พรีวิว – LEGRAI mini ในงาน Naffnang cocktail party 2013

เมื่อไม่นานมานี้ทีมงานไอรีวิวได้มีโอกาสได้ไปร่วมงาน Naffnang cocktail party 2013 ซึ่งจริง ๆ วันนี้ผมสนใจที่จะไปดู Canon Legri mini มากกว่า (ตามภาษาคนไอที) แต่ลึก ๆ แล้วก็อยากทดลองดื่ม Cocktail อร่อย ๆ ด้วยแฮะ เอาเป็นว่าเรามีพรีวิวรวม ๆ กันไปเลยแล้วกัน

สำหรับสถานที่ ๆ จัดงานก็ไม่ไกลจาก BTS (เอกมัย) มากครับ เดินมาเพียง 3 นาทีก็ถึงแล้วกับ StEREO Bar & Restaurant ร้านนี้ค่อนข้างที่จะชิว ๆ รองรับคนได้ประมาณ 80-130 คน จุดเด่นร้านนี้คือมีค็อกเทล ไวน์ เบียร์ หรือวิสกี้มากมายหลากหลายให้ได้เลือกชิมกัน (ตอนกลางวันก็เป็นร้านอาหารและเสริฟกาแฟด้วย)

อ้อ … ใครอยากลองไปชิมก็หลังไมค์ผ่านเพจมาแล้วกันครับ เดี๋ยวผมส่ง Voucher 300.- (เมื่อทานมากกว่า 1,000.-) เฉพาะก่อน 15 มกราคม 2557 นี้ครับ

Canon ที่เป็นแม่งานของครั้งนี้ก็จะสนับสนุน LEGRAI mini มาให้ชาว Blogger ได้ร่วมสนุกกัน ส่วนราคาค่าตัวของมันก็อยู่ที่ 9,999 บาท (เลขเก้ามันจะเยอะไปไหน – -*) ข้อดีของ LEGRIA mini ก็คือ

1. หน้าจอทัชสกรีนขนาด 2.7″ สามารถแสดงผลเพื่อดูหน้าตัวเองได้ด้วย
2. คุณภาพเลนส์ก็จะเป็นมุมกว้างขนาด 160 องศา
3. ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
4. พร้อม WiFi ในตัวสามารถโอนไฟล์เข้าอุปกรณ์พกพาของเราหรือแชร์ได้ทันที
5. ขาตั้งปรับระยะมุมได้หลายระดับ

กลุ่มเป้าหมายของ Canon ก็ค่อนข้างที่จะชัดเจนมากว่าเป็น Blogger หรือใครก็ตามที่ชอบโชว์ชอบแชร์ VDO ของตนเองบนโลกออนไลน์บ่อย ๆ แต่สิ่งที่ยังคาใจกับ Reviewer อย่างผมอยู่ก็คือ “แล้วมันจะแตกต่างอย่างไรกับการใช้มือถือหรือกล้องดิจิตอลถ่าย?” ซึ่งยังไงเร็ว ๆ นี้เดี๋ยวผมจะเขียนรีวิว LEGRAI mini ฉบับเต็มให้ทุกท่านได้อ่านกันก็แล้วกันครับ

LEGRAI mini ก่อนหน้านี้เคยได้ยินหลายคนหาซื้ออยู่แต่หาซื้อไม่ได้ พอไปเช็คหน้าร้านจริงก็ถึงเข้าใจว่าต้องสั่งออนไลน์เท่านั้น (เข้าใจว่าความต้องการซื้อคงน้อย สำหรับคนเฉพาะกลุ่มจริง ๆ) แต่สำหรับใครที่สนใจก็ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์แคนนอน

ผมก็หวังว่าเผื่อเร็ว ๆ นี้อาจจะมีวางขายตามร้านกล้อง หรือใครอยากลองของก่อนผมก็สั่งซื้อไปลองเล่นดูก่อนได้ เพราะราคาก็ไม่ได้แพงมากมายอะไรนะเมื่อเทียบกับ “กล้องวีดีโอ” ที่มีเลนส์คุณสมบัติเฉพาะ (ระบบชัตเตอร์แบบกลไก)

แถมยังน้ำหนักเบาชนิดที่เรียกว่ามือถือหรือกล้องให้ไม่ได้อยู่เพียงแค่ขีดกว่า ๆ เท่านั้นเอง

สามารถใช้อุปกรณ์พกพาของเราเป็นตัวควบคุมกล้องได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้ผมไม่ได้ลองแบบจริงจังเลยยังหาประโยชน์ของมันแบบจัง ๆ ไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าการเลือกบันทึกข้อมูลที่สามารถเลือกบันทึกได้เลยว่าจะลง LEGRAI mini หรือว่าอุปกรณ์ปกพาของเรา

ตัวแอปฯ ออกแบบมาค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ครับ มีสำหรับ iPad โดยเฉพาะด้วยและตรงนี้ผมชอบมาก

…

..

.

และพอเล่นได้ซักพักผมก็โดนทีมงาน Nuffnang ลากเข้างานปาร์ตี้ – -*

Cocktail ชุดแรกจะเป็นสูตรพิเศษ (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ซึ่งมีการตบเหล้าใส่กระทิงแดง!!! ซึ่งเขาว่ากันว่ารสชาตินั้นเหมือนยาแก้ไอ – -* ผมได้มาแก้วสุดท้ายแย่งกับคุณ GoGo TechyladyGogo ซึ่งผมก็ได้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการยกให้เธอไป (รอดแล้วเรา – – v)

วิธีการตบแก้วก็จะเป็นประมาณนี้ หกครึ่งนึง … ดื่มครึ่งนึง …

ส่วนอันนี้เป็นเมนูถัดไปก็คือ Lava Cocktail ครับ … เรียกความตื่นเต้นในปาร์ตี้ได้พอควร

ทั้งสอง VDO จาก Instragram ผมไม่ได้ถ่ายด้วย LEGRAI mini นะครับ แต่เป็นการถ่ายผ่าน Nexus 5 ธรรมดา ๆ ส่วนภาพตัวอย่างไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวมีให้ชมกันอย่างแน่นอน

กิจกรรมต่อไปของงานปาร์ตี้จะเป็นการแข่งดื่มเบียร์ Hoegaarden ครับ ซึ่งจะเป็นการแข่งดื่มเร็วครับไม่ใช่แข่งดื่มจุ (ไม่งั้นคงแข่งกันยันเช้า – -*)

สำหรับการกติกาการแข่งก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับแค่ดื่มเบียร์แก้วเดียวให้หมด

ถ้าแก้วนี้ล่ะก็ไม่ใช่แล้ว – -*

…

..

.

แก้วนี้ครับขนาด 1 ไพน์ … เป็นมาตรฐานโลกสำหรับการตึง ๆ

ส่วนผู้ชนะก็จะมีผม (มันแน่ล่ะ … แข่งกับผู้หญิง – -*) คุณ Pantira Aswakiatkajorn และคุณ GoGo TechyladyGogo รางวัลก็เป็น Voucher เฉพาะค่าอาหารของร้าน StEREO Bar & Restaurant นั่นแหล่ะครับ

และส่วนกิจกรรมส่งท้ายก็จะเป็นรางวัล LEGRAI mini (ไอ้นี่มันนักล่ารางวัลหรือไงนะ – -*) แต่ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่โหวตดที่ Like ให้ก็แล้วกันครับ … เพื่อเป็นการตอบแทนผู้อ่านเดี๋ยวผมจะเขียนรีวิวให้อย่างละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะได้เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อกล้องวีดีโอตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับขาประจำที่อ่านไอรีวิวหรือขาจรที่ Search ข้อมูลผ่าน Google, Bing มาเจอก็ตาม

สรุป

สำหรับการทดสอบ LEGRAI mini จาก VDO ด้านบนยอมรับเลยว่าคุณภาพต่ำกว่าของจริงค่อนข้างเยอะมาก เพราะเป็นการบีบอัดและอัพโหลดเพื่อขึ้นไปยัง Facebook (เป็นระบบอัตโนมัติของ Facebook อยู่แล้ว) ดังนั้นแนะนำให้ขึ้น Youtube จะได้คุณภาพที่ดีกว่า

แต่เสียงสภาวะจริงนั้นยอมรับเลยครับว่าค่อนข้างที่จะดังมาก แต่ไมค์ของ LEGRAI mini ก็ยังดูดเสียงคนพูดออกมาได้ (ระดับหนึ่ง) ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะรีวิวให้ดูกันอีกครั้งกับบทความหน้าแล้วกันครับ

ขอขอบคุณ : Nuffnang Thailand สำหรับการเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ครับ