ถ้าพูดถึงเรื่องดูหนังออนไลน์เชื่อว่าหลาย ๆ คนนึกถึงการดูหนังออนไลน์ผ่านทางเว็บ ที่นอกจากจะละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว บางทีกดเข้าไปก็ดูไม่ได้บ้าง มีโฆษณาเยอะบ้าง บางทีก็เป็นหนังเถื่อนซูมภาพและเสียงขาดหายไปบ้าง ทำให้เสียอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างมาก ในวันนี้จึงหยิบแอปพลิเคชันสำหรับรับชมภาพยนตร์ออนไลน์ น้องใหม่อย่าง PrimeTime มาให้ได้รู้จักกันมากขึ้น
เริ่มใช้งาน PrimeTime ในครั้งแรก จะต้องทำการสมัครสมาชิกก่อนเพื่อเข้าใช้งาน แต่การสมัครสมาชิกก็ไม่ได้ยากอะไร เพราะระบบสามารถให้ใช้การ Login ผ่าน Facebook ได้ ซึ่งกดคลิกเดียวก็สามารถเข้าใช้งานได้ทันที เมื่อ Login เข้ามาภายในตัวแอปแล้ว ก็จะพบหน้าแรกที่เป็นภาพยนตร์มาใหม่ในเดือนนี้ รวมไปถึงหัวข้อภาพยนตร์ต่าง ๆ และเมื่อสไลด์ไปทางขวา จะพบกับเมนูต่าง ๆ ของ PrimeTime
มาดูที่เมนูแรก Movies จะเป็นการรวมหมวดภาพยนตร์ต่าง ๆ ไว้ทั้งหมด โดยมีหมวดภาพยนตร์ต่าง ๆ ดังนี้
- Premier Movies จะเป็นภาพยนตร์ใหม่ที่เพิ่งออกจากโรงเพียง 3 เดือน ซึ่งถือว่าเร็วมาก ๆ แต่ในส่วนของภาพยนตร์พรีเมียร์นี้ จะคล้าย ๆ กับการเช่าหนัง จำกัดให้ชมได้เพียง 2 เรื่องต่อแพ็กเกจที่ครอบคลุมในส่วนนี้เท่านั้นค่ะ หากต้องการชมเพิ่มก็ต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่มหรือรอจนกว่าภาพยนตร์จะถูกถอดจากภาพยนตร์กลุ่มพรีเมียร์
- New Movies This Month ภาพยนตร์ใหม่ประจำเดือน ในส่วนนี้ก็จะมีทั้งภาพยนตร์พรีเมียร์และภาพยนตร์ที่นำมาลงเพิ่มในเดือนนั้น ๆ ค่ะ
สำหรับช่วงนี้เพื่อให้เข้ากับกระแส Fast & Furious 7 จึงได้มีการรวบรวมภาค 1-6 มาไว้ด้วยกัน
- Movies Buffet ภาพยนต์บุฟเฟ่ต์ สำหรับใครที่ซื้อแพ็กเกจภาพยนต์บุฟเฟ่ต์ ก็สามารถเข้าชมในหมวดนี้ได้หมดทุกเรื่องเลยค่ะ
- Disney Movies on Demand ในส่วนนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะชื่อก็ตรงตัวเลยค่ะ เป็นภาพยนต์ของค่าย Disney นั่นเอง
- Coming Soon หากใครที่อยากชมภาพยนต์ไหนแต่ยังไม่มีเข้ามา ก็ไปอัพเดตดูรายชื่อภาพยนต์ที่จะเข้ามาใหม่เร็ว ๆ นี้ได้ เผื่อจะเป็นเรื่องที่คุณตามหา
- All Movies ภาพยนตร์ทั้งหมด หากใครเลือกไม่ถูกว่าจะเลือกชมภาพยนตร์ไหน ในส่วนของ All Movies ก็จัดหมวดหมูประเภทภาพยนตร์ให้ได้เลือกชมอีกด้วยนะคะ โดยแบ่งหมวดหมู่ทั้งหมดดังนี้ Drama, Action & Adventure, Sci-Fi & Fantasy, Comedy, Thriller & Mystery, Horror, Family, History & Biography, Documentary, Romance, Animation, Sport, War และ Music & Musical
มาดูในหมวด Series กันบ้าง ซึ่งในส่วนนี้ก็คล้าย ๆ กับในส่วนของ Movies นั่นเอง
- New Release ซีรีย์มาใหม่ ซึ่งในหมวดของ Series นี้จะสามารถใช้งานได้เฉพาะแพ็กเกจบุฟเฟ่ต์ซีรีย์ หรือคอมโบรวมทุกแพ็กเกจเท่านั้น
- ABC Studios on Demand จะเป็นซีรี่ย์ของค่าย ABC Studios ค่ะ
- Coming Next Month เป็นซีรี่ย์ที่จะนำเข้ามาในเดือนหน้าค่ะ
- All Series จะรวบรวมซีรี่ย์ทั้งหมดไว้ด้วยกัน
หมวด Try Me!! จะเป็นภาพยนตร์ที่ทางระบบ PrimeTime แนะนำให้ลองชมค่ะ (หนังจะอัพเดทมาเรื่อย ๆ)
หมวด My PrimeTime จะเป็นข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดต่าง ๆ ของแพ็กเกจที่ซื้อ จำนวน Tickets ที่เหลือ และวันหมดอายุแพ็กเกจ
และยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจในหมวดนี้อีก 2 ตัว คือ
- Continue Watching คือเมื่อชมภาพยนตร์ค้างไว้แล้วไปทำกิจกรรมอย่างอื่นโดยปิดแอปไปแล้ว เมื่อจะกลับมาชมอีกรอบก็กดเข้ามาที่เมนูส่วนนี้ ระบบจะทำการเล่นภาพยนตร์ต่อจากเดิมให้ไม่ต้องเสียเวลาชมภาพยนตร์ใหม่ หรือต้องเลื่อนแถบหาเอาเอง และแน่นอนว่าไม่ว่าจะใช้งานผ่านอุปกรณ์ใดก็ตาม ก็สามารถรับชมต่อได้เช่นกัน
- Watch Later คือการเลือกภาพยนตร์ที่ต้องการจะดูในภายหลัง คล้าย ๆ การ List ภาพยนตร์ที่สนใจเอาไว้ก่อน จะดูหรือไม่ดูก็ได้ โดยสามารถเลือกได้โดยการกดเครื่องหมาย + ที่อยู่ข้างปุ่มเริ่มเล่นภาพยนตร์
หมวด Purchase ซึ่งก็คือการซื้อแพ็กเกจต่าง ๆ สำหรับผู้เข้าใช้งานครั้งแรกจำเป็นต้องเข้ามาซื้อแพ็กเกจเพื่อเริ่มใช้งาน โดยจะมีแพ็กเกจต่าง ๆ ให้เลือกซื้อตามแต่ Lifestyle ในการชมภาพยนตร์ ดังนี้
- Movie Buffet ดูภาพยนตร์ได้ทุกเรื่อง ยกเว้นซีรีย์และหมวดหนังพรีเมียร์ ราคา 199 บาท/30 วัน และแบบรายปีราคา 2,388 บาท/360 วัน
- TV Series Buffet ดูซีรี่ย์ได้ทุกเรื่อง ยกเว้นหมวดหนัง ราคา 299 บาท/30 วัน และแบบรายปีราคา 3,588 บาท/360 วัน
- New Rental Movies + Movie Buffet ดูภาพยนตร์ได้ทุกเรื่อง และตั๋วดูหนังพรีเมียร์ 2 ใบ ราคา 299 บาท/30 วัน และแบบรายปีราคา 3,588 บาท/360 วัน ได้ตั๋วหนังพรีเมียร์ 24 ใบ
- Combo Buffet รวมทุกแพ็กเกจไม่ว่าจะภาพยนตร์หรือซีรี่ย์ พร้อมตั๋วดูพรีเมียร์อีก 2 ใบ ราคา 549 บาท/30 วัน และแบบรายปีราคา 4,788 บาท/360 วัน ได้ตั๋วพรีเมียร์ 24 ใบ
- Premier สำหรับใช้ดูหนังพรีเมียร์ ราคาเรื่องละ 79 บาท (พิเศษตอนนี้ มีโปรโมชั่น 2 ใบ ราคาเพียง 100 บาท)
หรือหากใครต้องการชมภาพพรีเมียร์เท่านั้น ก็สามารถซื้อ Ticket ได้ โดยมีขาย 2 ราคา คือ 1 Ticket ราคา 79 บาท และ 2 Ticket ราคา 100 บาท / 30 วัน และสามารถชมภาพยนตร์พรีเมียร์ได้ภายใน 48 ชม. หลังการเช่า 1 Ticket พูดง่าย ๆ คือ ต้องดูให้จบภายใน 48 ชม. หากต้องการชมซ้ำหรือเกินเวลา จะต้องเสีย Ticket เพิ่ม
การชำระเงินออนไลน์ สามารถกดที่ปุ่ม Purchase ในตัว App ได้เลย (ชำระได้หลายช่องทาง บัตรเครดิต, เค้าเตอร์เซอร์วิส, ธนาคาร, อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง) หรือสามารถซื้อแบบออฟไลฟน์ได้ โดยผ่านตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ DNA , iStudio by Com7, Banana IT เป็นต้น
ส่วนการลงทะเบียนใช้งานสามารถลงทะเบียนได้แค่ 3 เครื่อง แต่จะดูได้ทีละเครื่องเท่านั้น (ดูพร้อมกันไม่ได้) แต่ถ้าหากจะลงทะเบียนเครื่องที่ 4, 5, 6 จะต้องเลือกเอาเครื่องใด เครื่องหนึ่งออกให้เหลือแค่ 3 เสียก่อน
หมวด Support จะเป็นเรื่องของการแจ้งปัญหา หรือขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับระบบ
สุดท้าย หมวด Setting จะเป็นการตั้งค่าภาษาไทยหรืออังกฤษที่ใช้ในระบบ PrimeTime (ไม่เกี่ยวกับ Audio หรือ Subtitle นะค่ะ)
PrimeTime ใช้ดีไหม?
จากประสบการณ์ตรงที่เคยดูหนังลิขสิทธิ์ผ่าน App มามากมาย PrimeTime โดยรวมถือว่าประทับใจมาก สามารถเลือกตั้งค่าภาษาได้ Audio หรือ Subtitle นอกจากนี้ยังปรับเสียงให้เป็นระบบ DTS Virtual Surround Sound 5.1 ให้รอบทิศทางและ DTS HeadphoneX เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย สามารถใช้กับหูฟังอะไรก็ได้ค่ะ (เสียงดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด)
คุณภาพไฟล์ที่ได้ถือว่าระดับเทียบเท่า Full HD (คุณภาพระดับ Ultra HD กำลังจะมา) แต่ถ้าหากเน็ตคุณช้าระบบจะปรับความละเอียดลดลงโดยอัตโนมัติ (3 Mbps คือความเร็วที่แนะนำ) หากคุณดูหนังไม่จบก็สามารถกลับมาดูต่อได้โดยไม่ต้องจำตำแหน่งเดิม (Seamless Watching) โดยรวมประทับใจเรื่องการบีบอัดไฟล์วีดีโอที่ทำได้เล็ก ในขณะที่ยังไม่สูญเสียความคมชัด
หนังใหม่ไม่ต้องรอ … หากคุณเลือกแพ็กเกจ Premier Movies หนังใหม่จะเข้าไวมาก (เข้าเร็วที่สุดในตลาดแล้ว) เพียงแค่ 3 เดือน บางทีแล้วเรายังจำ Trailer ของหนังได้อยู่เลย
ไหน ๆ ก็จ่ายเงินแล้วยังมีอีกคุณสมบัตินึงที่น่าสนใจ เพราะว่าหากอยู่ในบ้านคุณสามารถต่อออกจอใหญ่ผ่าน HDMI, Apple TV, Chromecast หรือกระทั่งเข้า www.goprimetime.tv ดูผ่าน Web Browser ที่รองรับ DRM ได้เลย (PC หรือ Mac ก็สามารถดูได้บน IE11 และ Google Chrome) ได้ข่าวมาว่าเร็วๆนี้ Smart TV ของ LG จะมาพร้อมกับแอพ Primetime ติดตั้งในเครื่องเลย และยังมีบางรุ่นที่สามารถรองรับ 4K ในอนาคตอีกด้วย จ่ายเงินรายเดือนถูกกว่าค่าเน็ตหรือ 3G (399 บาท) ซื้อความสุขได้ทั้งครอบครัวค่ะ !!!
- ดาวน์โหลด : PrimeTime [iOS] [Free]
- ดาวน์โหลด : PrimeTime [Android] [Free]
สรุป
สำหรับ PrimeTime ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันดูหนังที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากมีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย และมีคุณภาพของภาพและเสียงเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Continue Watching ที่สามารถชมภาพยนตร์ที่ดูค้างไว้ต่อได้ ไม่ว่าจะผ่านอุปกรณ์ใดก็ตาม และที่สำคัญก็คือมีภาพยนตร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้าฉายได้ประมาณ 3 เดือน มาให้ได้รับชมเร็วมาก ๆ จนไม่ต้องกลัวตกเทรนด์เลยค่ะ
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial