ทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย on-the-go แบบใหม่ แบตเตอรี่สำรองคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัด อีกทั้งเทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย (Qi) ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันบ้างแล้ว (Android หลายรุ่นรองรับมาจากโรงงาน) ส่วน iPhone ก็ไม่ต้องน้อยใจไปครับสามารถใช้ได้เหมือนกัน ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นเราไปดูกัน
Magnitech N11 ราคาเฉพาะ Wireless Charging Power Bank อยู่ที่ 2,900 บาท แต่ถ้าหากต้องการซื้อเป็นชุดพร้อมเคสราคาก็จะแบ่งเป็นตามรุ่นดังนี้
- Magnitech N11 + Wireless Charging Receiver for iPhone 5/5S (B/W) 3,700 บาท
- Magnitech N11 + Wireless Charging Receiver for iPhone 4/4S (B/W) 3,650 บาท
- Magnitech N11+ Wireless Charging Receiver for Samsung Galaxy S4 (Chipset) 3,550 บาท
- Magnitech N11 + Wireless Charging Receiver for Samsung Galaxy S3 (Chipset) 3,000 บาท
สนใจสินค้าสามารถดูข้อมูลและสั่งซื้อได้ที่ www.mymagnitech.com และ www.facebook.com/MyMagnitech
โดยปกติแล้ว Magnitech N11 สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่มีเทคโนโลยีชาร์จไร้สายได้เลย (หรือถ้าไม่มีก็เพียงแค่ใช้เคสเสริม) ในตลาดปกติเราจะหาที่ชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ได้ไม่ยาก แต่ถ้านับเฉพาะอันที่มีแบรนด์หรือมีบริษัทนำเข้าที่น่าเชื่อถือได้ ก็เหลือเพียงแค่ไม่กี่แบรนด์เท่านั้น
แบตเตอรี่ภายใน Magnitech N11 (Power Bank) มีขนาด 4,800 mAh มาพร้อมกับสาย Micro USB และ Adapter สำหรับชาร์จไฟรวมถึงคู่มือการใช้งานและบัตรรับประกัน 2 ปี (ระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ 1 ปี)
Adapter มีแยกมาให้ต่างหากซึ่งก็ดีนะไม่ต้องรบกวน Adapter ของสมาร์ทโฟน โดยตัวนี้สามารถจ่ายไฟได้ถึง 1.5 A เลยทีเดียว
วัสดุเป็นพลาสติกสีขาวเนียนมันเงา ตรงกลางเป็นแผ่นยางวงกลมที่มีระยะสูงขึ้นเล็กน้อย และน่าจะเป็นจุดสำหรับใช้ชาร์จไฟ
สเปคของ Magnitech N11
- ใช้เทคโนโลยี Qi ผ่านการรับรองมาตรฐานการชาร์จแบบไร้สายที่กำหนดโดย WPC
- แบตเตอรี่เป็น Lithium Polymer คุณภาพสูง 4,800 mAh
- ชิปเซ็ตที่ชาร์จไร้สายนี้นำเข้าจาก Texas instrument ในสหรัฐอเมริกา
- ประสิทธิภาพการโอนถ่ายพลังงานไฟฟ้าจาก Magnitech ดีเทียบเท่ากับอุปกรณ์แบบมีสาย
- กระแสไฟเข้า DC 5V 1.5A, พลังงานไฟฟ้าที่ส่งออก 5W
- กระแสไฟขณะชาร์จ 5V 500-1000 mA
- ระยะทางไร้สาย 5 มิลลิเมตร
- ขนาด 137 x 75 x 14 มม.
- น้ำหนักสุทธิ 154 กรัม
- อะแดปเตอร์ :ได้รับการรับรอง CE/UL/ FCC
อะไหล่และชิ้นส่วนชิปเซ็ตที่ชาร์จไร้สายจากอเมริกาและประกอบในประเทศจีน (ไม่ใช่เรื่องแปลกครับเพราะ iPhone ก็ประกอบในจีน)
มีปุ่มสำหรับเปิดเพื่อปล่อยไฟ และเมื่อไม่ใช่งานไปซักระยะอุปกรณ์จะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติ ช่อง USB สำหรับต่อสายและจ่ายไฟออก ส่วน Micro USB สำหรับต่อสายและจ่ายไฟเข้า Magnitech N11
มีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะในการชาร์จรวมถึงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ใน Magnitech N11
สำหรับขนาดเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 5 ถือว่าไม่ใหญ่มากกำลังดี เหมาะสำหรับการพกพาและใหญ่กว่า Power Bank ทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนความจุแบตเตอรี่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ครับ ไม่มากและไม่น้อย
คราวนี้เราลองมาเปรียบเทียบกันในแง่ความหนาครับ
iPhone ชาร์จไร้สายได้มั้ย?
เนื่องจาก iPhone ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เคสจาก Magnitech ในการเป็นตัวกลาง สำหรับชาร์จและส่งพลังงานอีกที (ตัวนี้รองรับทั้ง iPhone 5/5s ถ้าจะใช้กับ iPhone 4/4s ต้องซื้ออีกตัวหนึ่ง)
สำหรับตัวเคสเป็นพลาสติกที่มีความหนาเล็กน้อย เวลาใส่ก็สไลด์เข้าไปกับ iPhone ได้เลยครับ แต่ถ้าคุณใช้ Samsung Galaxy S3 , S4, S5 และ Note 3 ถึงแม้ว่ารุ่นเหล่านี้จะไม่รองรับการชาร์จไร้สาย แต่ Samsung ได้ออกแบบจุดเชื่อมต่อไว้ทางด้านหลังข้างแบตเตอร์รี่ การใช้งานเพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณชาร์จที่เป็นชิพเซ็ตแล้วใช้ฝาหลังเดิมปิดทับลงไป ก็สามารถใช้งานได้กับแท่นชาร์จไร้สายแล้ว (ส่วน iPhone ต้องผ่านเคสเท่านั้น)
สำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จไร้สายเช่น Nokia Lumia 920, 1520, i-mobile IQ X OCTO, LG Optimus G Pro, Google Nexus 4, Nexus 5, Nexus 7 สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องผ่านอุปกรณ์เสริม
ทดสอบใช้งานจริง
สำหรับการใช้งานจริงนั้นไม่ยุ่งยากเลยเพียงแค่กดปุ่มเปิดด้านบนของ Magnitech N11 จากนั้นก็เอาสมาร์ทโฟนมาวาง เพียงเท่านี้ก็สามารถชาร์จไฟได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับใช้ในโต๊ะทำงานหรือห้องนั่งเล่น ที่ต้องการความสะดวกและสวยงามไม่ต้องพกสายระโยงระยาง
การชาร์จจะไม่เพิ่มความร้อนให้กับเครื่อง ที่สำคัญคือคุณจะได้รับความสะดวกสบายทุกครั้งที่วางโทรศัพท์ลงเพื่อชาร์จหรือยกหูโทรศัพท์คุยโดยไม่ต้องวุ่นวายกับสายชาร์จอีกด้วย
ระยะเวลาในการชาร์จ 1.5-2 ชม. จาก 0-100% สามารถชาร์จได้ประมาณ 2 รอบ
การชาร์จไม่จำเป็นวางกะระยะวาง สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวขวาง (ไม่ต้องเล็งหัวหรือท้าย) ข้อดีคือเราไม่ต้องพกสายอะไรให้วุ่นวายและไม่เสี่ยงต่อการทำ “สายหัก” (สาย Lightning ซื้อใหม่ราคาก็แพงอยู่) แถมยังสามารถเก็บไว้เพื่อใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายในอนาคตได้ด้วย
ทั้งนี้ทาง Magnitech ก็ยังได้เผื่อช่อง USB ไว้สำหรับคนที่ต้องการชาร์จผ่านสาย ในกรณีที่เครื่องนั้นไม่รองรับการชาร์จไร้สาย อย่างแฟนผมใช้ Xiaomi Mi3 เราก็ยังแบ่งปันพลังงานกันได้อยู่
หรือจะใช้วิธีชาร์จพร้อมกันเป็นคู่ก็ไม่มีปัญหาครับ (เท่าที่ทดสอบดูประมาณครึ่งชั่วโมง) เครื่องไม่ร้อนและใช้งานได้เป็นอย่างดี
ข้อดี
- ใช้งานสะดวกและง่าย
- เวลาพกพาหรือใช้งานไม่ต้องพกสายเพิ่ม
- สามารถใช้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้
- มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
- มีการรับประกันจากบริษัทถึง 2 ปี (ระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ 1 ปี)
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับ Power Bank ธรรมดา
สรุป
ล้ำ !!! และเหมาะสำหรับคนที่ต้องติดต่องานอยู่ตลอด ไม่ต้องคอยถอดหรือเสียบสายให้เสียเวลา แบตเตอรี่ก็เป็น Lithium Polymer คุณภาพสูงรวมทั้งระบบชาร์จและชิปเซ็ตก็มีมาตรฐานสูง สำหรับคนที่ชอบอะไรไฮเทคหรือดูล้ำกว่าคนอื่นไม่ควรพลาดครับ
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial