าใจและคิดค้นวิธีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนถนนโดยไม่ได้คาดคิด
  • การทำงานร่วมกันของระบบเซ็นเซอร์ โดยติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่สามารถตรวจจับวัตถุที่อยู่ในระยะตรวจจับของรถยนต์ โดยมีการรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันเพื่อสร้างมุมมองภาพแบบ 360 องศารอบตัวรถ รวมถึงสัญญาณป้ายจราจร รถยนต์คันอื่น และคนเดินถนน “กล้องตรวจจับคนเดินถนน” คือ กล้องเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่เป็นดวงตาของรถยนต์ช่วยให้รถสามารถมองเห็นและตรวจจับคนเดินถนนได้
  • ข้อมูลการเดินทางเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข จากการเก็บข้อมูลที่ได้จากรถกระบะเรนเจอร์และรถมอเตอร์ไซค์ที่ติดตั้งเทคโนโลยี OpenXC โดย FORD ได้ร่วมมือกับ Riders for Health เพื่อรวบรวมข้อมูล GPS และสร้างแผนที่เพื่อช่วยให้บริการด้านสาธารณสุข การให้วัคซีนและการขนส่งยาสู่ผู้คนในแถบชนบทของประเทศแอฟริกาเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในปีนี้ FORD ได้สร้างสัมพันธ์อันดีกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ อาทิ University of California-Berkeley, Carnegie Mellon University, Santa Clara และ San Jose State FORD ยังได้ขยายความร่วมมือด้านการวิจัยกับมหาวิทยาลันสแตนฟอร์ดในปี 2016 ซึ่งมีทั้งหมด 13 โครงการ ครอบคลุมทั้งหมด 5 ส่วนของแผนการสัญจรอัจฉริยะ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าโครงการในปีนี้ถึง 2 เท่า

การที่ FORD มีธุรกิจที่แข็งแกร่งในเมืองซิลิคอนวัลเลย์ช่วยให้พวกเราสามารถขับเคลื่อนงานวิจัยไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความหลากหลายด้านเทคโนโลยีที่เราได้นำมาประยุกต์ใช้กับข้อมูลเชิงลึกของเรา ทำให้เราออกแบบทางออกของการสัญจรในชีวิตจริงได้