Infinix Hot Note X551 เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาเปิดตลาดในบ้านเรา หลังจากขายในประเทศแถบยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง เน้นราคาถูกสเปคแรงสามารถใช้งานได้จริง จุดเด่นอยู่ที่แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ถึงสองวันเต็ม
Infinix Hot Note X551
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,190 บาท สามารถหาซื้อออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์ Lazada (เริ่มขายวันที่ 7 ตุลาคม 2558) บริษัทอินฟินิกซ์มาจากฮ่องกงและเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีทีมงานด้านการออกแบบอยู่ที่ฝรั่งเศษและเซี่ยงไฮ้ โดยรุ่น Hot Note X551 เป็นรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
สเปค | Hot Note X551
- ระบบปฏิบัติการ : Android 5.1 Lollipop + X UI
- ซิมการ์ด : Dual-SIM (3G ความถี่ 900 / 2100 MHz)
- หน้าจอ : 5.5″ IPS HD ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล : Mediatek MT6592 Octa-core 1.4 GHz
- กราฟิก : Mali-450 MP
- แรม : 2 GB
- หน่วยความจำ : 16 GB (รองรับ MicroSD 32GB)
- กล้องหลัง : 8 MP พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้า : 2 MP
- ไร้สาย : WiFi, Bluetooth, GPS
- แบตเตอรี่ : 4,000 mAh
- น้ำหนัก : 172 กรัม
- ขนาด : 156 x 77.88 x 8.9 มม.
ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยกันเลยทีเดียว เพราะได้ความสดใหม่ของ Android 5.1, แบตเตอรี่ 4,000 mAh ส่วนสเปคก็อยู่ในระดับกลาง แต่ด้วยความที่หน้าจอเป็น HD จึงทำให้ไม่ต้องใช้สเปคมากนัก
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือระบบชาร์จเร็วกว่าถึง 3 เท่า ชาร์จเพียง 20 นาที สามารถใช้งานได้ถึง 7 ชั่วโมง ส่วนแบตเตอรี่หากชาร์จเต็มสามารถสนทนาได้ยาวนาน 21 ชั่วโมง (ประมาณ 2 เท่าของไอโฟน)
ตัวขนาดเครื่องกะทัดรัดสามารถถือได้ง่ายดาย โดยมีน้ำหนัก 172 กรัม ซึ่งเบากว่าที่คิดมาก อารมณ์ที่จับคล้ายแบรนด์ I-mobile เพียงแต่ว่ารายละเอียด Infinix เก็บมาได้ค่อนข้างดีกว่า
ด้านบนของเครื่องจะเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟัง ส่วนไมค์ตัวเครื่องเท่าที่ดูมีเพียงจุดเดียว (ลดต้นทุน) ถ้าหากใช้อัดวิดีโออาจได้เสียงที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าหากใครไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ปล่อยผ่านได้เลยครับ
ความหนาของเครื่องอยู่เพียงแค่ 8.9 มิลลิเมตร ค่อนข้างบางหากเทียบกับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นในตลาด ส่วนถ้าเป็นที่พรีวิวไปล่าสุด MEIZU M2 Note (ไม่น่าจะเรียกคู่แข่งได้เพราะราคาห่างกันเกือบสองพัน) ก็มีความหนาที่ไล่กันที่ 8.7 มิลลิเมตร
หน้าตา | Hot Note X551
ไม่ธรรมดาเลยสำหรับเครื่องราคาเท่านี้ เพราะถูกครอบด้วย X UI อีกหนึ่งชั้น (นึกถึง OPPO, Xiaomi, Meizu อะไรพวกนี้) ทำให้หน้าตาดูดีและไม่ซ้ำซากกับ Android ในตลาดทั่วไป
ใช้งานจริงก็ค่อนข้างลื่นพอสมควร แม้ว่าอาจไม่ถึงกับขนาดหัวแตก แต่ก็ไม่ใช่ใช้ไปแล้วหงุดหงิด อีกสิ่งที่ผู้ใช้งานควรทราบคือนอกจาก Play Store แล้วยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ผ่าน Palmplay ได้อีกด้วย
ลูกเล่นกล้องมีให้ใช้งานบ้างเล็กน้อย (ตามภาพด้านบน) นอกจากนี้ก็ยังมีโหมด HDR, Face beauty, Panorama รวมถึงฟิลเตอร์ฮา ๆ ให้ได้เล่นกันอีกด้วย
ประสิทธิภาพ | Hot Note X551
ทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ได้คะแนนอยู่ที่ 29,450 คะแนน ซึ่งถือว่าค่อนข้างแรงพอตัวสำหรับการใช้งานทั่วไป ถึงแม้ว่าหน่วยประมวลผลจะไม่เป็น 64-bit ตามสมัยนิยมก็ตาม
กล้อง | Hot Note X551
ทดสอบกล้องถือว่าไม่มีอะไรโดดเด่นมากในสภาวะแสงปกติ แต่ถ้าหากเป็นแสงแดดแรงหน่อยจะได้ภาพที่ดีพอควร (ดูได้จาก Panorama ภาพแรก) ส่วนกล้องหน้าแสงค่อนข้างฟุ้งไปทางขาว (แต่ถ้าได้แสงดีคงดีกว่านี้) ส่วนมุมที่ได้ค่อนข้างกว้างสมกับที่คุยไว้ โดยรวมถือว่าคุณภาพพอใช้ครับ
ข้อดี
- ราคาถูกเทียบกับสเปคที่ได้
- แบตเตอรี่อยู่ได้สองวันสบาย
- ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว
- กล้องหน้ากว้างถึง 75 องศา
ข้อเสีย
- รองรับ 3G แค่ความถี่ 900 และ 2100 MHz (AIS)
- กล้องหน่วงเล็กน้อย
สรุป
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของสมาร์ทโฟนราคาถูก ซึ่งหากคุณใช้ AIS จะใช้คลื่นความถี่ 3G ได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร อีกทั้งยังรองรับสองซิมและมีแบตเตอรี่ที่ยาวนาน จะว่าไปราคา 4,190 บาท เมื่อเทียบกับสเปคระดับนี้หาคู่แข่งได้ยากครับ