เมื่อไม่นานมานี้ทีมไอรีวิวได้ถูกเชิญจากทาง Nokia ไปท้าพิสูจน์ประสิทธิภาพกับมือถือรุ่นใหม่อย่าง Lumia 1520 ตามสภาพการใช้งานจริง ณ ตลาดน้ำขวัญเรียม เพื่อที่จะทดสอบประสิทธิภาพกล้อง เครื่อง และหน้าจอในสภาวะแสงจริง ๆ ของประเทศไทย คราวนี้ผมจะขอเล่าประสบการณ์การใช้งานคร่าว ๆ ของทริปนี้ให้ฟังกันครับ
รู้จัก Lumia 1520 กันก่อน
Nokia Lumia 1520 (หรือต่อไปนี้จะเรียกสั้น ๆ ว่า Lumia 1520) เป็น “แฟบเล็ต” (Phablet) เป็นสิ่งที่เรียกอุปกรณ์ที่อยู่ระหว่าง “มือถือ” (Phone) กับ “แท็บเล็ต” (Tablet) เนื่องจากขนาดหน้าจอของมันที่ใหญ่กว่าปกตินั่นเอง
สำหรับระบบปฏิบัติการแน่นอนว่าจะเป็น Windows Phone และมีขนาดหน้าจอใหญ่สะใจอยู่ที่ 6″ และความละเอียดที่สูงที่สุดของ Windows Phone คือ Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) ด้วยเทคโนโลยี ClearBlack, IPS LCD จึงให้สีที่สมจริง
ส่วนหน่วยประมวลผลจะเป็น Snapdragon 800 ความเร็ว 2.2 GHz (สเปคนี้อยู่ในระดับ TOP ของ Android เลยด้วยซ้ำ) และหน่วยความจำจุใจขนาด 32 GB ส่วนระบบไร้สายก็จะเป็น 3G, 4G, WiFi b/g/n, Bluetooth 4.0
และจุดเด่นสุดเหมือนจะเป็นกล้องขนาด 20 MP ของ Nokia นั่นเอง (กล้องตัวนี้เป็นรองก็แค่ Lumia 1020 ที่ 41 MP)
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกเดินทาง
งานนี้ทีมงาน Nokia เลือกที่จะจัด Blogger ออกเป็นกลุ่ม ๆ ประมาณ 4-5 กลุ่ม คละ ๆ กันไปทั้งกลุ่ม Blogger และเว็บไซต์ ซึ่งภาพด้านบนนี้จะเป็นทีมของผม ทุกทีมจะได้รับภารกิจเหมือนกันคือถ่ายภาพด้วยโหมดต่าง ๆ ของ Lumia 1520 เฮฮากันไปแบบ Workshop
ก่อนหน้านี้คงต้องขอยอมรับเลยว่าเป็น Blogger มานานแต่ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัส HERE Maps ของ Nokia มาก่อน พอได้ลอง ๆ จับระหว่างเดินทางบนรถตู้ก็เข้าใจเลยว่ามันใช้ง่าย และ GPS จับได้ไวมาก ๆ แถมทาง Nokia ยังได้พัฒนา Storyteller เพื่อใช้งานร่วมกันกับ HERE Maps ได้อีกด้วย
เรื่องกล้อง … ไม่พูดไม่ได้
กล้องของ Lumia 1520 … อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่ามันแพ้ Lumia 1020 คงไม่ต้องแปลกใจเพราะว่ามันมวยคนละคู่กัน แต่ที่น่าสนใจมากกว่าคือ Lumia 1520 กลับมีสเปค “สูงกว่า” Lumia 1020 แทบทุกด้านยกเว้นแค่เรื่องกล้องเท่านั้น
กล้องของ Lumia 1520 … สามารถถ่ายได้ 20 MP ก็จริงแต่ภาพที่ใช้แชร์กลับเป็นรูปอีกขนาดหนึ่งที่เป็นแค่ 5 MP อันนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ สำหรับข้อดีก็คือรูปนั้นไม่ใหญ่จนเกินไปซึ่งเป็นเหตุให้อัพโหลดช้า ส่วนข้อเสียก็คืออาจจะเป็นความรู้สึกทางจิตใจที่ถ่ายความละเอียดสูงทั้งทีแต่กลับได้ความละเอียดต่ำไปแชร์ (โดยหารู้ไม่ว่าทุกรูปไม่ว่าคุณจะอัพโหลดไปเท่าไหร่ Social Network ก็จะย่อรูปคุณอยู่ดี)
กล้องของ Lumia 1520 … แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลเพราะรูปที่คุณดึงจากคอมฯ ก็จะได้ต้นฉบับอยู่ดี จะเอาไปขยายหรืออัดรูปยังไงต่อก็ตามสบาย ไม่มีแตกไม่มีเบลออยู่แล้ว นี่ยังไม่รวมข้อดีอื่น ๆ ที่ทาง Nokia พัฒนาแอปฯ มาเพื่อประมวลผลกับภาพความละเอียดสูงโดยเฉพาะ เช่น SoZoom ที่ใช้ประโยชน์จากภาพต้นฉบับโดยการซูมเอาเฉพาะส่วนมาและมาอัดลงภาพ 5 MP ให้เราอีกที
กล้องของ Lumia 1520 … สำหรับงานด้าน VDO ผมยืนยันว่าคนซื้อไปใช้งานไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ผมยืนยันว่าคนซื้อไปใช้งานไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะมีไมโครโฟนถึง 4 จุดเพื่อเก็บเสียงและวิเคราะห์ตัดเสียงรบกวนออก และยังทำให้ Nokia Rich Recoding ทำงานดีขึ้นกว่าเดิม เท่าที่ใช้งานดูที่ตลาดนัดขวัญเรียมซึ่งมีเสียงรบกวนของคนขายของและนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่ VDO ที่อัดเสียงใสและความชัดมาก เป็นการใช้งานจริงที่ “หวังผลได้” ครับ
การปรับความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสงสามารถทำได้เช่นเดียวกับกล้องดิจิตอลทั่วไป (เหนือกว่าด้วยซ้ำ) ผมขอเรียกมันว่า “กล้องคอมแพคระดับสูงที่ใช้งานง่าย” ก็แล้วกัน หากใครสนใจหรืออยากดูภาพถ่ายเพิ่มเติมลองติดตามผ่าน TAG ก็จะพบภาพถ่ายจากผู้ใช้งานมากมายครับ #LoveLumia #Lumia1520TH
น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ผมเผลอคืนเครื่อง Lumia 1520 ให้กับทีมงาน Nokia ไปก่อนโดยลืมดึงรูปออกมา แต่เพื่อนผม @jokermaster619 ได้เอาเครื่องส่วนตัวถ่ายเก็บเอาไว้ ถ้ายังไงลองไปดูภาพจริงที่ไม่ผ่านการปรับแต่ง (ยกเว้นย่อรูป) ได้ที่ http://www.appdisqus.com/2013/12/10/nokia-lumia-1520-camera-sample-photos.html
So Zoom
So Zoom คือหนึ่งในแอปฯ เจ๋ง ๆ ที่อยู่ใน Lumia 1520 ที่ต้องหยิบยกมาพูดเพราะประทับใจมาก เนื่องจากมันสามารถทำงานร่วมกับกล้องความละเอียดมหาศาลของ Lumia 1520 ได้เป็นอย่างดี เราสามารถซูมวัตถุต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนถึงแม้จะอยู่ไกลมาก และที่สำคัญภาพไม่แตก (เพราะมันเอามาจากต้นฉบับ 20 MP) ช่วยให้สร้างภาพเจ๋ง ๆ มาแชร์ได้อีกเยอะเลย
นอกจาก So Zoom แล้วยังมีแอปฯ เจ๋ง ๆ อีกมากมายกว่า 190,000 แอปฯ ใน Windows Store อาทิ เช่น Refocus ที่ช่วยให้คุณ “ถ่ายรูปไปก่อนแล้วโฟกัสทีหลัง” ซึ่งน่าสนใจมากเลยทีเดียว ถ้าหากทีมงานมีโอกาสได้รีวิวเครื่องจะเขียนเรื่องนี้ให้อ่านกันอย่างละเอียดอีกครั้งครับ
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางและเล่นทุกอย่างเท่าที่มีในเครื่องตลอดเวลา ซักประมาณเย็น ๆ แบตเตอรี่ 3,400 mAh (ซึ่งถือว่ามากแล้ว) ของ Lumia 1520 ก็ได้เกือบหมดลง แต่สำหรับผมแล้วคิดว่าถ้าเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไปยังไงก็ได้ถึงวันชัวร์ ๆ
สีทั้งหมดของ Lumia 1520 จะมีขายสีเหลือง, แดง, ขาว และ ดำ โดยในภาพจะเป็นดำด้านกับแดงเงาครับ (ส่วนสีอื่นจะเป็นสีด้านทั้งหมด ถ้ายังไงลองไปเปรียบเทียบกันเองที่ Nokia Shop แล้วกันครับ)
ราคา Lumia 1520 เปิดตัวที่ราคา 22,900 บาท (ซึ่งในขณะที่ท่านอ่านบทความนี้ก็คงมีวางจำหน่ายแล้ว) และสำหรับท่านที่สั่งจอง Nokia Lumia 1520 ล่วงหน้า Nokia ก็ใจดีแถม Flip Case มูลค่า 1,290 บาท มาให้แบบฟรี ๆ ด้วยล่ะ !!!
แต่คนที่ไม่ได้จองก็ไม่ต้องเสียใจไป ถ้ายังไงลองไปต่อรองราคาหรือเปรียบเทียบดูของแถมที่หน้าร้านใกล้บ้านท่านดูก่อนก็ได้ เผื่ออาจจะได้ข้อเสนอที่ดีกว่าหรือด้อยกว่าเล็กน้อยก็ค่อยว่ากันอีกที
สรุปประสบการณ์ใช้งานจริง
ถึงแม้จะเป็นเพียงการใช้งานสั้น ๆ เพียงหนึ่งวัน แต่จากการได้ลงสถานที่จริง (แดดแรงมาก) หน้าจอ ClearBlack, IPS LCD ก็ยังสามารถสู้แสงได้เป็นอย่างดี สเปคของ Lumia 1520 นั้นอยู่ในระดับ TOP ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะรองรับการใช้งานได้อีกยาวนาน รองรับ Wireless Charge ในตัวเลย และมี Office 365 พร้อมใช้งานในตัวเหมาะมาก ๆ สำหรับคนซื้อมาทำงานและหวังผลจากมันครับ
ขอขอบคุณ : Nokia (Thailand) สำหรับการเชิญไปร่วมสัมผัสประสบการณ์