fbpx
Review Gadget

รีวิว – Kingston Savage SSD 240GB “สัมผัสความแรงระดับพรีเมี่ยม”

1581

SSD รุ่นใหม่จาก Kingston ในตระกูล HyperX ซึ่งทาง Kingston ได้แตกไลน์การผลิตออกใหม่โดยใช้ชื่อรุ่น Savage เป็น SSD ที่เน้นการใช้งานสำหรับ Desktop PC หรือ Notebook ได้อย่างลงตัวแถมมีประสิทธิภาพจาก Chip Controller จาก Phison Electronics โดยใช้ Chip Controller รุ่น PS3110-S10-X สำหรับเป็นตัวควบคุมการทำงานโดยตัว NAND Flash Memory SSD เป็นของทาง Kingston เองครับโดย Kingston Savage SSD นี้ทาง Kingston ได้วางไว้สำหรับตลาดระดับกลางแต่สิ่งที่พิเศษกว่า SSD รุ่นอื่น ๆ ของ Kingston เองคงเป็นเรื่องความเป็นพรีเมี่ยมโปรดักส์ สำหรับรุ่น Savage SSD​ นี้จะเป็นการออกมาตอบโจทย์​สำหรับผู้ที่ต้องการ SSD ที่มี​ประสิทธิภาพ​ความเร็วในการอ่าน/เขียน ข้อมูลที่รวดเร็วและให้มากกว่าการเป็นเพียง​ SSD​ ทั่วไปแล้วเจ้าตัว Kingston HyperX Savage SSD รุ่นใหม่นี้จะมีอะไรพิเศษแค่ไหนอ่านต่อเลยครับ

[divider]

Full Specifications

 

iReviewInTh_Kingston_Savage_SSD_SpecificationsView Kingston Savage SSD – Datasheet

Current Price : 4,150 Bath (Advice)  – 4,490 Bath (Memorytoday.com)

จะเห็นได้ว่าใน Spec Sheet ของตัว Kingston HyperX Savage SSD นี้จะมีความจะตั้งแต่ 120GB , 240GB, 480GB และ 960GB ซึ่งแต่ล่ะขนาดความจุจะมีความเร็วในการอ่าน/เขียน ข้อมูลไม่เท่ากันครับซึ่งสำหรับรุ่นที่ทาง Kingston ส่งมาให้เราได้ทดสอบและรีวิวจะเป็นรุ่น 240GB อยากบอกจริง ๆ ว่าในตลาด ณ ตอนนี้ความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่จะประกอบ Computer PC ให้แรง ๆ หรือคนที่มองหา SSD เพื่อนำไปอัพเกรด Notebook ของตนเองให้แร๊งแรงส์เขามองที่ความจุ 240GB , 256GB ขึ้นไปแล้วครับ

[divider]

Unboxing

ลักษณะของ Packaging ของ Kingston HyperX Savage SSD นั้นตัวกล่องจะโดดเด่นมากจะว่าเป็นโทนแบบดุ ๆ ก็ว่าได้เป็น Packaging ที่ออกแบบมาดีดูหรูนิด ๆ หน้ากล่องเองจะบอกรายละเอียด ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลของ Kingston HyperX Savage SSD อย่างชัดเจนโดยความเร็วในการอ่านเขียนของรุ่น 240GB SHSS37A/240G นี้ค่า Read =  560MB/s และ Write = 530MB/s ครับ ซึ่งเป็น แล้วเมื่อเปิดกล่องออกมาก็เจอตัวเป็น ๆ ของ Kingston HyperX Savage SSD ก่อนเลยนอนอยู่ในฟ้องน้ำแล้วสังเกตให้ดีจะพบว่าบนตัวฟ้องน้ำก็ฉลุเป็นลายโลโก้ HyperX พอเปิดอีกชั้นก็จะพบกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ซึ่งจะมี

  • น๊อต 2 ถุง
  • ไขขวง 1 ชุด
  • สาย SATA3 1 เส้น
  • สาย USB 3.0 1 เส้น
  • คู่มือและสติกเกอร์ HyperX เก๋ ๆ 1 ชุด
  • External Box Enclosure 2.5 นิ้ว 1 ชุด
  • ที่รองตัว SSD 1 อันใช้ติดที่ตัว SSD เพื่อแปลงให้ความหนาจาก 7mm. เป็นขนาด 9.5mm.

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_128

  • บัตรคูปอง Code สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรม Acronics True Image HD ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ kingston.com/cloning

แต่น่าแปลกใจที่ไม่แถมถาดแปลง SSD จาก 2.5 นิ้วเป็น 3.5 นิ้วสำหรับใช้กับ Desktop PC กลายเป็นข้อเสียไปเลยซึ่งจริง ๆ แล้วควรแถมมาให้ครับ

[divider]

Body and Design

งานการออกแบบตัว Kingston HyperX Savage SSD 240GB นั้นตัวกล่องทำได้ดีเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนโดยใช้ธีมส์สี ดำแดง เป็นจุดขายและความบางของตัว SSD อยู่ที่ 7mm. ซึ่งความบางระดับนี้สามารถใส่กับ Notebook ที่ใช้ Harddisk แบบ Slim ได้สบาย ๆ ครับ

[divider]

Benchmark and Performance

สำหรับรีวิวนี้ผมจะทำทดสอบ  3 เฟสโดย

  • เฟสที่ 1 – จะเป็นลักษณะ Upgrade Notebook แล้วทดสอบความเร็วแบบจาก Migration OS to SSD ก็คือ Clone หรือ Ghost น่ะแหละครับโดยข้อมูลมีครบส่วนนี้ผู้ใช้หลายคนกังวลว่าถ้าทำ Migration แล้วความเร็วจะตกหรือไม่?
  • เฟสที่ 2 – ทดสอบความเร็วอ่าน/เขียน ข้อมูลโดยนำ Kingston HyperX Savage SSD 240GB นี้ใส่ External Box

[divider]

Phase 1 – Notebook Upgrade KIT

 P1150088ในการอัพเกรดอุปกรณ์หลัก ๆ ก็มีแค่ 2 รายการคือไขขวง 1 อัน และ Kingston HyperX Savage SSD 240GB

P1150106และตัวถาดแปลงสำหรับเอา Harddisk ใส่แทนช่อง DVD ครับสำหรับราคาของถาดแปลงแบบนี้อยู่ราว ๆ 400-600 บาท และสำหรับ Notebook บางรุ่นตัว DVD จะเป็นแบบไหนเช็คด้วยนะครับเพราะมี 2 แบบคือแบบ Full กับแบบ Slim

P1150099เอาไว ๆ วาร์ปให้เห็นภาพเปลี่ยนจาก Harddisk SATA3 Notebook เป็น Kingston HyperX Savage SSD 240GB

P1150103บรรยากาศขณะทดสอบ

ตัวเครื่องที่ใช้ทดสอบเป็น Dell Inspiron 3521 – Intel Core i3 3217U , Ram DDR3 Bus 1600 8GB , Harddisk 500GB Seagate Momentus , Chipset Intel HM76

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_19

 iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_18

สภาพ Windows Environment เป็นสภาพแวดล้อมของระบบหลังจากที่ทำ Migration OS จาก Harddisk ไป Kingston HyperX Savage SSD 240GB เสร็จแล้วสังเกตได้นะครับว่า Drive D, E , F นั้นคือตัว Harddisk Seagate เดิมที่ติดมาจากโรงงาน Dell

Test with CrystalDisk Mark 4.0.3 – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_233ทดสอบทั้งหมด 4 เฟสด้วยกันกับ CrystalDisk Mark 4.0.3 อยากบอกตรงนี้เลยว่าต่อให้ทำ Migration เสร็จแล้วข้อมูลได้มาครบเกือบเต็มพื้นที่โดยมีพื้นที่เหลือใช้งานอีก 40GB โดยประมาณความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลแถบไม่ตกมากเลยเลยประสิทธิภาพดีจริง ๆ นี่คือสิ่งที่หลาย ๆ คนแม้นแต่เพื่อนผมถามถึงว่าหลังจาก Clone หรือย้ายข้อมูลจาก Harddisk ไป SSD แล้วความเร็ว SSD จะตกมั๊ยคำตอบคือตกครับแต่อาจจะเล็กน้อยสาเหตุก็มาจากหลาย ๆ ปัจจัยทั้งตัว Driver , Chipset Controller ในส่วนควบคุมการทำงานของ SATA Controller เองบนเมนบอร์ด แต่ผลทดสอบที่ได้ก็น่าพอใจอยู่เพราะใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่เขียนไว้ใน Spec ของตัว Kingston HyperX Savage SSD 240GB ครับ

Test with AS SSD 1.8 – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_234

คราวนี้อยากให้ดูค่า Access Time หรือการเข้าถึงข้อมูลกับ AS SSD 1.8 ถ้าค่าการอ่านเขียนตกไปและแตกต่างจากโปรแกรมเทส Crystal Disk ไม่ต้องแปลกใจครับแต่ให้เน้นดูค่า Acc.time เท่าที่เห็นคือเรียกได้ว่าการเข้าถึงข้อมูลทำได้ไวดีทีเดียว จะว่าไปแล้ว SSD จริง ๆ ออกแบบมาให้เราใช้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้นี่แหละครับเนื่องจาก Harddisk ปกติที่ใช้มอเตอร์ 7,200 รอบหรือ 5,400 รอบก็ดีมักมีคอขวดตรงค่า Acc.time นี่แหละแต่ยังไงซะตัว Kingston HyperX Savage SSD 240GB ที่ใช้ Chipset Controller Phison S10 เองก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันน่าจดจำและดีงามใช่เล่นเลยล่ะ

[divider]

Phase 2 – USB 3.0 External Box Enclosure

P1150131จับ Kingston HyperX Savage SSD ใส่ลง External Box Enclosure เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ

P1150136ภาพบรรยากาศขณะทดสอบตัวแปลง External Box Enclosure ไฟ LED ที่ตัวกล่องเป็นสีฟ้าสวยงามครับแถมตัวกล่องเองงานออกแบบดูหรูหราส่วนตัวชอบอย่างนึงคือสาย USB 3.0 ที่ให้มายาวดี ยาวราว ๆ 1.5 ฟุตไม้บรรทัดเลยล่ะ

Test with CrystalDisk Mark 4.0.3 – Result

แต่คราวนี้ผมเปลี่ยนเครื่องเทสโดยใช้ Desktop PC ที่ใช้การ์ด USB 3.0 โดยใช้ Chipset AsMedia Controller USB 3.0 บนเมนบอร์ด Asus M5A97 ทดสอบ

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_125

ผลที่ได้คือความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อนำ SSD มาใส่กับ External Box Enclosure ความเร็วที่ได้เอาจริง ๆ ค่าเฉลี่ยเมื่อใช้งานแบบ External Drive ค่าการอ่าน/เขียนข้อมูลอยู่ราว ๆ 100MB/s ก็นับว่าหรูหราแล้วครับมันก็ไวพอที่จะทำให้เรา Copy ไฟล์ขนาดใหญ่ ๆ ได้อย่างสบาย ๆ และประหยัดเวลาในการนั่งรอหรือเซฟงานต่าง ๆ

Test with AS SSD 1.8 – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_127ผลเทสกับโปรแกรม AS SSD นั้นก็ใกล้เคียงกับ CrystalDisk Mark เลยล่ะแล้วค่า Acc.time ก็สูงขึ้นกว่าแบบการเชื่อมต่อโดยตรงแบบ SATA ขึ้นมาหน่อยนึงแต่ประสิทธิภาพความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลยังสูงดีจริง ๆ

Test Real World Copy – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_25

Copy ไฟล์ ISO จาก Harddisk ไป Kingston HyperX Savage SSD 240GB แบบต่อ External Box Enclosure ผลที่ได้ก็คือมันใกล้เคียงกับความเร็วที่เทสกับโปรแกรมทดสอบ Benchmark เลยล่ะเพราะไงซะค่าการเขียนจริง ๆ ก็น้อยกว่าค่าการอ่านตาม Spec อยู่ดีครับ

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_28

ความนี้ทดสอบอีกครั้งโดยโยนไฟล์จาก Kingston HyperX Savage SSD 240GB ไป Drive C ที่เป็น SSD อยู่แล้วผลคือต้องทึ่งเพราะวิ่งสม่ำเสมอกว่าอย่างชัดเจนเพราะถ้าตัวที่ 1 เป็น SSD แล้วมีค่าอ่านใกล้เคียงกันแล้วปลายทางคือ SSD ที่มีค่าความเร็วในการเขียนใกล้เคียงหรือไล่ ๆ กันก็ทำให้สามารถ Copy ไฟล์ได้รวดเร็วดีแต่กระนั้นถ้าเป็น Harddisk ล่ะ? แน่นอนค่าการอ่าน/เขียนข้อมูลจะแกว่งลงกว่านี้เนื่องจากค่า Acc.time ของ Harddisk นั้นสูงกว่า SSD อยู่หลายเท่าตัวเลยทีเดียวและค่าการเขียนก็อาจจะน้อยกว่า SSD เสียด้วยซ้ำ

[divider]

ข้อดี

  • เรื่อง Firmware คาดว่าหายห่วงสำหรับ Kingston รวมไปถึงการ Support และบริการหลังการขายในไทย
  • ดีไซน์ตัว Body ทำออกมาได้สวยงามทีเดียวแต่เอาเหอะพอยัดมันลงเครื่องคอมเราก็ลืมแล้วว่าหน้าตามันเป็นยังไง
  • Packaging ทำออกมาได้สวยงามอุปกรณ์ที่ให้มาค่อนข้างครบครันสามารถนำไปใช้งานได้หลายรูปแบบที่เราต้องการ
  • ความเร็วในการอ่านเขียนค่อนข้างสม่ำเสมอทั้งสองทางทำให้เป็น SSD รุ่นนึงในตลาดที่มีพลังในการอ่านเขียนใกล้เคียงกันในราคาที่เอื้อมถึง
  • ประสิทธิภาพที่ได้ทั้งการอ่าน/เขียน ต่อราคา ต่อความจุบวกกับความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทำให้เป็นตัวเลือกสำหรับนำมาใช้อัพเกรดเครื่อง Computer ทั้ง Desktop และ Notebook เป็นอย่างยิ่ง

ข้อเสีย

  • ไม่แถมถาดแปลงของ SSD สำหรับ Computer PC มาให้น่าผิดหวังในข้อนี้
  • ไม่แถม Software ใด ๆ มาให้แต่ยังดีที่ให้คูปองให้เราไปดาวน์โหลดโปรแกรม Acronics TrueImage HD มาเพื่อใช้ Clone Disk ได้

[divider]

สรุป

สำหรับในปัจจุบันตลาด SSD มีแนวโน้มทั้งความจุใหญ่ ๆ ราคาถูกลงเรื่อย ๆ ผู้ใช้เองก็สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นเป็นทางเลือกนึงที่เสียงส่วนใหญ่มักบอกว่ามันเหมาะสำหรับนำมาอัพเกรดเครื่อง Computer PC / Notebook เก่า ๆ ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าโดยเสียเงินนิดหน่อยเท่านั้นแต่เมื่อใช้งานแล้วกลับเหมือนได้ Computer PC / Notebook ที่เป็นเครื่องใหม่ขึ้นมาแทนการซื้อเครื่องใหม่ทั้งชุดซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาและคิดว่าซื้อ SSD ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคากลาง ๆ ความจุเยอะหน่อยนึงก็ลองจับ Kingston HyperX Savage SSD 240GB ตัวนี้ไปเป็นตัวเลือกในลิสต์รายการการซื้อดูเพราะรีวิวนี้เป็นเพียงส่วนนึงที่จะช่วยในการตัดสินใจเล็ก ๆ ของคุณเท่านั้นว่าเอ๊ะมันเหมาะหรือไม่แต่ผมยืนยันว่า Kingston HyperX Savage รุ่นใหม่นี้ Controller จาก Phison ไม่ห่วยเหมือน Sanforce ที่ Kingston เคยนำมาใช้ในรุ่นก่อน ๆ แน่นอนครับสำหรับรีวิวนี้ขอขอบคุณบริษัท Kingston Technology Company, Inc. เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ให้เราได้ทดสอบครับสวัสดี