มือถือสองซิมในปัจจุบันเริ่มมีตัวเลือกให้ใช้งานมากขึ้น จากแต่ก่อนที่มีอยู่ไม่กี่รุ่น (และตอนนี้ก็ยังมีอยู่ไม่กี่รุ่น) และอีกตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นมาอีกก็คือ Galaxy Core Duos ที่อยู่ในระดับราคากลาง ๆ และในวันนี้เราจะมารีวิวกันดูว่า Galaxy Core Duos นั้นคุ้มค่าเงินที่จะเลือกมาใช้งานแค่ไหนกัน?

Review-Galaxy-Core-Duos (1)

[message_box title=”SAMSUNG Galaxy Core Duos” color=”red”]สามารถหาซื้อได้ตาม SAMSUNG Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ 7,900 บาท [/message_box]

Review-Galaxy-Core-Duos (2)

สเปค | SAMSUNG Galaxy Core Duos

  • ระบบปฏิบัติการ : Android 4.1 (Jelly Bean)
  • หน้าจอ : 4.3″ (480 x 800 Pixel)
  • ซีพียู : Dual-core  1.2 GHz (Cortex A5)
  • แรม : 1 GB
  • ความจุ : 8GB (รองรับ microSD สูงสุด 64GB)
  • กล้อง : กล้องหน้า VGA, กล้องหลัง 5MP พร้อม Flash LED
  • ซิม : รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
  • ระบบไร้สาย : Wi-Fi 802.11b/g/n 2.4GHz, Bluetooth 2.0
  • ระบบ 3G : รองรับ 850/2100 MHz และ 900/2100 MHz (เลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง)
  • แบตเตอรี่ : 1,800mAh
  • ขนาด : 129.3 x 67.6 x 8.95 มม.
  • น้ำหนัก : 124 กรัม

Review-Galaxy-Core-Duos (3)

สัมผัสแรก

ปัจจุบันถึงแม้ว่าเงินเดือนวุฒิปริญญาตรีจะอยู่ที่ 15,000 บาท ก็ตามแต่แน่นอนว่าค่าครองชีพก็สูงไปด้วย การเลือกใช้มือถือนี่ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะฟุ่มเฟือย โดยเฉลี่ยแล้วระยะเวลาเปลี่ยนมือถือรุ่นใหม่จะอยู่ที่ 1 ปี คือ รุ่นใหม่ออกพอดีและรุ่นเก่าก็หมดประกัน ลองคิดดูถ้าหากเราซื้อด้วยเงิน 15,000 บาท ก็เท่ากับว่าเราทำงานฟรีปีละหนึ่งเดือนเลยทีเดียว

ดังนั้นรีวิวต่อไปนี้เราจะเจาะกลุ่มที่ต้องการเน้นความประหยัดและลดค่าใช้จ่ายครับ หลาย ๆ เรื่องอาจจะขัดใจบ้างแต่อยากให้ท่านคิดเสมอว่า “มันไม่ใช่รุ่นดีที่สุด แต่มันอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือก ที่คุ้มค่าเงินที่สุด”

SAMSUNG Galaxy Core Duos (ต่อไปนี้ขอเรียกแค่ “Galaxy Core Duos”) ด้วยความที่ค่าตัวแค่ 7,900 บาท (ซื้อจริงอาจได้ถูกกว่านี้) ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากกับวัสดุ แต่ทันทีที่ได้จับเท่านั้นแหล่ะวัสดุมันไม่ได้กระจอกเลยทีเดียว เครื่องแน่นและมีน้ำหนักดีครับ วัสดุฝาหลังก็เหมือนกับตระกูล SAMSUNG รุ่นแพง ๆ หน่อยยังไงยังงั้นเลย

Review-Galaxy-Core-Duos (4)

สองซิมช่วยลดค่าใช้จ่ายจริงหรือ?

บางคนมีความคิดที่ว่ายิ่งใช้ซิมเยอะค่าใช้จ่ายยิ่งบานปลาย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ ถ้าหากเรารู้จักใช้เป็นและติดตามข่าวสารโปรโมชั่นบ้าง มันจะช่วยให้เราลดค่าใช้จ่ายลงได้เยอะเลย และต่อไปนี้คือเหตุผลดี ๆ ที่ได้จากมือถือสองซิม

  1. ช่วยลดค่าโทรศัพท์ เกือบทุกค่ายมักจะมีโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับการโทรในเครือข่ายเดียวกัน หรือแม้กระทั่งค่าโทรก็ไม่เท่ากัน บางโปรโทรสั้น บางโปรโทรยาว หรือแม้กระทั่งแบ่งเป็นช่วยเวลา ดังนั้นการมีสองซิมไม่ได้หมายความว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็นสองเท่าเสมอไป
  2. ช่วยลดค่าอินเตอร์เน็ต ความจริงเน็ตที่ถูกที่สุดคือเน็ตของ TOT 3G ครับ (I-mobile 3GX, 365, MOJO, IEC, TOT) อาจจะไม่ครอบคลุมเท่าเครือข่ายหลัก แต่ราคาต่อ MB ถูกจนน่าใจหาย (ผมใช้ใน กทม. ตอบโจทย์มากครับ) ผมไปซื้อมาจากร้านตู้เนี่ยแหล่ะเป็นซิมเติมเงินของ mobile 3GX หน้าซิมเขียนว่า “500MB/180Days” ราคา 299 บาท จ่ายครั้งเดียวไม่ต้องเติมเงิน โดยจะได้ Data 500MB ทุก 1 เดือน เป็นเวลา 6 เดือน เฉลี่ยตกเดือนละ 50 บาท (ผมเลือกซื้อสองซิมเลย อีกอันใช้กับ Tablet แล้วเอาไว้สำรองให้มือถือด้วย เผื่อบางเดือนใช้เกิน)
  3. ใช้สำหรับต้อนรับโปรโมชั่น โปรโมชั่นดี ๆ มักสงวนให้สำหรับเบอร์ใหม่เท่านั้น เรามักจะได้ยินคำนี้เสมอ ๆ บางครั้งเพียงแค่เปิดเบอร์ใหม่ได้ส่วนลด 3 เดือน, 6 เดือน แต่ใครเล่าจะอยากเปิดเบอร์ใหม่? ถ้าจะให้ถือสองเครื่องก็คงจะเกะกะเกินไป
  4. จัดการเบอร์โทรอย่างง่าย ๆ ในบางครั้งเมื่อเราพักผ่อนก็ต้องการมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไหนจะเจ้านายแล้วไหนจะลูกค้า (ซึ่งบางทีก็ไม่มีเรื่องอะไรสำคัญหรอก) การแบ่งซิมแบบนี้สามารถช่วยจัดการได้ง่าย ๆ ครับ หรือบางตำแหน่งทางบริษัทจะมีซิมการ์ดให้ใช้ (บริษัทออกให้) เราก็เอามารวมกันไว้เลยไม่ต้องพกสองเครื่องให้วุ่นวาย

Review-Galaxy-Core-Duos (5)

สำหรับ Galaxy Core Duos นั้นสามารถจัดการได้ทั้งข้อมูล, ข้อความ และเบอร์โทรว่าจะให้ใช้จากซิมไหนครับ โดยทั้งสองซิมสามารถเลือกใช้งาน 3G ได้อิสระ

Review-Galaxy-Core-Duos (6)

วัสดุของ Galaxy Core Duos จะไม่ค่อยต่างจากตระกูล Galaxy ด้วยกันเลย เป็นพลาสติกเหมือนเดิมแต่งานประกอบดูดีกว่า SAMSUNG รุ่นที่ราคาต่ำกว่าหมื่นแทบทุกตัวเลยทีเดียว

Review-Galaxy-Core-Duos (7)

ช่องด้านล่างเป็นช่องสำหรับเสียบ micro USB ครับ ตัวฝาหลังสามารถแกะออกได้โดยง่ายและมีความยืดหยุ่นสูง

Review-Galaxy-Core-Duos (8)

ปุ่มสำหรับปรับเสียงอีกฝั่งหนึ่ง เท่าที่ลองดูกดได้ง่ายถนัดมือเลยทีเดียว

Review-Galaxy-Core-Duos (9)

แจ็คด้านบนเป็นแบบ 3.5 มม. เหมือนกับโทรศัพท์มือถือทั่ว ๆ ไป

Screenshots-Galaxy-Core-1

ประสบการณ์การใช้งาน

Galaxy Core Duos มาพร้อมกับ Android 4.1.2 และ TouchWiz UI (แอบเสียดายลึก ๆ ว่าน่าจะเป็น Android 4.2) แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะมันใช้งานเหมือนกันได้ทุกประการ และผมยังหาความแตกต่างกันไม่เจอเลย

ถัดมาตรงช่อง Contacts สามารถสไลด์ไปทางขวาเพื่อโทรได้ ก็สะดวกดีนะ

Screenshots-Galaxy-Core-2

สามารถเลือกเปลี่ยน Font ได้โดยไม่ต้อง Root เครื่องให้วุ่นวาย และ ROM ในตัวเครื่องเหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 4.75GB มากพอที่จะใส่ภาพยนตร์ DVD จำนวน 1 แผ่นโดยไม่ต้องแปลงได้ ถัดมายังมีระบบจัดการซิมอย่างง่าย ๆ ให้ผู้ใช้ สามารถตั้ง Icon และชื่อซิมได้

Screenshots-Galaxy-Core-3

จากการทดสอบ Galaxy Core Duos ได้คะแนนใกล้เคียงกับ Galaxy Nexus (อดีตเทพรุ่นเก่า) ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ RAM ที่ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นัก แต่อย่างว่าครับว่านี่คือรุ่นคุ้มค่าและ Galaxy Nexus ก็ไม่ได้มีสองซิม (แอบเข้าข้าง)

หากถามว่า “หน่วงไหม?” บอกตามตรงว่ามีหน่วงบ้าง แต่ไม่ถึงกับค้างหรืออืดแต่อย่างใด เป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก ๆ แทบสังเกตไม่เห็นเลย การดูหน้าเว็บไซต์และเล่นเกมทั่วไปสามารถตอบโจทย์ได้อย่างราบรื่นครับ

ความละเอียดหน้าจอยู่ที่ 480 x 800 สำหรับหน้าจอขนาด 4.3″ ก็ถือว่าคมชัดพอสมควร หากเทียบกับ Galaxy Grand ที่มีความละเอียดเท่ากันที่ 480 x 800 แต่หน้าจอขนาด 5″ จะเห็นได้ถึงความแตกต่างว่า Galaxy Core Duos น่าใช้กว่าเยอะเลย

Smart-Alert-Galaxy-Core

Smart Alert

ฟีเจอร์ตัวนี้ได้มาจากรุ่นพี่ในตระกูล Galaxy วิธีใช้คือไปเปิดที่ Motion จากนั้นก็เลือกตั้งค่าตามต้องการ (มีเมนูภาษาไทยให้จากโรงงานครับ และภาพประกอบเข้าใจง่าย) ข้อดีของ Smart Alert ก็คือเมื่อเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามันจะเตือนสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความทันที ด้วยการแอบสั่นเบา ๆ และ Turn over to mute/pause ก็ไว้สำหรับปิดเสียงเตือนทุกชนิด ซึ่งบางทีเรายุ่ง ๆ อย่างเช่นประชุมอยู่แล้วลืมปิดเครื่อง ฟีเจอร์นี้ช่วยได้มากครับ

Smart-Stay-Galaxy-Core

Smart Stay

ฟีเจอร์นี้มีในรุ่นใหญ่ ๆ ของตระกูล Galaxy และแน่นอนว่า Galaxy Core Duos ก็ได้รับผลบุญด้วยเช่นกัน หลักการทำงานก็คือโทรศัพท์จะไม่ดับถ้าหากคุณยังลืมตาดูมันอยู่ครับ

Best-Shot-Galaxy-Core

Best Shot

ฟีเจอร์กล้องสุดล้ำที่เมื่อเปิดแล้วสามารถถ่ายต่อเนื่องได้ถึง 8 รูป และเราก็เลือกภาพที่ดีที่สุดมาใช้ (โปรแกรมจะแนะนำให้ด้วยว่าภาพไหนดีที่สุด) เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเหตุการณ์ที่ต้องเกิดขึ้นไว เช่น ประธานกำลังตัดริบบิ้น (พลาดแล้วพลาดเลย) หรือถ่ายรูปตอนไปกระโดดที่ชายหาดกับเพื่อนก็ได้ครับ มารอกดทีละครั้งคงจะกระโดดกันหอบ

กล้องหลัง | Galaxy Core Duos

เท่าที่สัมผัสประสบการณ์จากกล้องหลังของ Galaxy Core Duos ความละเอียด 5MP ก็ให้ภาพที่ชัดมากพอที่จะใช้ถ่ายทำงานต่าง ๆ ได้อย่างสบาย เรียกว่าความละเอียดเพียงพอที่จะใช้ถ่ายเพื่อใช้งานได้จริงมากกว่า ถึงแม้จะไม่สวยเหมือนกล้องเทพ ๆ เขา

การโฟกัสชัดตื้นทำออกมาได้ค่อนข้างดี (แต่ชัดเตอร์แอบช้าเล็กน้อย) ส่วน VDO น่าเศร้าที่สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดเพียง 480P ครับ

เอาเป็นว่าจากภาพที่เอามาแสดงถ้ารับได้ก็ไม่มีปัญหาครับ เนื่องจากผมเลือกมาแต่ภาพที่ถ่ายได้จริงในครั้งแรกเท่านั้น ไม่ใช่ถ่ายมาเป็นร้อยรูปและคัดแต่รูปดี ๆ มาลง

กล้องหน้า | Galaxy Core Duos

กล้องหน้าความละเอียด VGA (ประมาณสามแสนกว่า) ก็ไม่ถึงกับดีเด่นอะไรครับ มีไว้แค่ให้ VDO Call เฉย ๆ กับถ่ายพอสนุก ๆ แต่พูดถึงกล้องหน้ามือถือ 10 รุ่นจะทำออกมาแค่ระดับ “ใช้งานได้จริง” เพียงแค่รุ่นเดียว โดยราคามันก็เฉียด ๆ สองหมื่นทั้งนั้น ดังนั้นอย่าน้อยใจไปครับ รุ่นหมื่นต้น ๆ ถ่ายออกมาก็ไม่ได้ดีเด่ซักเท่าไหร่นักหรอก

Nokia-Lumia-620

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับช่วงราคาที่ใกล้เคียงถ้าไม่พูดถึงแบรนด์เดียวกัน ก็จะมี Nokia Lumia 620 ราคา 7,450 บาท

จุดเด่นของ Lumia 620 เมื่อเทียบกับ Galaxy Core Duos ก็จะอยู่ที่สีมีให้เลือกหลากหลาย กล้องคุณภาพ 5MP เหมือนกัน (แต่คุณภาพดีกว่า) และ CPU เป็น Qualcomm Snapdragon™ S4 ที่เป็น Dual-core 1 GHz ส่วนข้อเสียของ Lumia 620 เมื่อเทียบกับ Galaxy Core Duos ก็คงจะเป็นหน้าจอที่เล็กกว่าด้วยขนาด 3.8″ แล้วก็ไม่รองรับสองซิม ถ้ายังไงลองชั่งน้ำหนักดู

แต่เรื่องที่หนักใจแนะไม่อาจเทียบได้คือ Lumia 620 เป็นระบบปฏิบัติการ Windows Phone ในขณะที่ Galaxy Core Duos เป็นระบบปฏิบัติการ Android อันนี้คงต้องแล้วแต่คนชอบแล้วล่ะครับ

ข้อดี

  1. รองรับสองซิมควบคุมได้อิสระและใช้ 3G ได้ทั้งสองซิม
  2. ราคาถูกแต่งานประกอบและคุณภาพเกินราคา
  3. ได้ฟีเจอร์ Smart Alert, Smart Stay และ Best Shot เหมือนกับรุ่นใหญ่
  4. จอคมชัด สีสดใสและให้มุมมองที่กว้าง

ข้อเสีย

  1. มีอาการหน่วงบ้างเล็ก ๆ เมื่อใช้งานหนัก ๆ (แต่ไม่ถึงกับกระตุก เรียกว่าไม่ลื่นไหลดีกว่า)
  2. ต้องเลือกซื้อระหว่างความถี่ 850 MHz กับ 900 MHz
  3. เวอร์ชั่นจากโรงงาน Android 4.1 และอาจหยุดแค่นั้น

สรุป

Galaxy Core Duos เหมาะสำหรับนักเรียน, นักศึกษา หรือบุคคลที่พึ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ โดยอาจจะมีรายได้ไม่สูงมากนัก แต่อยากได้ความคุ้มค่าและเลือกใช้ Inter Brand สำหรับความสามารถนั้นบอกได้ว่าสมราคาเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับรวมถึงสิทธิประโยชน์จาก Galaxy Gift และ Galaxy Showtime ที่สามารถใช้กันได้อย่างฟรี ๆ อีกนะ