Ricola หลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีในนามของแบรนด์ “ลูกอมสมุนไพร” จากสวิสเซอร์แลนด์ 100% ซึ่งตอนแรกเนี่ยผมเองก็เข้าใจแบบนั้น แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะแตกต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร เพราะในไทยเองก็มีสมุนไพรเยอะแยะมากมายไปหมด จนได้มาทำความรู้จักแบบจริง ๆ ในงาน Exclusive Event ที่เปิดให้รีวิวกันทุกรสชาติรอบนี้
Ricola
ภายในงานจัดขึ้นที่โรงแรม Hotel Muse เป็นปาร์ตี้เล็ก ๆ น่ารักที่ยกเอาประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ มาไว้ที่นี่ (ว่าไปนั่น) แน่นอนว่ามีลูกอมให้ชิมกันทุกแบบรวมถึงแบบผงชา O,o! พร้อมประวัติความเป็นมา รวมถึงสมุนไพรจำนวน 13 ชนิด ว่าแต่ละต้นหน้าตาเป็นไงกลิ่นเป็นยังไงบ้าง
Made in Switzerland
อันนี้เป็นอะไรที่เซอร์ไพร์สมาก เพราะตอนแรกรู้ว่าแบรนด์จากสวิสฯ แต่ก็ไม่คิดว่าจะผลิตที่นั่นด้วย ตอนแรกคิดว่าจะผลิตแถวบ้านเราเสียอีก เท่ากับว่าเรากินขนมนำเข้าในราคาหลักสิบกว่าบาท! เมืองนอกกินยังไงเราก็กินอย่างงั้นเหมือนต้นฉบับ 100% (ใครไปเที่ยวไม่ต้องเผลอหิ้วมาล่ะ!)
ราคาและรสชาติ
ในไทยมีขายทั้งเป็นแบบกล่องเหล็ก, กล่องกระดาษ (ดังภาพ), และล่าสุดเลยคือแบบ “ซิปล็อก” ซึ่งหาซื้อได้ตามเซเว่น อีเลฟเว่น, โลตัส เอ็กซ์เพรส, และแฟมิลี่มาร์ท ราคา 18 บาท ซึ่งคนไทยน่าจะเหมาะกับอะไรที่สะดวกซื้อแบบซิปล็อกมากกว่า
รสชาติแต่ละอัน
- Mountain Mint : หวานโดดหอมมินต์
- Alpin Fresh : หอมมิ้นต์เหมือนกันแต่เย็นซ่านิด ๆ
- Original Herb : อันนี้ชอบสุดคือสมุนไพรมาเต็ม
- Cranberry : อธิบายไม่ถูกแต่เหมือนยาแก้ไอเด็ก
ริโคล่าแบบกล่องกระดาษด้านบนราคา 45 บาท ซึ่งเป็นสูตรที่ไม่มีน้ำตาล (Sugar Free) เหมาะกับคนที่ควบคุมน้ำตาล #งดทานหวานเพราะน้ำตาลแพงมาก แต่ถ้าใครอยากได้แบบมีน้ำตาลดั้งเดิมสุด ๆ แนะนำเป็นกล่องเหล็กดีกว่า
อันนี้สะดวกสุดซื้อง่ายซองละ 7 เม็ด หากใครไม่อยากได้กลิ่นและรสสมุนไพรมากจนเกินไป แนะนำเป็นรส LemonMint จะอมเปรี้ยวนิด ๆ และจากการพูดคุยกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้ใจว่าความ โดยปกติแล้วคนเราจะเข้าใจว่าลูกอม LemonMint ก็คือ Lemon + Mint (ใส่มินท์และเติมเลม่อนลงไป)
แต่สำหรับ Ricola มันคือสมุนไพรมินท์ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นเลม่อนจริง ๆ ตามชื่อของมัน เพื่อให้สมศักดิ์ศรีกับลูกอมสมุนไพรแท้ 100% ไม่ใช่แค่อมได้รสชาติ แต่ต้องมีคุณประโยชน์จริง ๆ จากสมุนไพรทั้ง 13 ชนิดด้วย
ความลับของ Ricola ก็คือสมุนไพรทั้ง 13 ชนิด (แต่ละสูตรก็ปรับเปลี่ยนกันไป) โดยประวัติคร่าว ๆ คือผู้ก่อตั้งไปค้นพบสมุนไพรบางอย่างที่สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งแต่ละสูตรก็ให้รสชาติและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน จึงทำการผสมนิดปรับหน่อยภายใต้พื้นฐาน
แค่ประโยชน์อย่างเดียวไม่พอ ต้องมีรสชาติดีด้วย
ปัจจุบันทางบริษัทฯ ได้ทำสัญญากับเกษตรกรที่นั่นนับร้อยราย เพื่อส่งสมุนไพรมาทำเป็นลูกอมโดยต้องไม่ใช้สารเคมี รวมถึงการปลูกสมุนไพรแบบยั้งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมีการตั้งมูลนิธิเพื่อดูแลธรรมชาติ วิจัยเรื่องดินตลอดจนการศึกษาปัญหารังผึ้งที่ลดลงทั่วโลกอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีแบบชาที่ค่อนข้างจะพรีเมี่ยมหาซื้อยากหน่อย (ส่วนตัวไม่ดื่มชาเลยขอข้ามไป) ซึ่งอันที่จริงลูกค้าต่างประเทศ ก็มีหลายคนนิยมเอาลูกอมไปละลายน้ำร้อนดื่มเพื่อแก้เจ็บคอเหมือนกัน เผื่อใครอยากลองขอเชิญครับ
มีการโชว์สมุนไพรทั้ง 13 ชนิด ที่เอามาผลิตเป็นลูกอมจริง ๆ ซึ่งเยอะมากจนขี้เกียจจำ (ว่ากันตามตรง) โดยแต่ละชนิดมีสรรพคุณที่แตกต่างกัน บางตัวทำให้ชุ่มคอ บางตัวขับเสมหะ บางตัวช่วยฆ่าเชื้อโรค บางตัวบรรเทาอาการหวัด ซึ่งชีวิตนี้ผมก็พึ่งเคยเห็น “รากมาชเมลโล่” เหมือนกัน แบบเดียวกันที่ใช้ทำขนม … แปลกดี
มีการโชว์เอามาทำค็อกเทลด้วยแปลกดี อารมณ์คงคล้ายยาดองบ้านเรา ที่ดื่มได้ทั้งแอลกอฮอล์และสมุนไพร (ฮา) พึ่งได้ลองครั้งแรกก็แปลกดี เหมือนเอาลูกอมหอม ๆ มาทำเครื่องดื่ม สำหรับเมืองนอกคงไม่แปลกเท่าไหร่
สรุป
เป็นอีกหนึ่งลูกอมที่มีประวัติที่น่าสนใจ ลบล้างความคิดเดิม ๆ ว่าลูกอมก็แค่น้ำตาล เรื่องคุณประโยชน์ของสมุนไพรคงไม่ต้องพูดอะไร เพราะคนไทยคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับของพวกนี้ แต่ส่วนตัวมองว่ามันเป็นทางเลือกหนึ่งเวลาเจ็บคอที่ดีมาก จ่ายราคาไม่กี่บาทได้กินลูกอมสมุนไพรแท้จากสวิสเซอร์แลนด์
และสำหรับคนที่ควบคุมน้ำตาลก็มีสูตร Sugar Free ให้เลือกตามสมัยนิยม ซึ่งก็ยังคงความหวานอยู่เพราะมีวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล และไม่ว่าจะสูตรไหนก็ปราศจากสารปรุงแต่งรสและสีสังเคราะห์ เอาเป็นว่าครั้งหน้าเป็นหวัดเจ็บคอ หรือไม่รู้ว่าจะอมอะไรลองหยิบริโคล่ามาชิมดูก็แล้วกัน
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial