หนึ่งใน Smart Phone จอ 5″ ที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น Oppo Find 5 ที่อัดสเปกมาให้แบบที่ว่า รุ่นเรือธงค่ายอื่นต้องร้อนๆหนาวๆ เพราะจัดเต็มทั้งจอ 5″ ความละเอียด 1080p และ CPU ตัวแรงจาก Qualcomm อย่าง Snapdragon S4 Pro และแรมอีก 2GB ให้ใช้แบบเหลือเฟือ
นอกจากสเปกเครื่องที่ให้มาแบบเต็มอิ่มแล้วยังมีกล้อง 13 ล้านพิกเซลที่ปรับปรุงจากรุ่นก่อนๆ และได้ข่าวว่าจะออกรุ่นสีดำมาด้วยนะ
Specification
CPU : Qualcomm Snapdragon S4 Pro ความเร็ว 1.5 GHz
GPU : Adreno 320
Display : 5″ ความละเอียด 1920×1080 (~441 ppi)
RAM : 2GB
ROM : 32GB
กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Autofocus พร้อม LED Flash ,
บันทึกวีดีโอ FullHD 1080P
กล้องหน้าความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
Wi-Fi รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot
Bluetooth : 4.0 และมี NFC
GPS : A-GPS
Android Version 4.1.2
Sound Enhancement : Dirac HD Sound, Dolby Digital
แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer ความจุ 2500 mAh
รองรับคลื่นความถี่ 3G ทุกค่าย
Design
Oppo Find 5 เป็นมือถือทรง 4 เหลี่ยมที่จับแล้วให้ความรู้สึกหนักพอสมควรเค้าบอกว่าหนัก 165 กรัม วัสดุของทำมาจาก Fiber (ABS) ทำให้แข็งแรง ทนทาน ตกแล้วไม่แตก (แต่เป็นรอย)
ด้านหน้าของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยกล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซลที่พร้อมกับฟังก์ชั่นถ่ายรูป Beauty Plus 2.0 (ถ่ายแล้วหน้าเป๊ะไม่ต้องโบ๊ะแบบใน Find Way), Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, ไฟ LED Notification แสดงสถานะการทำงาน , หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ Full HD 1920 X 1080 พิกเซล (441ppi) กระจก Gorilla Glass 2 หน้าจอใช้เทคโนโลยี OGS Craft ทำให้จอสว่างและคมชัดขึ้น ส่วนล่างมีปุ่มควบคุมแบบสัมผัส (Touch-sensitive controls) 3 ปุ่ม Menu , Home , Back ตามมาตรฐาน Android
ด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash ส่วนล่างเป็นลำโพง แน่นอนตัวบอดี้เป็น Uni-Body ถอดฝาหลังไม่ได้นั้นเอง รูเล็กคือไมโครโฟนสำหรับการตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
เนื่องจากมันแกฝาหลังไม่ได้ช่องใส่ซิมเลยย้ายมาอยู่ข้างๆแทน และมีปุ่ม Power อยู่ด้านข้างด้วย ถ้ามองจากด้านหน้าของ Find 5 ปุ่ม Power จะอยู่ด้านซ้ายพอดี เป็นตำแหน่งที่สำหรับคนถนัดขวาต้องกดด้วยนิ้วชี้เวลาถือมือเดียว มันกดลำบากนิดๆ (ปัญหานี้แก้ได้โดยถือมือซ้ายแทนไม่ต้องอัพ FW)
อีกด้านมีปุ่ม เพิ่ม/ลด เสียงอย่างเดียว โดดเดี่ยว ถามแล้วมันบอกว่าอยู่ได้ไม่เหงา
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5mm โดดเดี่ยวเหมือนกัน
ด้านล่างมีพอร์ทเสียบ micro USB ไว้เชื่อมต่อกับ PC หรือชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนรูเล็กๆข้างเป็นไมโครโฟนสนทนา
User Interface & Experience
Find 5 มาพร้อมกับ Android 4.1.1 และ UI ของตัวเอง ซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วเพราะหน้าตาแทบไม่ต่างจากรุ่นๆก่อนๆเท่าไหร่ ความเสถียรของรอมยังไม่เสถียรเท่าที่ควร ยังมีค้างบ้าง ดับบ้างบางครั้ง
แต่สิ่งที่ชอบใน UI ของ Oppo ก็คือการจัดระเบียบ Option ต่างๆแยกเป็นหมวดหมู่ที่มือใหม่มาใช้ก็ไม่งงแน่นอน
อย่างที่บอกว่าเป็น Android 4.1.1 ตั้งแต่เกิด เพราะฉะนั้นรองรับภาษาไทย 100% ทั้งอ่านและพิมพ์
การดูหนังฟังเพลงของ Find 5 มีระบบ Dirac HD Sound และ Dolby Digital ช่วยเพิ่มอรรถรส
มี OTA Update , Google Now และที่ประหลาดใจที่สุดคือมี Menu แจ้งเตือนขึ้นมาในหน้าจอด้วยเวลามี Miss Call
Camera
กล้อง 13 ล้านพิกเซลมันแค่ไม่กี่รุ่นที่วางขายตอนนี้ มาพร้อมกับ Stacked CMOS Sensor สามารถถ่ายภาพในโหมด HDR รองรับการแสดงผลแบบ Real-Time Preview
แต่ข้อเสียที่กวนใจก็คือมันโฟกัสไม่เร็ว และต้องโฟกัสใหม่บ่อยๆ เวลาหยิบมาจะถ่ายอะไรที่มีเวลาน้อยๆนี่ทำไม่ได้เลย ต้องรอมันโฟกัสก่อน
แต่ถ้าโฟกัสดีๆแล้วถ่ายออกมาคุณภาพของรูปที่ได้ไม่แพ้ค่ายอื่นๆเลย คมชัดและสวยงามมากๆ
โหมด HDR แบบ Real-Time สามารถแสดงผลลัพธ์ของภาพ HDR ทางหน้าจอได้เลย ไม่ต้องรอถ่ายก่อน
Option ต่างๆของกล้องถ่ายรูป
Option ต่างๆของโหมดวิดิโอ
ตัวอย่างถาพถ่ายจากกล้อง
Benchmark
Multitouch ได้สูงสุด 10 จุด
Quadrand Benchmark ได้ 5207 คะแนน
AnTuTu Benchmark ได้ 14572 คะแนน
สรุป
โดยรวมแล้วเจ้า Oppo Find 5 เป็นเครื่องที่ครบครันคุ้มค่าจริงๆเมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวมาเพียงแค่ 16,900บาท เท่านั้นเอง ได้ทั้ง CPU 4 หัวตัวแรงจาก Qualcomm Snapdragon S4 Pro แรมยัดมาให้ 2GB , จอ 5 นิ้วความละเอียด FullHD 1080p , กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ติที่กล้องโฟกัสไม่แม่น ไม่หนึบ เท่านั้นเอง
หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้อ่านทุกคนนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ เจอกันรีวิวหน้าครับ 🙂