Dibea หลายคนเคยคุ้นชื่อจากเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย แต่ความจริงแล้วเขาก็มีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นขายเช่นกัน Dibea D500 Turbo ออกแบบมาด้วยความคล่องตัว ขนาดเล็กเข้าถึงพื้นที่ได้ดี และยังมีการออกแบบทรง D-Shape ที่เข้ามุมได้ดีกว่าทรงวงกลม มาพร้อมกับระบบทำความสะอาดใหม่ D-Slam 2.0 ที่ฉลาดมากกว่าที่เคย กินไฟน้อย ดูดแรง เสียงเบา

Dibea D500 Turbo

“ไดเบีย” หรือ “ดีเบีย” (Dibea) เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากใน Amazon ด้วยราคาที่ถูกแต่คุณภาพสูงเกินราคา การันตีด้วยรีวิวจากลูกค้า 5 ดาว วันนี้มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วครับ (Dibea Official Thailand) ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีศูนย์บริการ หรือไม่มีอะไหล่ในการซ่อม เพียงแค่เลือกซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องก็พอครับ ซึ่งเดี๋ยวเราจะบอกในเรื่องของแหล่งซื้อและราคาท้ายรีวิวให้อีกที

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Dibea D500 Turbo
  • ผ้าไมโครไฟเบอร์ 2 ผืน
  • อแดปเตอร์พร้อมแทนชาร์จ
  • ฟิลเตอร์กรองฝุ่น (HEPA)
  • รีโมทคอนโทรล
  • แปรงทำความสะอาด

ตัวเครื่องมาพร้อมกับสีขาว ขนาดเล็กกะทัดรัดน้ำหนักไม่เยอะมาก โดยการที่ออกแบบเครื่องเป็นตัว “D” (D-Shape) เพื่อที่จะสามารถเข้ามุมห้องได้ดีมากกว่าทรงกลมทั่วไป โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้มาพร้อมกับการทำงานสองระบบ ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นภายในเครื่องเดียว การใช้งานไม่ยุ่งยากมาก เหมาะกับคนที่ต้องการเครื่องทุ่นแรงในการทำความสะอาด

หลักการทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ก็คือการใช้แปรงทั้งสองฝั่ง ปัดฝุ่นเข้ามาบริเวณกลางเครื่องและดูดเข้าไป จากนั้นจะผ่านตัวกรองสองชั้นได้แก่ HEPA Filter และ PRO Filter กรองฝุ่นได้สูงถึง 0.3 ไมครอน เท่ากับว่าหากมี PM 2.5 ตกอยู่บนพื้นห้องมันก็จะดูดเข้าไปได้ด้วย จึงเป็นการทำความสะอาดได้มากกว่าไม้กวาดทั่วไปนั่นเองครับ

ด้านข้างมีสวิตซ์สำหรับเปิดปิดเครื่องและก็ช่องเสียบชาร์จไฟตรง (แต่กรณีนี้แนะนำชาร์จผ่านแท่นชาร์จสะดวกกว่า)

ด้านล่างของตัวเครื่องอันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นส่วนของล้อและแปรงทำความสะอาด มีระบบป้องกันการติดของสายไฟและแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง (เวลามันติดสายจะพยายามหลบและถอยจนกว่าจะหลุด) และหากบ้านใครมีพรมก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน เพียงแค่มีความสูงไม่เกิน 1.5 ซม. หุ่นยนต์ก็สามารถเดินปีนขึ้นได้แบบไม่กินพรมให้หงุดหงิดหัวใจ

ระบบถูพื้นในเครื่องเดียว

ไม่เพียงแค่การกวาดพื้นหรือดูดฝุ่นเท่านั้น แต่หากต้องการทำความสะอาดให้ครบทุกขั้นตอน ก็ต้องเพิ่ม “ถูพื้น” เข้าไปด้วย รุ่นนี้สามารถดึงถาดใส่น้ำออกมาได้ง่าย สามารถเติมน้ำได้อีกเล็กน้อย (ไม่มากอะไรแต่ก็เพียงพอสำหรับถูพื้นหนึ่งห้อง) การทำงานคือน้ำจะค่อย ๆ ซึมลงผ้าไมโครไฟเบอร์ของเราไปเรื่อย ๆ ให้ความรู้สึกหมาด ๆ แต่ไม่ได้เปียกชุ่ม

กล่องเก็บฝุ่นอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่อง สามารถเปิดฝาได้เพียงแค่กดลงไป จากนั้นก็ดึงกล่องเก็บฝุ่นออกมา โดยกล่องเก็บฝุ่นมีขนาดใหญ่ 400 มล. สามารถเก็บได้ทั้งเศษฝุ่นผง, เส้นผม, เศษอาหาร, เศษขนมปัง, ฯลฯ จากที่ได้รีวิวมาหากห้องไม่ได้สกปรกอะไรมาก เทขยะทิ้งสักประมาณสัปดาห์ละครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องคอยแกะบ่อย ๆ

เมื่อมีอากาศที่ดูดเข้าไปก็ต้องมีอากาศที่พ่นออกมา หากไม่มีตัวกรองยังไงก็ฝุ่นฟุ้งกระจายแน่นอน โดยสำหรับเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้มาพร้อมกับ HEPA Filter และ PRO Filter คอยกรองอากาศและเศษฝุ่นขนาดเล็กได้สูงถึง 0.3 ไมครอน ตัวเครื่องมาพร้อมกับเทคโนโลยีเสริมพลังดูดสูงถึง 1000 PA โดยใช้มอเตอร์ขนาดเล็ก ทำให้เสียงเงียบและประหยัดพลังงาน

วิธีใช้งาน

การทำงานมาพร้อมกับโหมด D-Slam 2.0 ที่ฉลาดล้ำมากกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไป มีระบบการเดินที่ฉลาด สามารถหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งมีระบบป้องกันการพันเกี่ยวของสายไฟ ส่วนรีโมทสามารถสั่งงานปรับระดับความแรงได้ Eco, Normal, Turbo ตามลำดับ (โหมดที่แรงขึ้นจะแลกกับการใช้งานแบตเตอรี่ และเสียงที่ดังมากยิ่งขึ้น)

นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานให้เดินตามคำสั่ง, การทำความสะอาดอัตโนมัติ, การทำความสะอาดเฉพาะจุด, ฯลฯ สามารถเลือกสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้ทั้ง Android และ iOS โดยหุ่นยนต์จะเชื่อมต่อกับ WiFi ภายในบ้าน จากนั้นเราก็สามารถสั่งงานได้จากทุกที่ทั่วโลก ข้อดีของแอปพลิเคชันคือเราสามารถดูแผนที่การเดินได้ และก็ดูปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือได้

ดูเหมือนจะมีโหมดการทำงานและควบคุมเยอะแยะ แต่ความจริงแล้วสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่มเดียวเครื่องก็จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ อันนี้สะดวกมากเพราะที่บ้านจะเป็นคนแก่หรือเด็กก็สามารถใช้งานได้ และเมื่อต้องการหยุดทำงานก็สามารถกดที่ตัวเครื่องได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องใช้รีโมทหรือแอปพลิเคชันก็สามารถทำความสะอาดได้เหมือนปกติ

จากที่ได้ลองทดสอบตัวเครื่องทำงานค่อนข้างเงียบกว่าเครื่องดูดฝุ่นมาก สามารถเปิดทิ้งไว้แล้วทำงานหรือดูทีวีได้โดยไม่รบกวน ตัวแบตเตอรี่มีความจุถึง 2,200 mAh ทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานเกือบสองตัวโมง (ตามสเปกคือ 100-120 นาที) เหมาะกับพื้นที่ใช้งานประมาณ 100 ตารางเมตร เหมาะกับการใช้งานตามคอนโด, ทาวน์เฮ้าส์, บ้านเดี่ยว

ตัวเครื่องมีขนาดเพียงแค่ 30 x 30 x 7.5 ซม. เมื่อเทียบกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในท้องตลาดถือว่าเล็กมาก สามารถเข้าซอกมุมได้อย่างดี นอกจากนี้ด้วยความที่ตัวเครื่องมีความสูงที่เตี้ยมาก การเข้าไปยังซอกใต้ตู้หรือใต้เตียงจึงไม่ค่อยติดอะไร แถมเครื่องด้านหน้าเป็นมุมเหลี่ยม (D-Sharpe) การเข้ามุมต่าง ๆ จึงทำได้ดีกว่าการใช้เครื่องแบบรูปทรงวงกลม

เดินขึ้นพรมได้ที่ความสูงไม่เกิน 1.5 ซม.

กลับแท่นชาร์จอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่หมด

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการหลบหลีกสิ่งกีดขวางแบบชาญฉลาด มีระบบเซ็นเซอร์กันตกจากที่สูง สามารถถูพื้นไปพร้อมกับดูดฝุ่นได้ในคราวเดียว จากที่ได้ทดสอบรีวิวก็ถือว่าหุ่นยนต์สามารถทำความสะอาดได้ดี ให้ความสะอาดได้ใกล้เคียงกับการใช้คนดูดฝุ่นและถูพื้น (ยอมรับว่าคนทำออกมาได้ดีกว่า) แต่สิ่งที่ได้คือเรื่องการประหยัดเวลาและประหยัดแรงไปได้เยอะมาก

หมดห่วงเรื่องอะไหล่

การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าสิ่งที่ต้องคำนึงก็คือเรื่อง “บริการหลังการขาย” หากเราซื้อยี่ห้อโนเนมหรือซื้อจากคนที่ขายอย่างเดียว ก็คงเหมือนกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่รอวันเสียและทิ้งในที่สุด แต่สำหรับ Dibea Official Thailand เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีอะไหล่ให้เลือกซื้อและซ่อมได้ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเปลี่ยนฟิลเตอร์ ซื้อแปรงปัดสำหรับ ซื้อผ้าไมโครไฟเบอร์ก็มีขายตลอด

หลังจากการทดสอบไป 1 วันเต็ม ๆ ไม่น่าเชื่อว่าห้องที่เราเชื่อว่าสะอาด ทำความสะอาดทุกวันจะมีฝุ่นหลงเหลือมากขนาดนี้ (ไม่นับรวมเศษกระดาษที่เหลือที่นำมาทดสอบ) ความเจ๋งของการใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแทนคนคือมันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หากใครอนามัยมากจะตั้งให้มันทำความสะอาดวันละกี่รอบก็ได้ หลังจากใช้งานแล้วรู้สึกว่าเดินห้องแล้วไม่สากเท้า

ข้อดี

  1. รูปทรง D-Shape เข้ามุมได้ดีกว่ารูปทรงกลม
  2. ระบบ D-Slam 2.0 ทำความสะอาดได้ดีขึ้น
  3. การใช้งานผ่านแอปพลิเคชันหรือรีโมท
  4. ตัวเครื่องขนาดเล็กเข้าถึงซอกมุมได้อย่างดี

ข้อเสีย

  1. แท้งค์น้ำมีขนาดเล็กไปหน่อย

สรุป

สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นที่ดีมีคุณภาพ Dibea D500 Turbo เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ ได้ความครบเครื่องในทุกอย่างภายในเครื่องเดียว ช่วยประหยัดแรงในการทำงานได้เยอะมาก สามารถสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันจากข้างนอกบ้านได้ หรือจะตั้งการทำงานอัตโนมัติเป็นช่วงเวลาก็ได้ ถังเก็บฝุ่นมีขนาดใหญ่ทำให้ไม่ต้องคอยเทขยะบ่อย ๆ แต่แท้งค์น้ำมีขนาดเล็กอาจไม่ค่อยเน้นตรงจุดนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่สบายใจได้คือเรื่องของศูนย์บริการ หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ผ่าน Shopee

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial