Epson M100 พริ้นเตอร์ติดแท๊งค์ปลอมตอนนี้ถือว่าเชยไปแล้ว นอกจากคุณภาพหมึกจะไม่ได้มาตรฐาน แถมยังทำให้ประกันขาดอีกด้วย “พริ้นเตอร์แท๊งค์แท้” เอปสัน M-Series ด้วยคุณสมบัติเทียบเท่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ แต่ประหยัดมากกว่าถึง 39% ด้วยต้นทุนเพียงแผ่นละ 9.8 สตางค์ (ประมาณ 10 แผ่นบาท) ในขณะที่เลเซอร์ตกแผ่นละ 25 สตางค์ (4 แผ่นบาท) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากครับ
Epson M100
เอปสันเปิดตัวรุ่นนี้ภายใต้ชื่อ EPSON M-Series ประกอบไปด้วย M100 และ M200 (พื้นฐานเดียวกันแต่ต่างแค่ฟีเจอร์นิดหน่อย) โดยมีราคาอยู่ที่ 5,990 บาท และ 7,490 บาท ตามลำดับส่วนกลุ่มเป้าหมายก็เน้นไปที่สำนักงานขนาดเล็ก หรือคนที่ใช้พิมพ์เอกสารปริมาณมากโดยต้องการราคาถูก
ส่วนตัวผมเองก็เป็นพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ที่บอกตามตรงว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้พิมพ์เท่าไหร่ เพราะเน้นไปที่ E-Paperless เสียส่วนมาก แต่งานบางอย่างเช่นสัญญาลูกค้าหรือเอกสารหลายชนิด ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องพิมพ์อยู่ Printer จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หลายปีก่อนเรามีความเชื่อว่า “ถ้าพิมพ์เยอะยังไงก็ต้องเลเซอร์ ค่าเครื่องแพงแต่ต้นทุนต่อแผ่นถูก” แต่ปัจจุบันความเชื่อเช่นนั้นไม่จริงเสมอไป
Epson M100 ต้นทุนต่อแผ่นถูกกว่าเลเซอร์
สำหรับคนที่มีความคิดจะไปติดแท๊งค์ปลอม อยากบอกว่าตอนนี้เชยมากครับ เพราะนอกจากจะแพงแล้วยังประกันขาดอีก (น้ำหมึกก็ไม่ได้มาตรฐาน) ตอนนี้ทาง Epson ได้เปิดตัวแท็งค์แท้ (Ink Tank) มาหลายรุ่น M100 ก็หนึ่งในนั้น ไม่ต้องไปเสี่ยงติดแท๊งค์ปลอมให้ประกันขาด หรือใช้เลเซอร์แบบเก่าให้สิ้นเปลืองอีกต่อไป
ด้านข้างเป็นส่วนของถังเก็บน้ำหมึก ดีไซน์ออกมาได้เรียบสวยเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเครื่อง มีฝาครอบเรียบร้อยสวยงามเพียงแค่เลื่อนไปข้างใน ถัดลงมาจะเป็นสเกลน้ำหมึกที่สามารถสังเกตได้จากด้านนอก
ด้านหน้ามีสวิทซ์สำหรับปิดแท๊งค์น้ำหมึกเวลาเคลื่อนย้าย ทำให้เวลาย้ายที่แล้วหมึกไม่หกเลอะเทอะ
สำหรับวิธีการเติมหมึกก็ง่ายดายเช่นกัน ไม่ต้องใช้สลิ้งฉีดหมึกให้เลอะเทอะ ขวดนึงออกแบบมาให้เพียงพอสำหรับเติมเต็มแท๊งค์ 140 มล. ส่วนราคาหมึกก็อยู่ที่ขวดละ 690 บาท (เป็นหมึกกันน้ำด้วย)
พูดเรื่อง Printer สำหรับสำนักงาน คงขาดไม่ได้กับพอร์ต LAN เผื่อเอาไว้แชร์กับหลายเครื่องด้วยกัน แต่สำหรับใครที่ใช้ส่วนตัวแค่คนเดียวจะเลือกต่อผ่าน USB ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
ด้านหน้ามีแผงควบคุมสุดเรียบง่าย เพียงแค่ 3 ปุ่ม (ง่ายจัง) ประกอบไปด้วยเปิดปิดเครื่อง, แสดงสถานะเครือข่าย, ยกเลิกงานพิมพ์ แต่ตรงนี้ก็ไม่ต้องกังวลเพราะการควบคุมส่วนใหญ่ มักจะอยู่ในส่วนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว
ด้านในเป็นสายลำเลียงน้ำหมึกอย่างเรียบง่ายและเป็นระเบียบ แตกต่างจากเวลาเราไปติดแท๊งค์ปลอมที่ร้าน
รีวิว | Epson M100
ทดสอบพิมพ์จริงงานพิมพ์ขาวดำส่วนใหญ่ คาดว่าคงเอาไปพิมพ์เอกสารกัน ดูจากตัวอักษรก็คมเข้มไม่ต่างจากเครื่องพิมพ์เลเซอร์
หากไม่บอกจริงก็แยกไม่ออกเหมือนกันว่าพิมพจากเครื่องอิงค์เจ็ทหรือเลเซอร์ ความคมชัดของตัวอักษรไม่ต่างกัน
ความคุ้มค่า
หากคุณยังไม่ทราบทันทีที่ซื้อเครื่องใหม่จะได้หมึกน้ำหมึกถึง 2 ขวด (140 + 70 มล.) สามารถพิมพ์ได้ทันทีถึง 8,000 แผ่น (หากพิมพ์วันละร้อยแผ่นก็ใช้เวลาเกือบสามเดือน) และอย่างที่บอกในตอนแรกว่าหมึกขนาด 140 มล. ราคาเพียงแค่ 590 บาท พิมพ์ได้ถึง 6,000 แผ่น ต้นทุนตกเพียงแค่แผ่นละ 9.8 สตางค์ หากเป็นเลเซอร์ต้องเปลี่ยนโทนเนอร์ถึง 3 ขวด (ประมาณ 1,500 บาท) จะคิดต่อแผ่นหรือรวมต้นทุนเครื่องไปด้วยยังไงก็คุ้มกว่า
หมึกกันน้ำ
ใครว่าอิงค์เจ็ทหมึกจะไม่ถูกกับน้ำเสมอไป สำหรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Epson ได้ผลิตหมึกกันน้ำออกมาขาย ในราคาไม่แพงตกเพียงขวดละ 590 บาท (140 มล.) เอกสารที่พิมพ์มีความทนทานไม่ต่างจากเลเซอร์ สามารถป้องกันอุบัติเหตุอย่างน้ำและความชื่นได้เป็นอย่างดี
ทดสอบฉีดน้ำจนกระดาศเปื่อยยุ่ยจน (เหี่ยวมาเชียว) แต่ตัวอักษรก็ไม่ได้ละลายไปกับน้ำ
หากเป็นหมึกอิงค์เจ็ททั่วไป (รวมถึงหมึกปลอม) จะไม่มีความสามารถในการกันน้ำ ลองหลับตานึกถึงเอกสารสัญญาสำคัญที่ให้ลูกค้าเซ็นต์ แล้ววันหนึ่งด้วยอุบัติเหตุทำให้สีจืดจางหรือละลายไปกับน้ำ คงแทบอยากจะลาออกไม่กล้าไปพบหัวหน้ากันเลยทีเดียว
และถึงแม้จะเป็นการพิมพ์รูปภาพที่ใช้น้ำหมึกเยอะกว่า ก็ไม่มีปัญหาถ้าหากใช้หมึกอิงค์เจ็ทกันน้ำของแท้จาก Epson
ความเร็วในการพิมพ์
หลายบริษัทเลือกซื้อ Laser Printer ส่วนหนึ่งเพราะความเร็วใจการพิมพ์ EPSON M-Series ก็มาพร้อมกับความเร็วในการพิมพ์ไม่แพ้กัน ด้วยความเร็ว 15 แผ่น/นาที เทียบเท่ากับเลเซอร์ (ISO24734) ดังนั้นเรื่องความเร็วก็ไม่ต้องกังวล
แต่หากพิมพ์ภาพแผ่นใหญ่ก็จะใช้เวลามากกว่า (เล็กน้อย) ส่วนภาพด้านบนก็ยังใช้เวลาไม่กี่วินาที
งานพิมพ์ที่ได้ถึงแม้ว่าจะเป็นขาวดำแต่ก็มีลายเส้นครบถ้วน โดยรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ
ไม่เพียงแค่ค่าน้ำหมึกที่ถูกกว่าในความเร็วการพิมพ์ที่เท่ากัน การใช้พลังงานยังน้อยกว่าถึง 70% โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง ผ่านการรับรองมาตรฐานโดยสถาบันระดับโลกอย่าง Energy Star คุ้มกว่าทุกด้านแบบนี้เล่นเอาเครื่องพิมพ์เลเซอร์ประจำออฟฟิศผมคงตกงานในเร็วนี้ ถูกทั้งเครื่องและหมึก (รวมถึงพลังงาน) พิมพ์ทิ้งพิมพ์ขว้างได้โดยไม่ต้องกังวล ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเพราะทาง Epson เองก็รับประกันตัวเครื่องให้ถึง 2 ปี หรือ 50,000 แผ่น
ข้อดี
- ต้นทุนเพียงแผ่นละ 9.8 สตางค์
- ความเร็วในการพิมพ์ 15 แผ่น/นาที
- รองรับการแชร์ผ่าน LAN
ข้อเสีย
- ไม่รองรับ Wi-Fi
- ถาดใส่กระดาษเล็กไปนิด
สรุป
ที่สุดแห่งความคุ้มค่า เกิดมาเพื่อฆ่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนต่อแผ่นหรือความเร็วในการพิมพ์ (รวมทั้งการใช้พลังงาน) ข้อดีคือวางไว้ประจำโต๊ะได้เลย ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากฝุ่นผงหมึกแบบเลเซอร์ หรือจะเลือกแชร์กันผ่าน LAN ก็ตอบโจทย์สำนักงานเป็นอย่างยิ่ง หากใครสนใจลองเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ EPSON M-Series
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial