ปัจจุบันเมนบอร์ดในกลุ่ม ITX หรือ mini-ITX เรียกว่าได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะ เพราะนอกจากจะเป็น PC ขนาดเล็กกระทัดรัดแล้ว ยังลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการใช้พลังงานที่น้อยลง แต่ยังคงใช้งานได้เช่นเดียวกับเมนบอร์ดรุ่นใหญ่ แม้จะมาในรูปแบบของชิปเซ็ตรุ่นใหม่ เช่น Intel Z97 หรือ Z170 ที่มีความทันสมัยและรองรับซีพียูกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ได้ก็ตาม แต่เมนบอร์ดที่มีขนาดเล็กเหล่านี้ ก็มีข้อจำกัด ในเรื่องของอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น สล็อต PCI-Express หรือ SATA port ที่แทบจะไม่พอใช้ ในกรณีที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ในแบบ SATA หรือจะใช้ PCIe ก็ตาม จึงจำเป็นต้องมองหาทางเลือกอื่นในการใช้งาน

Kingston-M2-socket-(4)

ดังนั้น M.2 device ในรูปแบบของการ์ดจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้ เมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อในรูปแบบอื่นๆ เพราะนอกจากจะให้ความสะดวกในการติดตั้งแล้ว ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานยังทำได้ดีกว่าการเชื่อมต่อพื้นฐานทั่วไป เช่น SATA3 ที่ให้ความเร็วอยู่ที่ 6Gbps ซึ่งเวลานี้ SSD ส่วนใหญ่ก็ทำงานได้เต็มขีดจำกัดในการอ่านและเขียนข้อมูลผ่านพอร์ต SATA นี้แล้ว M.2 device จึงให้ประสิทธิภาพในการทำงานได้เต็มที่มากขึ้น ด้วยในด้านการอ่านและเขียนข้อมูลที่รวดเร็ว แม้จะมีราคาที่สูงกว่าบ้างก็ตาม รวมไปถึงข้อดีที่น่าสนใจคือ

Kingston-M2-socket-(3)

1.ด้วยขนาดที่เล็กเพียง 30mm – 110mm จึงต่อเข้ากับสล็อต M.2 บนเมนบอร์ดที่รองรับได้โดยตรง ใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยและยังอยู่ในแนวระนาบเดียวกับเมนบอร์ด จึงไม่เกะกะเมื่อติดตั้งในเคสที่มีขนาดเล็กอย่าง mini-ITX

Kingston-M2-socket-(6)

2.ไม่จำเป็นต้องต่อสายไฟเลี้ยงเพิ่มเข้าไปเหมือนกับ SATA port แต่ใช้ไฟจากสล็อต M.2 ผ่านทาง PCIe โดยตรง จึงไม่จำเป็นต้องต่อสายเพื่อจ่ายไฟให้กับไดรฟ์ และไม่ทำให้เสียพื้นที่ภายในเคสเพิ่มขึ้น

3.ให้ความเร็วในการทำงานที่ดีกว่า ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลกับซีพียูโดยตรงผ่าน PCIe ด้วยความเร็วในปัจจุบันกับ Ultra M.2 Gen 3 x4 ที่ให้ความเร็วได้มากถึง 32Gbps เลยทีเดียว

Kingston-M2-socket-(5)

4.ไม่ต้องเตรียมพื้นที่ในการติดตั้งมากมาย เพราะมีแค่ตัวการ์ดที่ติดตั้งลงไปในสล็อต M.2 บนเมนบอร์ด แล้วยึดน็อตให้แน่น เท่านี้ก็พร้อมสำหรับการใช้งานได้แล้ว ต่างจากในแบบ SATA ที่นอกจากจะต้องมองหาพื้นที่ในการติดตั้งแล้ว ยังต้องเตรียมสายไฟและสายดาต้าเอาไว้อีกด้วย