Amazfit เสริมทัพไลน์อัฟสมาร์ทวอชแฟชั่นอีกสองรุ่น ทั้ง Amazfit GTR 2 ที่ผสมผสานความเป็นนาฬิกาข้อมือแบบดั้งเดิมเสริมด้วยฟีเจอร์ฟิตเนสแบบจัดเต็ม พร้อมด้วยรุ่น Amazfit GTS 2 สมาร์ทวอชที่เพรียวบางและมีสไตล์ที่สุดของอเมซฟิตเท่าที่เคยมีมา โดยทั้งสองรุ่นพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 นี้ บนช่องทางออนไลน์ใน Shopee ในราคาเพียง 5,599 บาทสำหรับ Amazfit GTS 2 และ 5,799 บาทสำหรับ Amazfit GTR 2 พร้อมดีลพิเศษและของกำนัลมากมายในช่วงเปิดตัว
ดีไซน์หรูเทคโนฯล้ำ
Amazfit GTR 2 มีให้เลือกทั้งแบบตัวเรือนสเตนเลสสตีลและอะลูมิเนียมอัลลอยสีดำ ให้ลุคสุดคลาสสิก โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบ AMOLED ทรงกลมขนาด 1.39 นิ้ว ขอบโค้งมน 3 มิติ อ่านชัด อ่านง่าย ทุกองศา ส่วน Amazfit GTS 2 โดดเด่นด้วยความเพรียวบาง หน้าจอ AMOLED ทรงเหลี่ยมหรูขนาด 1.65 นิ้ว ตัวเรือนอะลูมิเนียมอัลลอย มีให้เลือก 3 สี คือ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey พร้อมสายรัดข้อมือสีเข้ากัน
หน้าปัดของทั้งสองรุ่นทำจากกระจก 3 มิติ Corning Gorilla เคลือบสาร oDLC (optical Diamond-like Carbon) และสารที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ จึงป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ หน้าปัดยังสามารถปรับเปลี่ยนมุมการแสดงข้อมูลเพื่อความสะดวกสำหรับการสวมทั้งบนข้อมือทั้งสองข้าง อีกทั้งมีธีมหน้าปัดให้เลือกกว่า 40 แบบ จึงเป็นสมาร์ทวอชแนวหน้าที่รองรับการปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ส่วนบุคคล ผู้ใช้สามารถปรับแอป Quick Access ได้ จากนั้นก็เพียงปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเข้าถึงแอปและฟีเจอร์คู่ใจด้านสุขภาพและฟิตเนส
ฟีเจอร์ครบเพื่อการดูแลสุขภาพและฟิตเนส
Amazfit GTR 2 และ GTS 2 มาพร้อมกับฟังก์ชันการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์ BioTracker 2 PPG ที่ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24/7 ไม่ว่าจะเป็นอัตราตอนพักผ่อน (resting heart rate) โซนอัตราการเต้นของหัวใจ (heart rate zones) และเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คุณทราบความแข็งแรงของหัวใจได้ดีขึ้น
ฟีเจอร์ BioTracker 2 PPG นี้ รองรับ OxygenBeats ในการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เมื่อผู้ใช้ต้องเผชิญกับการทำงานนาน ๆ ที่ทำให้สมองเมื่อยล้า หรือการใช้ร่างกายหนัก ๆ จากกิจกรรมเช่นการวิ่งมาราธอนหรือกีฬากลางแจ้ง หากรู้สึกไม่สบายใจ ก็สามารถวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้โดยง่าย จะได้รู้สถานะของร่างกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยอุปกรณ์ที่สวมใส่
การติดตามคุณภาพการนอน ช่วยรักษาสมรรถนะร่างกายให้ฟิตที่สุดได้ ซึ่งสมาร์ทวอชของ Amazfit จะช่วยติดตามการนอน ทำให้คุณเข้าใจรูปแบบการนอนหลับและปรับปรุงการนอนให้ดีขึ้น เมื่อซิงก์ข้อมูลเข้ากับแอปแล้ว จะทราบได้ว่านอนในช่วงหลับตื้นหรือหลับลึกไปนานเท่าไร รวมทั้งช่วง REM (Rapid Eye Movement) และการงีบนอนในเวลากลางวัน
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบ PAI Health Assessment System ที่สามารถแปลงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามกิจกรรม และข้อมูลสุขภาพอื่น ๆ ออกมาเป็นคะแนน PAI ให้ได้รู้สภาพความฟิตของคุณได้โดยสะดวก ค่า PAI หมายถึงข้อมูลกิจกรรมส่วนบุคคล (Personal Activity Intelligence) ที่อ้างอิงจากโปรไฟล์ส่วนตัวของแต่ละคน จึงเป็นค่าที่สร้างมาเพื่อคุณ ซึ่งผลการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าระบบ PAI Health Assessment System มีส่วนช่วยให้คุณรู้ว่าจะต้องทำกิจกรรมมากน้อยแค่ไหน ถึงจะแข็งแรงอยู่เสมอ หรืออยู่ในสภาพที่ฟิตที่สุด
สมาร์ทวอชในซีรีส์ GT 2 ทั้งสองรุ่นยังรองรับฟีเจอร์การติดตามความเครียด ซึ่งจะช่วยให้คุณรักษาสมดุลของระดับความเครียดได้ เมื่อรู้สึกเครียด ก็สามารถผ่อนคลายด้วยแนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลความเครียดได้
การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงหมายถึงต้องแอ็คทีฟอยู่เสมอ GTR 2 และ GTS 2 จึงมีโหมดกีฬายอดฮิตมาให้เลือกถึง 12 โหมด ช่วยให้ชีวิตไม่หยุดนิ่ง พร้อมออกกำลังกายได้เสมอ สามารถบันทึกระยะทาง ความเร็ว การเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจ แคลอรีที่เผาผลาญ และข้อมูลอื่น ๆ ในช่วงที่ออกกำลังกาย ทั้งสองรุ่นนี้ ยังกันน้ำลึกสุด 5 ATM จึงสวมใส่และบันทึกข้อมูลที่ทำได้ในช่วงว่ายยน้ำหรือออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ทรหด และหากคุณหยุดยิ่งนานเกินไป ก็จะมีการเตือนให้รู้ว่าต้องเคลื่อนไหวบ้างแล้ว
ทั้งสองรุ่นสามารถเก็บเพลงในเมมโมรี่ได้ถึง 3GB ช่วยให้การออกกำลังกายได้เพลิน ๆ โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าความแรงในการสั่นเตือนได้ด้วย (haptic vibration) ไม่ว่าจะเป็นการสั่นให้รับโทรศัพท์หรือได้รับข้อความใหม่ ทั้งสองรุ่นจึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เมื่อถอดนาฬิกา ฟังก์ชันตรวจจับการสวมใส่จะทำงาน และล็อกนาฬิกา ช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถใส่รหัสเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยได้ด้วย
ทั้งสองรุ่น มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว จึงสามารถรับสายเรียกเข้าได้สะดวก เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น และสนุกขึ้น
ตอนนี้คุณสามารถสั่งการด้วยเสียงได้แล้วผ่านสามาร์ทวอชทั้งสองรุ่นนี้ จึงยิ่งฉลาดมากขึ้นไปอีกเพราะมาพร้อมกับการรองรับ Amazon Alexa ในตัว จึงทำได้ทั้งสอบถาม หาข้อมูล แปล สร้างรายการช็อปปิ้ง ตั้งปลุก ตั้งเวลาและการเตือน เช็คสภาพอากาศ ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ในบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถคุยกับเครื่องสมาร์มวอชทั้ง 2 รุ่น ได้ โดย Alexa จะตอบสนองต่อคำสั่งเสียงของคุณเป็นข้อความบนหน้าจอ หรือยังสามารถสั่งการด้วยเสียงทำงานแบบออฟไลน์เพื่อเปิดการทำงานของโหมดกีฬา ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และอื่น ๆ
แบตเตอรีของซีรีส์ GT 2 มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นโดยคุณสามารถใช้เครื่องนี้ทุกวันไปตลอดทั้งสัปดาห์ได้สำหรับ GTR2 มีอายุแบตเตอรีที่ยาวนานกว่าเดิมโดยสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน เมื่อใช้งานปกติและใช้ได้นานถึง 38 วัน หากใช้ฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้นและสำหรับ GTS 2 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด7 วัน และใช้งานได้สูงสุดถึง 20 วัน เมื่อใช้งานฟังก์ชันพื้นฐาน
ราคาและการวางจำหน่าย
Amazfit GTS 2 ราคา 5,599 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey
Amazfit GTR 2 มีให้เลือกสองสี คือ Sport Edition ราคา 5,599 บาท และ Classic Edition ราคา 5,799 บาท
สมาร์ทวอชทั้งสองรุ่นนี้ มีวางจำหน่ายที่ช่องทางออนไลน์ใน Shopee ที่ร้าน
Amazfit Official Store : Amazfit GTS 2 : https://bit.ly/3kLE4WS Amazfit GTR 2 : https://bit.ly/3pSxRfA
ร้านตัวแทนจำหน่าย ThaiMall : Amazfit GTS 2 : https://bit.ly/3kJLr0Q Amazfit GTR 2 : https://bit.ly/35HShQ8