LG Smart Inverter ไม่เพียงแค่เครื่องปรับอากาศเท่านั้น ระบบอินเวอร์เตอร์ ยังถูกนำไปใช้ในเครื่องซักผ้าอีกด้วย เพราะสองอย่างนี้เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้เป็นประจำ การที่เราใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมอเตอร์ แต่ยังช่วยให้ประหยัดไฟทำให้คุ้มค่ากว่าในระยะยาวอีกด้วย
เครื่องซักผ้า LG Smart Inverter
สำหรับรุ่นที่เราจะมีรีวิวในวันนี้เป็น เครื่องซักผ้าฝาบน เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมในเมืองไทย เครื่องซักผ้าระบบ Smart Inverter ความจุซัก 15 กก. หรือชื่อรุ่นสเปคเต็มก็คือ T2515VSAL ราคาอยู่ที่ 18,900 บาท แต่หากคุณคิดว่าใหญ่เกินไปก็มีรุ่นที่ขนาดความจุซักเล็กลงมาตั้งแต่ 8-15 กก. (ราคาตั้งแต่ 10,790 – 18,900 บาท) แต่ส่วนตัวคิดว่า 15 กก. กำลังดีเพราะเหลือดีกว่าขาดครับ
ด้วยราคาทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยาก เพราะของเก่าเป็นเครื่องซักผ้า 2 ถัง (รุ่นโบราณแล้วจำไม่ค่อยได้) จากอายุการใช้งานนับสิบปีก็คิดว่าเกินคุ้มมามากแล้ว เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่เลยตัดใจเลือกเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ไปเลย เพราะต้องการประหยัดไฟจากการใช้งานระยะยาว ส่วนราคาก็ยังถูกกว่าสมาร์ทโฟนที่มีอายุการใช้งานสั้นกว่า เลยทำให้ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากนัก
ทำไมต้องใช้ระบบ Inverter คืออะไร ?
อธิบายอย่างสั้นก็คือระบบทั่วไปจะมีแค่ “เปิด/ปิด” การจ่ายพลังงานเข้าเครื่อง แต่สำหรับระบบอินเวอร์เตอร์จะทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละขั้นตอน ทำให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้นนั่นเอง และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติน่าสนใจอย่าง
- Auto Restart ที่เมื่อไฟตกหรือไฟดับ หลังจากไฟมาเครื่องซักผ้าก็จะทำงานต่อเองได้เลย
- Standby Power Save อันนี้สำหรับคนที่ไม่อยากถอดหรือเสียบปลั๊ก เข้าออกบ่อย ๆ ตัวเครื่องจะใช้ไฟเลี้ยงที่พลังานต่ำมาก จนคุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟอะไรเลย
และหากเทียบเป็นตัวเลขก็คือประหยัดขึ้น 36% เมื่อเทียบกับระบบทั่วไป (จ่ายค่าไฟถูกลง 36% ใครจะไม่อยากได้) ใช้ไฟเพียงแค่ 67 วัตต์ชั่วโมงต่อหนึ่งการซัก เท่ากับว่ายิ่งใช้ไปนานหลายสิบปีก็กำไรกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยการทดสอบรับรองโดย VDE ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกันนี้เอง
LoDecibel เครื่องซักผ้าเสียงเงียบ
และสำหรับคนที่อาศัยอยู่ตามคอนโดหรือทาวน์เฮ้าส์ ที่ไม่ชอบเครื่องซักผ้าเสียงดัง เพราะอาจไปรบกวนสมาชิกในบ้านที่กำลังพักผ่อนหรือใช้สมาธิอยู่ เครื่องซักผ้า LG Smart Inverter รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบ LoDecibel ที่ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ BMC System ลดเสียงรบกวนลงเหลือเพียง 45dB เบาขนาดไหนลองเทียบดูครับ
- เสียงนาฬิกาปลุก 80dB
- เสียงคนคุยกัน 65dB
- เสียงในสำนักงาน 55dB
- เสียงจากเครื่องซักผ้าที่มีระบบ LoDecibel 45dB
- เสียงในห้องสมุด 40dB
จากการทดลองใช้ตอนรีวิว LoDecibel ก็เงียบจริงตามที่ได้โฆษณาไว้ (ดังกว่าห้องสมุดนิดเดียว) เวลาซักผ้าแล้วก็สามารถหลับในห้องข้าง ๆ ได้อย่างไม่รู้สึกอะไร แต่ถามว่าที่มันเงียบเพราะมอเตอร์มันหมุนช้า หรือซักเบาลงมั้ย ? เปล่าเลยครับ การทำงานทุกอย่างยังคงประสิทธิภาพเต็มที่ 100% แต่ที่เงียบเพราะส่วนหนึ่งมาจาก BMC System
ระบบมอเตอร์ BMC
BMC ย่อมาจาก Bulk Molding Compound ซึ่งเป็นไฟเบอร์กลาสเสริมด้วยเทอร์โมโพลีเอสเตอร์ นิยมใช้ในสินค้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยมีการออกแบบให้คลุมทั้งมอเตอร์ส่งผลทางตรงก็คือปกป้องฝุ่น, แมลง และความชื้นได้เป็นอย่างดี (เครื่องซักผ้าส่วนใหญ่พังก่อนเวลาเพราะสิ่งเหล่านี้) และมีผลพลอยได้คือ “เงียบ”
รับประกันมอเตอร์นาน 10 ปี
มั่นใจได้เลยว่าเครื่องซักผ้าของคุณ จะมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว เพราะทาง LG กล้ารับประกันมอเตอร์นาน 10 ปี และลดโอกาสที่เครื่องจะมีปัญหาจากหนูหรือแมลง ที่มักแอบเข้าไปกัดกินสายไฟด้วยการออกแบบที่ครอบคลุมบริเวณส่วนด้านล่างของเครื่อง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องซักผ้าจะอยู่ไปกับคุณอีกนานแสนนาน
ทีนี้มาดูส่วนด้านบนกันบ้าง ตรงนี้เป็นกระจกนิรภัยขนาดใหญ่ Diamond Glass ลดรอยขีดข่วน และเมื่อแตกแล้วจะเป็นเม็ดข้าวโพดไม่บาดมือ เวลาปิดฝาตรงส่วนนี้เป็นบานพับอัจฉริยะ สามารถทิ้งฝาลงมาได้เลย ตัวเครื่องจะชะลอและค่อยปิดอย่างนิ่มนวล
ในส่วนของการใช้งานเห็นครั้งแรกผมเองก็ “งง” แต่พอทำความเข้าใจและศึกษาจากคู่มือ (เป็นการ์ตูนอ่านง่ายมาก) ก็พอจะเข้าใจและแบ่งประเภทการควบคุมได้จากปุ่มหลัก นอกจากนี้ยังมี 4 โปรแกรมใหม่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ได้แก่
- Tub Clean ใช้เมื่อต้องการทำความสะอาดถังซัก
- School Care ใช้เมื่อต้องการทำความสะอาดชุดนักเรียน
- Quick Wash ใช้เมื่อต้องการซักผ้าแบบเร่งด่วน
- Extra Clean ใช้เมื่อต้องการเพิ่มการล้าง
เนื่องจากผ้าแต่ละชนิดต่างต้องการวิธีดูแลที่แตกต่างกัน โดยผ้าบางชนิดจำเป็นต้องซักแรง ๆ เพื่อขจัดคราบสกปรก ในขณะที่ผ้าบางชนิดต้องการซักอย่างอ่อนโยน และก็ไม่ต้องกังวัลข้อเสียของ “ฝาบน” ที่ทำผ้าพันกัน เพราะรุ่นนี้มีระบบป้องกันอยู่ครับ
ใครว่าเครื่องซักผ้าฝาบนจะต้องเชยเสมอไป ดูจากดีไซน์รุ่นใหม่ ๆ แล้วก็มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น สามารถเอามาโชว์ไว้เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านได้โดยไม่ต้องอายใคร ไม่ต้องไปหาที่หลบหรือแอบเหมือนเดิมอีกต่อไป
ตรงนี้ก็จะเป็นช่องสำหรับผงซักฟอกกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม ส่วนน้ำยาฟอกผ้าขาวก็จะเป็นอีกรูแยกต่างหาก
ถังซักของรุ่นนี้เป็นแบบ TurboDrum ต่างจากปกติคือรุ่นทั่วไปจะหมุนแค่ “จานซัก” และตัวถังซักหมุนไม่ได้ แต่รุ่นนี้คือหมุนได้ทั้งสองฝั่ง โดยเวลาหมุนจะสวนทางกันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซัก ที่เกิดจากการหมุนสวนทางของถังซักและจานซัก
Smart Motion ถังซักหมุนได้ 3 รูปแบบ
หมดปัญหาเรื่องผ้าพันกันเพราะ Smart Motion สามารถหมุนได้ 3 รูปแบบ (เน้นทำความสะอาด, ลดผ้าพันกัน, ซักผ้าบอบบาง) โดยทั้งหมดนี้ควบคุมการทำงานผ่าน Smart Inverter เท่านั้นยังไม่พอยังมาพร้อมกับจานหมุนแบบ Punch+3 สร้างคลื่นน้ำแนวตั้ง ที่จะช่วยให้ผ้ากระจายตัวออกจากกัน ผ้าไม่พันกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซัก
วิธีทำความสะอาดก็ง่ายแสนง่าย นอกจากโหมด Tub Clean ในการทำความสะอาดถังซัก สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ดึงที่กรองผงออก เพื่อนำตาข่ายไปล้างน้ำเอาใยผ้าและฝุ่นออกสัปดาห์ละครั้ง แล้วก็ทำความสะอาดช่องเติมน้ำยาปรับผ้านุ่มกับผงซักฟอกเดือนละครั้งก็พอ
ระบบจ่ายน้ำเข้าเป็นแบบ Side Waterfall โดยมีจุดปล่อยน้ำแบบน้ำตก ในหลายทิศทางช่วยให้ผงซักฟอกกระจายเข้าสู่เนื้อผ้าได้เร็วและทั่วถึงกว่าเดิม และรวมถึงการขจัดผงซักฟอกตกค้างในเนื้อผ้าได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Smart Diagnosis ระบบตรวจสอบปัญหาด้วยตัวเอง
อันสุดท้ายไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ Smart Diagnosis โปรแกรมตรวจสอบความผิดปกติของตัวเครื่อง ผ่านแอปพลิเคชัน Smart ThinQ สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS กับสมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่น หลักการทำงานก็คือเครื่องซักผ้าจะส่งสัญญาณเตือน เราเพียงแค่นำสมาร์ทโฟนที่เปิดแอปพลิเคชันเข้าไปใกล้ ๆ จากนั้นจะขึ้นคำแนะนำมา
ความเจ๋งก็คือนอกจากจะใช้กับสมาร์ทโฟนได้เกือบทุกรุ่น คุณยังไม่ต้องปวดหัวกับการอ่านโค้ด Error ว่ามันแปลว่าอะไร (และให้ทำอะไรต่อ) สามารถวิเคราะห์ปัญหาและแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเวลานัดช่างมาหน้างาน ในกรณีที่เจอปัญหาอะไรบางอย่างเล็กน้อย
ข้อดี
- ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 36%
- ถนอมผ้าด้วยการซักแบบถังซักหมุนสวนทาง
- ดีไซน์ใหม่ที่ทนทานมากขึ้นด้วยตัวครอบมอเตอร์
- รับประกันมอเตอร์นาน 10 ปี
ข้อเสีย
- มีให้เลือกความจุถังซักสูงสุด 15 กก.*
- ไม่มีระบบหม้อต้มน้ำร้อนในการซัก*
*ถ้าอยากได้ความจุเพิ่มหรือระบบซักน้ำร้อน ก็ต้องดูเครื่องซักผ้าฝาบนแอลจีรุ่นอื่นแทน ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าตัวที่รีวิวครับ
สรุป
เครื่องซักผ้า LG Smart Inverter มีคุณสมบัติโดนเด่นในเรื่องการประหยัดพลังงาน และความเงียบในการทำงานของมอเตอร์ เป็นหนึ่งรุ่นมาตรฐานที่อยากแนะนำให้ใช้กัน โดนส่วนตัวแล้วเคยคิดว่าซื้อเครื่องซักผ้าครั้งหน้าจะต้องฝาหน้าเท่านั้น แต่พอได้ลองสัมผัสแล้วเปลี่ยนความคิดไปมาก เพราะเครื่องซักผ้าฝาบนเดี๋ยวนี้เขาพัฒนาไปมากจริง ๆ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.lg.com/th/washing-machine/lg-T2515VSAL
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial