ในปัจจุบันถึงแม้ว่า Flash Drive จะมีราคาถูกลงมากก็ตาม (64GB ราคาพันต้น ๆ เอง) แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานของเราอยู่ดี เพราะข้อมูล HD ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เอย หรือรูปภาพเอย ต่างก็มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกวัน ๆ นั่นแหล่ะครับ สิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้ก็คือเรื่องของ HDD Extranal นั่นเอง แต่ปัญหาก็คือมันหนักยังกับก้อนอิฐน่ะสิ ทำยังไงดี? ใช้คราวด์แทนเลยดีไหม? (อันหลังผมประชดน่ะ)
TOSHIBA พัฒนา HDD Extranal ออกมาหลายรุ่นในตลาดมาก ถึงแม้จะไม่ค่อยมากเท่าเจ้าตลาดอย่าง Seagate หรือ WD แต่ก็พอเรียกได้ว่ายังมีขายอยู่บ้าง จุดเด่นหลัก ๆ จะไม่ค่อยเน้นทำราคาถูกพิเศษซักเท่าไหร่ และดูเหมือนออกจะเน้นดีไซน์และขายชื่อแบรนด์ด้วยซ้ำ แต่ตัวนี้ก็พอดูไปวัดไปวากับเขาได้บ้าง เพราะอย่างน้อย ๆ มันก็เป็น “HDD Extranal ขนาด 2.5″ ที่บางที่สุดในโลก” โดยค่าตัวของมันอยู่ที่ 2,490 บาท
สเปคของ TOSHIBA CANVIO SLIM
- ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม หรูหรา ทนทานและมีสไตล์
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และบางเพียง 9 มม. เป็นหนึ่งในฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 นิ้วที่บางที่สุดในโลก
- ปกป้องข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยด้วยการตั้งรหัสป้องกันไดรฟ์
- สำรองและเรียกคืนข้อมูลทั้งระบบได้โดยอัตโนมัติผ่านซอฟต์แวร์พิเศษ
- รองรับ USB 3.0 และใช้งานกับ USB 2.0 ได้
- ใช้งานได้ทั้งกับ PC และ Mac (มีไดรเวอร์สำหรับ NTFS แถมให้)
- รับประกัน 3 ปี
- ขนาดความจุ 500GB
- ขนาด 107 (ยาว) x 75 (กว้าง) x 9 (สูง) มม.
ความน่าภูมิใจอีกอย่างนั่นก็คือ TOSHIBA CANVIO SLIM ตัวนี้เป็น Made in Thailand ด้วยครับ ซึ่งผมไม่รู้นะว่าคนอื่นจะมีอารมณ์ร่วมกับผมบ้างมั้ย แต่ผมมั่นใจและประทับใจทุกครั้งเลยที่ใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเรา นอกเหนือจากคุณภาพแล้วผมยังรู้สึกว่าเราได้มีส่วนร่วมในการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในประเทศด้วย (ว่าไปนั่นแต่ก็เรื่องจริง)
อุปกรณ์ที่แถมมาภายในกล่องนอกจากเป็นคู่มือที่เราทุกคนไม่ค่อยอ่านกัน ยังประกอบด้วยสาย USB 3.0 (ต้องแถมอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ) และนอกจากนั้นภายใน TOSHIBA CANVIO SLIM ยังได้มี Software สำหรับการล็อครหัส, สำรองระบบ, และไดวเวอร์ NTFS สำหรับ Mac แถมมาอีกด้วย
ไฟแสดงสถานะเพียงหนึ่งเดียวของเครื่อง โดยจะแสดงไฟได้สองสี ถ้าหากเป็นสีขาวแบบนี้แสดงว่ากำลังเชื่อมต่อในโหมด USB 2.0 อยู่เนื่องจากผมต่อกับ HUB บน PC ที่ไม่รองรับ USB 3.0
อัตราการโอนถ่ายข้อมูลในโหมด USB 2.0 โดยประมาณอยู่ที่ 23.5 MB/s ซึ่งก็ถือว่าเร็วกว่า Flash Drive ทั่ว ๆ ไป
ถ้าหากการเชื่อมต่อเป็นโหมด USB 3.0 มันจะแสดงไฟเป็นสีฟ้าโดยอัตโนมัติครับ ซึ่งอันนี้ผมทดสอบกับ Notebook ของ TOSHIBA รุ่นใหม่ ๆ ที่รองรับ USB 3.0
อัตราการโอนถ่ายข้อมูลในโหมด USB 3.0 โดยประมาณอยู่ที่ 104 MB/s ซึ่งก็ถือว่าเร็วกว่าโหมด USB 2.0 หลายเท่านัก
การออกแบบ TOSHIBA CANVIO SLIM ถือว่าค่อนข้างที่จะเหลี่ยมจัด สามารถวางตั้งได้ทุกมุมเลย ความรู้สึกของผมก็คือมันเรียบร้อยดี
ลองเปรียบเทียบกับของใกล้ตัวอย่างกุญแจแล้วก็ Oppo Find Piano ครับ
คราวนี้เราลองมาเทียบกับ HDD Extranal ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันครับ เป็นของ Buffalo ความจุ 500GB เท่ากัน แต่ตัวนี้ผมซื้อมาได้ประมาณ 3 ปี ได้แล้วครับ
ลองวัดความหนาดู “โอ้วววว … บางลงเยอะเลย” วัดด้วยสายตาเหมือนเอา TOSHIBA CANVIO SLIM วางซ้อนกันประมาณ 3 ตัวได้
บางกว่าแล้วไง? หลายคนอาจจะสงสัยตรงนี้ คำตอบก็คือมันพกพาง่ายกว่าครับ ใส่กระเป๋าก็มีพื้นที่เหลือเยอะกว่า และยังไม่นับรวมบางกรณีอย่างเช่นผมเนี่ยเวลาจะพรีเซ้นต์งานที ต้องยก Notebook ย้ายข้ามห้องถ้ามือไม่ว่างก็ยัด TOSHIBA CANVIO SLIM เข้ากระเป๋าเสื้อได้เลย
วัดขนาดดูแล้วก็ยังเล็กกว่ามาก เท่านี้ก็ถือว่าค่อนข้างพอใจครับ ส่วนเรื่องน้ำหนักก็เบาลงเยอะเลยเหมือนกัน เสียอย่างเดียวคือเรื่องความจุที่มีขายแค่รุ่น 500GB เท่านั้น (แถมยังราคาแพงกว่าชาวบ้านหลายร้อยอยู่เหมือนกัน)
ภาพรวมด้านการออกแบบของ TOSHIBA CANVIO SLIM ค่อนข้างน่าพอใจครับในความเล็กและเบา ส่วนอลูมิเนียมเนี่ยก็ทำให้รู้สึกมีราคาขึ้นมากครับ เมื่อเทียบกับแบรนด์ทั่ว ๆ ไปที่เป็นพลาสติก ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันเป็นภาคบังคับด้วยแหล่ะ ถ้าหากบอดี้จะหล่อให้ได้บางเท่านี้แล้วใช้พลาสติกมันจะไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทดสอบปัญหาเรื่องไฟดูดไม่เจอครับ (หรือถ้าใครเจอก็บอกผมด้วยนะ)
ข้อดี
- ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
- สามารถใช้งานบน Mac ได้ด้วยระบบ NTFS (มีซอฟต์แวร์แถมให้)
- มีซอฟต์แวร์สำรองข้อมูล, รหัสผ่าน แบบภาษาไทยเข้าใจง่าย
- มีไฟแสดงสถานะการโอนถ่ายข้อมูล 2 สี (USB 3.0 และ USB 2.0)
- วัสดุทำจากอลูมิเนียม
ข้อสังเกต
- มีขายแต่ความจุ 500GB
- ราคาค่อนข้างสูงกว่า Extranal HDD ทั่วไป
- ไม่มีสีอื่นให้เลือก
สรุป
สำหรับราคาบอกตามตรงว่าสำหรับผมไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะมันก็ไม่ได้ห่างกันมากเวอร์ (เพราะเชื่อว่าข้อมูลในนั้นแพงกว่าเยอะ) ถ้าแลกกับดีไซน์หรือขนาดที่คล่องตัวกว่าผมยินดีจ่ายเพิ่มอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ ก็คือความจุที่เยอะมากกว่าเพราะไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้วอยากจะใช้งานไปเลยยาว ๆ ซักขนาด 2TB หรืออย่างน้อย ๆ ก็ 1TB ก็ยังดี (แต่ก็พยายามเข้าใจว่ามันเป็นข้อจำกัดในการผลิต) นอกนั้นก็ไม่มีข้อติแล้วครับ ยังไงซะตอนนี้ก็พยายามใช้ 500GB ให้มันพอก็เท่านั้นเอง