หรือไม่ว่าในหนึ่งวัน คนเราใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 5 นาทีในการค้นหาสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ หรือนาฬิกา และส่วนมากของเหล่านี้มักจะวางอยู่ไม่ไกลตัวเราเท่าไหร่ จากปัญหานี้เอง ทำให้ Samsung ได้คิดค้นอุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะอย่าง Galaxy SmartTag ที่ช่วยให้เราหาข้าวของต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ปัญหากวนใจของใครหลายๆ คน ด้วยขนาดที่เล็กกว่า 4×4 ซม. และเบาเพียง 13 กรัม จึงสามารถคล้อง SmartTag ไว้กับกุญแจบ้าน กระเป๋าเอกสาร หรือสัมภาระส่วนตัวอื่นๆ ได้สบาย เพิ่มความอุ่นใจ เช็คตำแหน่งได้ทุกที่ทุกเวลาจากสมาร์ทโฟน Samsung ในมือ

Galaxy-SmartTag-(2)_

Galaxy SmartTag ถือเป็นดีไวซ์ใหม่ในกาแลคซี่อีโคซิสเต็ม ที่มีวิธีการใช้งานง่ายๆ เริ่มต้นด้วยการเชื่อมต่อ Galaxy SmartTag กับสมาร์ทโฟนซัมซุง ผ่านการเปิดแอปพลิเคชัน SmartThings แล้วกดปุ่มบน SmartTag เพื่อส่งสัญญาน จากนั้นที่หน้าจอสมาร์ทโฟนจะมีหน้าต่าง Pop-up ปรากฏขึ้น เลือก ‘Add now’ เมื่อตั้งค่าตามขั้นตอนเสร็จสิ้น ก็สามารถนำ SmartTag ไปคล้องกับสิ่งของที่ต้องการ เพื่อติดตามตำแหน่งใน SmartThings Find ได้เลย 

Galaxy SmartTag ถูกดีไซน์มาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชีวิตเราง่ายขึ้น โดยเฉพาะการค้นหาของชิ้นสำคัญที่มักหายไปในเวลาเร่งรีบอย่างกุญแจรถ หลายคนถึงกับต้องเทกระเป๋าออกมาเพราะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ซึ่งความวุ่นวายนี้จะหมดไปเพียงหยิบสมาร์ทโฟนกาแลคซี่ขึ้นมาแล้วเปิด SmartThings Find จากนั้นกดที่ฟีเจอร์ ‘ส่งเสียง’ เพื่อให้ Galaxy SmartTag ที่เราคล้องไว้กับพวงกุญแจส่งเสียงแจ้งเตือนขึ้น เพียงเท่านี้เราก็สามารถเดินตามหาได้อย่างง่ายดาย ประหยัดทั้งแรงและเวลา ไม่เสียอารมณ์อีกด้วย

Galaxy-SmartTag-Review-(1)

ในทางกลับกัน บางทีเรามักลืมว่าวางสมาร์ทโฟนไว้ที่ไหนของบ้าน จะโทรเข้าก็ดันปิดเสียงเอาไว้อีก ซึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นคือการเชื่อมต่อ SmartTag ไว้กับสมาร์ทโฟน เพราะมีฟีเจอร์ ‘Locate smartphone with Tag’ ที่สามารถกดปุ่มบน SmartTag สองครั้ง เพื่อให้สมาร์ทโฟนเครื่องดังกล่าวส่งเสียง แล้วตามหาเจอในที่สุด 

Galaxy-SmartTag-Review-(3)_

ไม่เฉพาะแค่สิ่งของสัมภาระเท่านั้น แต่เรายังสามารถคล้อง Galaxy SmartTag ไว้ที่ปลอกคอของสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย โดยเฉพาะ “น้องตัวแสบ” ที่สบโอกาสเมื่อไหร่เป็นต้องมุดหนีไปเล่นนอกบ้าน ทำเอาเจ้าของต้องกังวลใจ วิ่งออกตามหากันจ้าละหวั่น ซึ่งถ้ามี SmartTag ติดตัวน้องไว้ ก็จะเพิ่มความอุ่นใจเพราะสามารถระบุตำแหน่งได้ผ่านบลูทูธ (BLE) และถ้าน้องหลงทางไปไกลกว่าขอบเขตของบลูทูธ หรือขาดการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ตัว SmartTag จะส่งสัญญาณไปยังสมาร์ทโฟนกาแลคซี่ที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นดีไวซ์เครื่องดังกล่าวจะส่งข้อมูลไปยัง SmartThings Find เพื่อแจ้งให้เจ้าของทราบตำแหน่ง แล้วออกไปรับกลับมา(ลงโทษ)ได้นั่นเอง 

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ SmartTag เป็นรีโมทควบคุมเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ IoT ในบ้านจากที่อื่นได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราออกจากบ้านไปแล้ว แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเปิดทีวีทิ้งไว้ แทนที่จะต้องวกกลับมา ก็สามารถจัดการปิดทีวีได้แค่กดปุ่มบน SmartTag เพียงเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านแอปพลิเคชัน SmartThings แล้วตั้งค่าชุดคำสั่งที่ต้องการในเมนู ‘Mode’ ให้เรียบร้อย ก็สามารถควบคุมบ้านสมาร์ทโฮมได้ด้วยปลายนิ้ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

Galaxy-SmartTag-Review-(4)_

Galaxy SmartTag จาก Samsung มาในขนาดเล็กกะทัดรัด จะพกพาไปไหนหรือคล้องไว้กับอะไรก็ลงตัว แถมยังใช้งานง่าย และยาวนานถึง 300 วันโดยไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ ถือเป็นโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของหลายๆ คน ทำให้ชีวิตสมาร์ทยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นสัมภาระชิ้นจิ๋ว ของมีค่า หรือสัตว์เลี้ยงสุดรัก ก็อยู่ในสายตาได้ตลอดเวลา 

Samsung วางจำหน่าย Galaxy SmartTag อย่างเป็นทางการแล้วในตัวเลือก 2 สีคลาสสิก อย่างสีดำ (Black) และ สีโอ๊ตมีล (Oatmeal) ในราคาเพียง 890 บาทเท่านั้น ที่ Samsung Experience Store และ samsung.com สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/3php4mv