Nextbit หากพูดถึงชื่อนี้หลายคนคงไม่รู้จัก แต่หากเป็น Apple, LG, Samsung, SONY เราคงคุ้นเคยกับแบรนด์เหล่านี้เป็นอย่างดี สมาร์ทโฟนน้องใหม่แบรนด์นี้เกิดจากการระดมทุนใน Kickstarter เมื่อปีที่แล้ว ภายใต้แนวคิดสุดแปลกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน “Cloud-first” ว่าแล้วเราลองมาทำความรู้จักกัน
Nextbit Robin
แนวคิดของ Nextbit เกิดขึ้นจากการที่ว่าทำไมเราถึงต้องเพิ่มความจุกันบ่อย หลายครั้งที่เราไม่กล้าลบอะไรเลยจนพื้นที่ทับถมกันไปเรื่อย และถึงแม้จะมี Dropbox, Google Drive, OneDrive แต่มันก็เป็นเพียงการ “สำรอง” เท่านั้น
สมาร์ทโฟนที่ความจุไม่มีวันเต็ม
แนวคิดของบริษัทฯ ผมค่อนข้างชอบนิดนึง อารมณ์เหมือนมี Algorithm ในการมาช่วยบริหารความจุของสมาร์ทโฟน โดยเมื่อถึงเวลาถึงหากเราไม่ค่อยได้เปิด App ไหนมันจะถูก “ย้าย” ขึ้นไปเก็บบน Cloud ทันที (ไม่มีการลบข้อมูล) โดยจะหลงเหลือไว้เพียงแค่ Shortcut ซึ่งเมื่อเรากดจะเป็นการเรียก App นั้นกลับมาโดยข้อมูลอยู่ “ครบ” ต่างจากการลบและดาวน์โหลดใหม่
สเปค | Nextbit Robin
ไม่เพียงแค่ Cloud ความจุ 100 GB เท่านั้นที่เป็นจุดขาย (ทางบริษัทฯ อ้างว่าหากใครใช้เต็มจริง อาจได้รับความจุเพิ่มด้วย) สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังจัดเต็มไปด้วยสเปคที่ระดับตัว TOP ของเมื่อปีที่แล้ว
- ระบบปฎิบัติการ : Nextbit OS Android 6.0 Marshmallow
- หน้าจอ : 5.2″ ความละเอียด Full HD กระจก Gorilla Glass 4
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 808 MSM8992 Hexa-Core 1.8 + 1.2 GHz
- หน่วยความจำ : 3 GB
- พื้นที่ความจุ : 32 GB พร้อม Cloud 100 GB (ไม่รองรับ microSD)
- กล้องหลัง : 13 MP พร้อมแฟลชสองสี
- กล้องหน้า : 5 MP
- ระบบไร้สาย : รองรับ 4G LTE, 3G ทุกเครือข่าย (และเกือบทั่วโลก)
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi AC, BT 4.0, NFC, USB-C
- ฟีเจอร์ : สแกนลายนิ้วมือ, ลำโพงคู่ด้านหน้า, สำรองข้อมูลผ่านคลาวด์
- แบตเตอรี่ : 2680 mAh รองรับ Quickcharge 2.0
- น้ำหนัก : 150 กรัม
- ขนาด : 149 x 72 x 7 มม.
สำหรับสีที่วางจำหน่ายมี Mint (ตัวที่รีวิว) กับ Midnight สำหรับสเปคจัดมาเต็มเกือบทุกอย่าง ขาดเพียงแค่รองรับ microSD และรองรับ Dual SIM จะเป็นสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบมากเลยทีเดียว ราคาเปิดตัว 12,900 บาท
ในส่วนของสเปคแนะนำให้เทียบกับ Nexus 5X หรือ LG G4 (รุ่นบอร์ดพัง) จะถือว่าอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือยังได้ย้ายไปด้านขวา โดยเป็นปุ่มปลดล็อคในตัว ซึ่งก็ไม่ติดขัดอะไรหากคุณยัง “ถนัดมือขวา” ในการถือสมาร์ทโฟน
ทีมงานของ Nextbit ไม่ใช่แค่ต้องการระดมทุนแล้วหนีหายไป แต่ยังมีบุคคลากรคุณภาพที่อดีตเคยทำงานให้กับ Google, Nexus, HTC ซึ่งเป็นคนทำงานด้านสมาร์ทโฟนโดยตรง เมื่อได้ร่วมงานกับบริษัท Startup ซึ่งมีโครงสร้างที่ยืดหยุ่นกว่า จึงได้แสดงฝีไม้ลายมือได้อย่างเต็มที่
ความเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกและเครื่องเดียวในโลกที่เป็น Cloud-frist กลบจุดอ่อนของ Android ที่ถึงแม้จะเพิ่ม microSD ได้แต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง (อย่างมากก็เพียงแค่เอาไว้เก็บรูปภาพ) และไหนจะคอขวดเรื่องความเร็ว ซึ่งอาจดึงระบบให้เครื่องช้าลง
Nextbit Robin ให้ความจุมา 32 GB และเมื่อความจำใกล้เต็ม ตัวสมาร์ทโฟนจะทำการ “ย้าย” ข้อมูลที่ไม่ค่อยได้ใช้ออกจากเครื่องอัตโนมัติ เช่น แอปพลิเคชันที่เราไม่ค่อยได้เปิด, รูปเก่าที่ไม่ค่อยได้เปิดดู, ฯลฯ แต่ไม่ใช่เป็นการย้ายแบบหายลืม แต่ระบบยังเหลือเป็น Shortcut ทิ้งไว้ให้ผู้ใช้รู้ว่าไฟล์นั้นยังคงมีอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะดาวน์โหลดกลับมาเรียกใช้งาน
ไม่ได้มีดีแค่คลาวด์
ในงานยังได้มีการสาธิตเปรียบเทียบกับกล้องของ LG G4, เสียงของลำโพง, ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการเทียบกระทั่ง “ประสิทธิภาพในการรับสัญญาณ” ซึ่งทำออกมาได้ดีกว่ามาตรฐานและหลายรุ่นในท้องตลาด
Nextbit Robin สมาร์ทโฟน Geek เพื่อการใช้งานขั้นสูง ยังได้มาพร้อมกับ Unlock Bootloader จากโรงงาน ผู้ใช้สามารถเลือกโมรอมได้ตามใจชอบ ประกันไม่ขาด นอกจากนี้ยังได้มี Community ของผู้ใช้ที่ค่อนข้างจะแข็งแรง สำหรับคนที่ใช้งาน Advance User น่าจะถูกใจเป็นอย่างยิ่ง
สเปคสรุปโดยรวมที่ออกมา (ตามที่เราได้กล่าวในขั้นต้น) นอกจากนี้ยังได้มีสิ่งที่เพิ่มเติม คือทางทีมงานยังได้ท้าทดสอบอีกด้วยว่าอยากให้ Blogger ทำการรีวิวในเรื่องของ Wi-Fi และ GPS กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยว่าทางบริษัทฯ ทำออกมาได้ดีจริง ๆ
สรุป
สมาร์ทโฟนสุด Geek ไม่เหมือนใครเครื่องนี้ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานระยะยาว หรือเป็นคนที่ใช้งานหนักหน่วง มีการเก็บข้อมูลปริมาณมาก สามารถเก็บข้อมูลไว้บน Cloud ได้โดยไม่ต้องกลัวหาย (และไม่ต้องสำรองเองให้ยุ่งยาก) โดยในอนาคตจะมีโปรแกรมให้จัดการข้อมูลด้วยตัวเองบนนั้นด้วย
Nextbit Robin ราคาเปิดตัว 12,900 บาท โดยจะมีการวางจำหน่ายที่พารากอนและ Power Mall นอกจากนี้ในอนาคตอาจมีการเพิ่มช่องทางจำหน่ายไปยัง Big C และ TG Fone (ข้อมูลจาก MxPhone)
ส่วนช่องทางออนไลน์นั้นมีอย่างแน่นอน ในเบื้องต้นจะมีวางจำหน่ายผ่าน ShopAt24 และเว็บไซต์อื่น แต่จะไม่เน้นทำราคาลดเพื่อแข่งกับเจ้าอื่น เนื่องจากราคานี้ค่อนข้างที่จะสเถียรแล้วนั่นเอง … ส่วนรีวิวติดตามได้ที่ iReview.in.th ในเร็วนี้