ฟิล์มกันรอยเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ SmartPhone ยุคปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าเทคโนโลยีด้านกระจกจะพัฒนาไปเท่าไหร่ แต่ก็ยังแพ้เม็ดฝุ่นเล็ก ๆ อยู่ดี (Gorilla Glass ก็เป็นรอยได้) แต่ทีนี้เราจะเลือกฟิล์มแบบไหนดีล่ะ?

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (1)

Glass Slim Tempered Glass Screenprotector (iPhone 5/5c/5s) ราคาอยู่ที่ 390 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่ ProMobilEZ

หมายเหตุ : ระบุโค้ด ireview ตอนสั่งซื้อจะได้ส่วนลดเพิ่มอีก 25% (สำหรับฟิล์มกระจกนิรภัยทุกรุ่นไม่จำกัดแค่ไอโฟน) ระยะเวลาหมดโปรโมชั่นสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ !!!

ireview - coupon

วิธีกรอกคูปองก็ตามภาพด้านบนเลยครับ แต่บางครั้งถ้าระบบมัน Error ก็ต้องลอง F5 แล้วกรอกใหม่นะครับ แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ยังไงรบกวนติดต่อไปที่ [email protected] เพื่อทำการสั่งซื้อแบบไม่ผ่านหน้าเว็บไซต์ดูครับ

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (2)

ติดฟิล์มแบบไหนดี?

คำถามนี้ดูเหมือนจะเป็นคำถามโลกแตก และสุดท้ายก็จะลงเอยว่า “แล้วแต่คนชอบ” แต่หากให้แบ่งประเภทฟิล์มผมคงสรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้

  • ฟิล์มใสธรรมดา : กลุ่มนี้เป็นแบบดังเดิมคือใสเรียบ ๆ คุณสมบัติคือกันรอยปกติทั่วไป เนื้อสัมผัสก็จะเหมือนพลาสติกซึ่งจะไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่นักเวลาใช้งาน ส่วนข้อเสียก็คือจะเห็นรอยคราบไขมัน ทำให้ต้องเช็ดหน้าจออยู่บ่อย ๆ
  • ฟิล์มด้านธรรมดา : ตัวนี้เป็นอีกประเภทหนึ่งที่หลายคนนิยมติดกัน ข้อดีคือมันด้านจนไม่เห็นคราบไขมันหรือรอยนิ้วมือ ความลื่นในการสัมผัสมากกว่าฟิล์มใสปกติ แต่ข้อเสียก็คือจะลดความคมชัดของหน้าจอค่อนข้างมากเลยทีเดียว บางทีจอสวย ๆ เอาไปติดฟิล์มด้านนี่หมดกัน
  • ฟิล์มแฟชั่น : กลุ่มนี้เป็นแบบที่ผมจัดแยกให้โดยเฉพาะมีทั้งแบบพวกแบบกระจกใช้ส่องหน้าตัวเองได้ หรือเนื้อเป็นเพชรวิ้ง ๆ ดูประกาย รวมถึงพวกที่กันคนแอบมองหน้าจอได้ด้วย (ต้องมองตรง ๆ ระนาบไปกับเครื่องถึงจะเห็น) กลุ่มนี้คนใช้จะมีความต้องการเฉพาะจริง ๆ แต่พูดถึงประโยชน์ก็ไม่ค่อยมีอะไร
  • ฟิล์มลดรอยนิ้วมือ : แต่ก่อนมีแค่แบบใส เดี๋ยวนี้มีแบบด้านแล้ว (จริง ๆ ฟิล์มด้านมันก็ลดรอยนิ้วมืออยู่แล้วนะ) พวกนี้จะราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อย มีสารเคลือบที่ผิวฟิล์มอายุการใช้งานประมาณ 6-12 เดือนก็เริ่มจะมีรอยนิ้วมือแล้ว แต่ก็เป็นประเภทที่สมเหตุสมผลมากที่สุด
  • ฟิล์มกันกระแทก : คุณสมบัติคือเป็นฟิล์มที่เหนียวมาก ๆ เอาปากกาแทงยังไม่เข้า (นึกถึงเสื้อกันกระสุน) ตัวนี้กันรอยได้ดีมาก ๆ ชนิดที่ว่าเครื่องตกลงถนนจอยังไม่เป็นไร แต่ข้อเสียก็คงแค่มันอาจหนืดนิด ๆ เพราะมันยังเป็นฟิล์มอยู่
  • ฟิล์มถนอมสายตา : ใช้แล้วหน้าจอจะเหลืองขึ้นเพราะมันตัดแสงสีฟ้าออก (เขาว่ากันว่าเป็นอันตรายกับดวงตา) แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ถ้าคุณเป็นพวกติดหน้าจอบ่อย ๆ แล้วรู้สึกว่าดวงตาล้า ๆ น่าจะช่วยได้บ้างนะ
  • ฟิล์มกระจกนิรภัย : ตัวนี้ราคาสูงสุดที่เราจะรีวิวกันในวันนี้ วัสดุทำมาจากกระจก Tempered น้ำหนักเบาแต่ช่วยกันกระแทกได้ดีไม่แพ้ฟิล์มกันกระแทก สามารถกันรอยขีดข่วนได้สูงสุดชนิดใช้เป็นที่รองคัตเตอร์ได้เลย เนื่องจากมันเป็นกระจกที่มีความแข็งถึง 9H ข้อดีคือสัมผัสแล้วลื่นให้อารมณ์เหมือนหน้าจอจริง ส่วนข้อเสียนอกจากราคาแล้วก็เรื่องความหนาของมันประมาณ 0.2-0.4 มม. มากกว่าฟิล์มทั่วไป 2-3 เท่าตัว

หากลองถามใจตัวเองได้แล้วว่าต้องการคุณสมบัติประมาณไหน ก็ลองเลือกใช้งานดูครับแต่ตัวผมส่วนตัวชอบฟิล์มใสลดรอยนิ้วมือและฟิล์มกระจกนิรภัยมากที่สุดแล้ว เพราะมันไม่รบกวนความสวยงามของหน้าจอ และประสบการณ์การใช้งานของเครื่อง ซึ่งผมชอบอารมณ์การใช้งานแบบไม่ติดฟิล์มมากกว่า แต่ส่วนตัวก็ยังกังวลอยู่

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (3)

Glass Slim ใช้ดีไหม? ไม่เห็นรู้จัก

ก่อนอื่นเลยขอย้อนความหลังไปถึงฟิล์มอันดับหนึ่งในบ้านเรา เขาก็ไม่ใช่แบรนด์ดังจากเมืองนอกอะไร เพียงแต่ว่ามาบุกเบิกและทำการตลาดในบ้านเราก่อนเท่านั้น ที่สำคัญคือให้เปอร์เซ็นต์ร้านตู้ค่อนข้างสูงเลยนิยมติดกัน หากถามคนที่ใช้งานฟิล์มกันรอยบ่อยจริง ๆ จะบอกเลยว่าแบรนด์อันดับหนึ่งในบ้านเราก็แค่คุณภาพกลาง ๆ ไม่ได้ถึงกับดีและวิเศษอะไรนัก

ย้อนกลับมา Glass Slim ผมคงไม่โกหกว่ามันคือแบรนด์คุณภาพระดับ High-END แต่อย่างใด จริง ๆ แล้วมันก็แค่ฟิล์มคุณภาพกลาง ๆ เหมือนฟิล์มที่ขายตามร้านตู้บ้านเราแหล่ะ เพียงแต่ราคามันสมเหตุสมผลกว่ามาก (ผมติดมาเป็นสิบแบรนด์แล้วเชื่อผมสิ)

ภายในซอง Glass Slim Tempered Glass Screenprotector ค่อนข้างให้มาครบเหมาะสำหรับการติดด้วยตัวเอง ชุดนี้เป็นของ iPhone 5/5c/5s หากเป็นรุ่นอื่นก็คงแตกต่างกันออกไป ภายในประกอบไปด้วย

  • ฟิล์มกระจก Tempered Glass
  • ฟิล์มพลาสติกใส (สำหรับติดด้านหลัง)
  • สติกเกอร์นูนปุ่ม Home (ขาว, ดำ)
  • ผ้าสำหรับเช็ดหน้าจอ
  • ผ้าชุปแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดหน้าจอ
  • เทปสำหรับดึงฝุ่นบนหน้าจอ

อุปกรณ์ที่ให้มาครบชนิดที่ว่าไม่ต้องมีอะไรประกอบอีกแล้ว ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อร้านตู้ครับ

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (4)

ปกติแล้วหากเป็นฟิล์มกระจกนิรภัย (Tempered Glass) ข้อเสียของมันใหญ่ ๆ เลยก็คือ “หนามาก” จนบางครั้งเอาไปใช้กับเคสที่บางมาก ๆ ไม่ได้ แต่สำหรับ Glass Slim นั้นแตกต่างกันออกไปเพราะเขาทำให้มันบางและเบาลงได้ถึง 34% เหลือเพียงแค่ 0.26 มม. จากภาพผมลองเทียบกับฟิล์มทั่วไปจะเห็นว่ามันต่างกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (5)

ความแข็งของฟิล์มกระจกนิรภัยอยู่ที่ 8-9H สามารถกันรอยขีดข่วนได้จากเกือบทุกสิ่ง เป็นรองเพียงแค่เพชรที่มีความแข็งระดับ 10H เท่านั้น ถ้าใช้ฟิล์มกันรอยทั่วไปแล้วประมาณปีนึงก็ต้องถึงคิวเปลี่ยน แต่ถ้าเป็นฟิล์มกระจกนิรภัยก็ใช้กันยาว ๆ จนกว่าโทรศัพท์จะพังได้เลย

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (6)

สำหรับด้านหลังเป็นแค่ฟิล์มพลาสติกใสธรรมดา ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลดีแล้ว

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (7)

ผ้าชุปแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดหน้าจอ อันนี้โดนใจผมเป็นที่สุดเพราะไม่เคยเห็นใครแถมมาก่อน มันช่วยได้มากเลยเวลาทำความสะอาดเครื่องก่อนติดฟิล์ม คำแนะนำคืออยากให้รีบเช็ดหน่อย เพราะเพียงแค่ไม่กี่นาทีมันก็ระเหยหมดแล้ว

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (8)

ติดฟิล์มยากมั้ย? ทำเองได้รึเปล่า?

ถ้าเป็นฟิล์มทั่วไปผมคงไม่แนะนำให้ติดเอง เพราะครั้งแรกยังไงก็พลาดแน่นอนสำหรับคนไม่รู้เทคนิค แต่สำหรับฟิล์มกระจกนิรภัยเป็นข้อยกเว้นนา ๆ ทั้วปวง เนื่องจากว่ามันเป็นกระจกแผ่นแข็ง ๆ แผ่นเดียว จึงไม่ต้องรีดไล่ลมหรือทำอะไรเป็นพิเศษ แค่วางลงไปมันก็ดูดด้วยสูญญากาศโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ว่าคุณต้องค่อย ๆ วางและเล็งให้มันตรงเป็นอันใช้ได้

ผมขอให้ความเห็นว่า “สิ่งนี้คุณสามารถทำด้วยตัวเองได้ ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกในชีวิตก็ตาม”

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (9)

สำหรับคนที่คิดว่าการกดปุ่ม Home เป็นเรื่องยากลำบาก ก็ติดสติกเกอร์ให้มันนูนลงไปครับ อันนี้แถมมาให้เลยไม่ต้องไปเสียเงินเพิ่มซื้ออีก 50 บาท

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (10)

ว่าแล้วก็มาเก็บงานด้านหลังกันต่อ ค่อย ๆ ทำไปไม่ต้องรีบ ด้านหลังตรงโลโก้ Apple ถ้าจะเห็นมีฟองอากาศอยู่บ้างก็ไม่ต้องตกใจ เพราะพื้นผิวมันไม่เสมอกันครับ

Glass Slim - Tempered Glass Screenprotector (iPhone) (11)

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยด้วยความร้อนวิชาก็ได้ลองเอากุญแจกับคัตเตอร์ขูด ๆ มันเข้าไป ผลเป็นอันเรียบร้อยดีไม่มีริ้วรอยอะไร

การรับประกันคือสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องที่น่าตกใจคือ Glass Slim รับประกัน 1 ปีเต็ม ภายใต้เงื่อนไข หากฟิล์มที่ใช้แล้วแตกหรือหักสามารถมาเปลี่ยนแผ่นใหม่ได้ฟรีครับ มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพที่ไม่มีใครกล้าให้อย่างแน่นอนสำหรับการรับประกันนี้

ข้อดี

  1. ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
  2. รับประกัน 1 ปี
  3. ความแข็งระดับ 9H
  4. ให้สัมผัสแบบเนื้อกระจก
  5. แถมฟิล์มใสด้านหลัง

ข้อเสีย

  1. ราคาสูงกว่าฟิล์มทั่วไป
  2. มีความหนากว่าเล็กน้อย

สรุป

ปกติฟิล์มประเภทนี้จะมีข้อเสียที่ราคาแพง แต่ราคาขายจาก ProMobilEZ นั้นถูกแสนถูก (ใช้โค้ด : “ireview” ลดได้อีก 25%) จึงตัดข้อเสียในเรื่องราคาไปได้เลย สัมผัสที่ได้นั้นลื่นเหมือนกระจกจริง แถมยังมีความทนทานต่อการขีดขูดและแรงกระแทกได้อย่างไม่น่าเชื่อ