เปิดตัวไปแล้วกับสอง Tablet เรือธงรุ่นใหม่จาก Samsung จับกลุ่มผู้บริโภคที่มี Lifestyle ที่แตกต่างกัน
นั่นก็คือ Galaxy Tab S 10.5 และ Galaxy Tab S 8.4 ในครั้งนี้  iReview ก็ไม่พลาดที่จะมาพรีวิวเล็กๆให้ได้ชมกัน

Samsung_Galaxy_Tab_S_26

Galaxy Tab S จะมาตีตลาดผู้ใช้ Tablet ที่ต้องการหน้าจอที่แสดงผลได้ตรงความจริงและคมชัด นอกจากนี้แล้วยังถูกส่งมาชนกับ iPad Air และ iPad mini อีกด้วย Samsung เครมว่าของเราเหนือกว่าทั้งสเปคหน้าจอ อะฮ่า!

[divider]

galaxy_tab_s_105_spec

มากันที่ตัวแรก Galaxy Tab S 10.5 แน่นอนว่าขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว ตามชื่อรุ่น การดีไซน์ก็คล้ายๆ Tablet ทั่วๆไป สำหรับตัวที่วางขายในประเทศไทยจะใช้ชิพ Exynos 5 Octa (exynos 5420 + xmm7160 modem) พร้อม RAM ถึง 3GB เป็น Android 4.4 ครอบด้วย Magazine UX

Samsung_Galaxy_Tab_S_12

แรกจับรู้สึกได้ถึงความเบาของ Galaxy Tab S 10.5 หนักแค่ 465-467 กรัม เบามาก สำหรับ Tablet จอ 10.5 นิ้ว ขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ตำแหน่งการวางปุ่มคล้ายกับ Galaxy Note 10.1 (2014) ปุ่ม Home สามารถสแกนรอยนิ้วมือได้แบบ Galaxy S5 แต่สแกนกรรมไม่ได้ (ฉ่าง! ตบถาด)

Samsung_Galaxy_Tab_S_15

จุดเด่นคือหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียดสูงถึง 2560×1600 พิกเซล (288 ppi) ที่แสดงผลได้สมจริงกว่าเดิม
ให้สีเขียวที่เป็นเขียวโทนต่างๆอย่างชัดเจอ สีดำจะดำสนิทดูมีมิติ สีขาวจะสว่างกว่าเดิม

Samsung_Galaxy_Tab_S_08

ด้านหลังเป็นรูๆแบบ Galaxy S5 คล้าพาสเตอร์ปิดแผลขนาดใหญ่ แต่รู้สึกว่าดีไซน์ฝาหลังแบบ S5 พอมาอยู่บน Tablet แล้วดูสวยกว่าเยอะ

Samsung_Galaxy_Tab_S_22

กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล + LED Flash กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล

Samsung_Galaxy_Tab_S_10

นอกจากจะเบาแล้ว Galaxy Tab S 10.5 ยังบางมากอีกด้วย บางเพียง 6.6 มิล เท่านั้นเอง

[divider]

 

galaxy_tab_s_84_spec

ต่อไป Galaxy Tab 8.4 ที่มีสเปกไม่ต่างจากรุ่น 10.5 มากนัก โดยมีความเบาอยู่ที่ 294-298 กรัม

Samsung_Galaxy_Tab_S_24

มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 8.4 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล (359 ppi) คมชัดกว่า 10.5 (แน่นอนสิ จอมันเล็กกว่า) และถูกออกแบบมาให้วางในแนวตั้ง

Samsung_Galaxy_Tab_S_05 Samsung_Galaxy_Tab_S_02 Samsung_Galaxy_Tab_S_01Samsung_Galaxy_Tab_S_03

 

ความบางนั้นเท่ากับกันตัว 10.5 นิ้วคือ 6.6มิล ถือแล้วถนัดมือมาก

Samsung_Galaxy_Tab_S_04

ด้านหลังดีไซน์แบบรูๆเหมือน S5 เช่นกัน (ถ่ายมาโอเวอร์ไปหน่อยมองไม่เห็นเลย)

Samsung_Galaxy_Tab_S_25

จุดที่ต่างจาก Tab 10.5 คือมันมีลำโพงสนทนาอยู่ด้านบน แสดงว่า มันก็ใช้เป็นโทรศัพท์ได้แบบไม่ต้องใช้หูฟัง
แต่วิธีการใช่งานคงจะออกมาเป็น
.
.
.
.
.
.
.

Samsung_Galaxy_Tab_S_07

แบบนี้ …

[divider]

 

Samsung_Galaxy_Tab_S_28

นอกจากนี้ทาง Samsung ยังออกเคสสำหรับ Galaxy Tab S ด้วย จุดเด่นตรงที่สามารถปรับระดับได้ 3 ระดับ ยึดด้วยตัวแม่เหล็กของเคสเอง โดย Cover case ของ Galaxy Tab S 8.4 อยู่ที่ 1,890 บาท และ Galaxy Tab S 10.5 อยู่ที่ 2,190 บาท
Samsung_Galaxy_Tab_S_27

มีสีดำ สีขาว สีแดง มาวางขายก่อน ส่วนสีที่เหลือกำลังตามมาครับ

[divider]

 

สรุปแล้ว Galaxy Tab S ออกมาแทน Tablet รุ่น Top ของ Samsung ถูกส่งให้มาชนกับ Apple iPad Air และ mini อย่างไม่ต้องสงสัย (โดยส่วนตัวแล้วยังคิดว่า iPad และ Android Tablet เอามาเทียบกันไม่ได้ในเรื่องของประสบการณ์การใช้งาน) โดยจุดเด่นของ Galaxy Tab S อยู่ที่หน้าจอ Super AMOLED ที่มีคุณสมบัติหลักอย่าง
– Clearer Resolution ทำให้ภาพออกมามีความคมชัดมาก และด้วยอัตราส่วน 16:10 ทำให้เหมาะมากเวลาใช้ดูวีดีโอ
– Wider color range แสดง Range ของสีได้มากกว่า และกว้างกว่า TFT LCD 
– Deep Contrast ให้แสงเงาที่สมจริงกว่าเพราะสีดำจะดำสนิทและสีขาวจะสว่างกว่าเดิม
– Adaptive Display ปรับสีตามการใช้งาน

นอกจากเรื่องหน้าจอแล้วยังมีความเบาและบางมาก สำหรับคนที่ต้องการ Tablet ไว้พกไปไหนมาไหน แถมยังโทรออกได้อีกตะหาก ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานต้องรอรีวิวโดยละเอียดอีกทีแต่เท่าที่ได้ลองรูดๆดูแล้ว พบว่าลื่นติดมือดีมากไม่มีปัญหา ผมว่าการใช้งานจริงคงไม่มีปัญหาจุกจิก ส่วนราคาของ Galaxy Tab S 10.5 อยู่ที่ 19,900 บาท และ Galaxy Tab S 8.4 อยู่ที่ 16,900 บาทเท่านั้น วางขายแล้วตอนนี้ครับ