vivo V40 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ vivo เปิดตัวมาพร้อมกับสเปคที่น่าประทับใจและฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่สวยงาม กล้องที่ทรงพลัง และประสิทธิภาพที่ลื่นไหล ทำให้ vivo V40 5G เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีความคุ้มค่า
vivo V40 5G
ราคาเปิดตัว vivo V40 5G อยู่ที่ 15,999 บาท โดยจุดเด่นรุ่นนี้อยู่มาพร้อมกับสโลแกน “พอร์ตเทรตเปิด เกิดทุกคน” เน้นไปที่กล้องเป็นหลัก ด้วยเลนส์ ZEISS คุณภาพสูงความละเอียด 50MP ในทุกช่วงระยะ ให้ความคมชัดแบบไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นต้องเลนส์หลักเสมอไป และยังเป็นรุ่นแรกใน V Series ที่มาพร้อม IP68 ทนน้ำทนฝุ่นและลำโพงคู่ ที่นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจาก vivo V30 Series 5G
การออกแบบ
นอกจากนี้ยังมีดีไซน์ใหม่ “Gemini Ring” หรูหราและทันสมัย ดูแล้วรู้เลยว่าเป็นรุ่นใหม่จากทาง vivo ตัวเครื่องทำจากวัสดุคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกแข็งแรงและทนทาน ความบางอยู่ที่ 7.58 มม. สามารถทนน้ำทนฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP68 นอกจากนี้ vivo V40 5G ยังมีให้เลือกหลายสีสันสวยงาม ได้แก่ Stellar Silver, Nebula Purple และ Sunglow Peach (ส่วนตัวผู้รีวิวชอบสีนี้มากที่สุด)
สเปกและคุณสมบัติ
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 (ครอบทับด้วย Funtouch OS 14)
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+ (2800 × 1260) อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 4500nits, ขอบเขตสี 100% DCI-P3, ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC, ความหนาแน่นของพิกเซล 452 PPI
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 7 Gen 3
- แรม 12GB
- รอม 256GB/512GB
- กล้องหลังแบบ 2 เลนส์
- กล้องหลัก ZEISS 50MP (F/1.88) มีกันสั่น OIS
- กล้องมุมกว้าง ZEISS 50MP (F/2.0)
- กล้องหน้า ZEISS 50MP (F/2.0)
- รองรับสองซิม 5G
- รองรับ Bluetooth 5.4, Wi-Fi 6, Type-C, NFC
- แบตเตอรี่ 5500mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
- ขนาด 164.16 × 74.93 × 7.58 มม.
- น้ำหนัก 190 กรัม
กล้องใหม่คืออะไร และใหม่แค่ไหน ?
ในวงการสมาร์ทโฟน ZEISS เป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรของ vivo ในการพัฒนาระบบกล้องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดย ZEISS จะมีส่วนร่วมในการออกแบบเลนส์, พัฒนาซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพ และทดสอบคุณภาพของกล้อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดีที่สุด
ดังนั้น เมื่อคุณเห็นโลโก้ ZEISS บนสมาร์ทโฟน vivo ก็มั่นใจได้เลยว่ากล้องของรุ่นนั้นได้รับการพัฒนา และรับรองคุณภาพโดย ZEISS ซึ่งเป็นเครื่องหมายของความเป็นเลิศด้านการถ่ายภาพ และในครั้งนี้ vivo V40 5G มาพร้อมกับเซนเซอร์กล้องหลัก ISOCELL GNJ ใหม่! ขนาด 1/1.56″
Studio-Quality Aura Light Portrait
- ระบบ Aura Light อัปเกรดใหม่! เพิ่มความสว่าง 33% ยกระดับประสิทธิภาพการใช้แสงสู่ระดับมืออาชีพ
- เทคโนโลยีควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่! มอบแสงที่นุ่มนวลและครอบคลุมยิ่งขึ้นในภาพถ่ายระยะใกล้ และแสงที่สว่าง เพิ่มชัดเจนในภาพถ่ายระยะไกล
- ครั้งแรก ใน V Series กับ AI 3D Studio Lighting! อัลกอริทึ่ม AI เติมแสงบนใบหน้าผ่านระบบวิเคราะห์แบบ 3 มิติ มอบภาพถ่ายที่สวยสมจริง ดูเป็นธรรมชาติ
ระยะ 24 มม.
เหมาะสำหรับถ่ายภาพแนวท่องเที่ยวหรือเชิงสร้างสรรค์ ระยะนี้เป็นระยะมาตรฐานของสมาร์ทโฟนทั่วไป (หรืออาจกว้างกว่าเล็กน้อย) ก็ถือว่าเป็นระยะที่เราใช้ถ่ายท่องเที่ยว หรือถ่ายวิวธรรมดาทั่วไป อันนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก แต่เห็นมีระยะเลนส์มาเกี่ยวข้องก็อย่าพึ่งคิดว่ามันใช้ยากกัน เพราะเราสามารถถ่ายมันง่าย ๆ เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไปนั่นแหละ เพียงแค่มีระยะเลนส์เพิ่มเข้ามา
ระยะ 35 มม.
เหมาะกับการถ่ายบุคคลและบรรยากาศ โดยมุมจะแคบลงมาอีกนิดนึง เน้นไปที่ตัวบุคคลแต่ยังได้เก็บวิวด้านหลัง สำหรับคนที่ท่องเที่ยวแล้วอยากให้เห็นทั้งคนและบรรยากาศ ถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างมีความสมดุล (ถ่ายแล้วยังดูออกว่าอยู่สถานที่ไหน) เป็นหนึ่งในระยะที่ผู้รีวิวใช้เป็นประจำ เพราะอยากถ่ายให้เห็นหน้านางแบบอย่างชัดเจน ในขณะที่ภาพพื้นหลังก็ไม่ถูกลดความสำคัญมากเกินไป
ระยะ 50 มม.
เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากเน้นถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว (หากเป็น vivo V40 Pro 5G จะมีระยะ 85 มม. และ 100 มม. เพิ่มเข้ามาอีก) เน้นถ่ายโบเก้ไปเลยและให้ความสำคัญกับนางแบบ (ระยะที่เหมาะสมคือประมาณ 2 เมตร) สามารถเร่งโบเก้ให้เด่นชัดขึ้นมาโดยมีโบเก้ ZEISS ให้ได้เลือกใช้งานกันถึง 7 รูปแบบ รีวิวตรงนี้คงจะไม่หมดเอาเป็นว่าต้องไปลองถ่ายลองเล่นเอง
กล้องหน้า
ความละเอียด 50MP ให้ความคมชัดสูงสามารถเปิดโหมด ZEISS Group Selfie ที่ให้มุมกว้าง 92 องศา (ถ่ายได้ทั้งระยะ 0.8x, 1x และ 2x มีโหมดบิวตี้ที่ช่วยให้การถ่ายภาพสวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สามารถเปิดโหมด ZEISS Portrait เพื่อใช้งานร่วมกับกล้องหน้า จึงสามารถเลือกปรับโบเก้ได้ตามสะดวกถึง 5 รูปแบบด้วยกัน คุณภาพสามารถบวกกับรุ่นเรือธงได้อย่างสบาย
พวกภาพวิวก็ถือว่าถ่ายได้สุดมาก แม้กระทั่งถ่ายในตอนกลางคืนหรือในช่วงแสงน้อย ก็ยังสามารถเก็บรายละเอียดของแสงได้ดี ไม่มี Noise เข้ามารบกวนในภาพ ถือว่าค่อนข้างประทับใจมากที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลาง ๆ พกเพียงแค่เครื่องเดียวจบไปเที่ยวได้เลย คุณภาพออกมาไม่ผิดหวัง จะเป็นช่วงฝนตกก็สามารถหยิบออกมาถ่ายได้แบบไม่ต้องกังวล เพราะทนน้ำทนฝุ่น IP68
โดยปกติแล้วเลนส์มุมกว้างถ้าเป็นสมาร์ทโฟนทั่วไป จะลดความละเอียดลงมา แต่สำหรับ vivo V40 5G ยังคงให้ความละเอียด 50MP ที่มุมกว้าง 119 องศา ช่วยให้ชัดคมทั้งภาพมากกว่าคำว่า “แค่พอใช้งานได้” แต่นี่คือภาพมุมกว้างที่คุณภาพดีเยี่ยม สามารถเอาไปใช้ปรับแต่งหรืออัปโหลดขึ้น Social Media ได้แบบไม่ต้องเขิน อีกทั้งยังมีโหมดมาโครให้ได้เลือกใช้งานอีกด้วย
บางแต่ยังทรงพลัง
สำหรับรุ่น vivo V40 5G มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานกับระบบปฏิบัติการของตัวเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับ RAM 12GB และหากไม่พอก็ Extended RAM ได้อีก 12GB เรื่องการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมสเปกแบบโหด ๆ ยังไงก็เอาอยู่แบบสบายมาก แถมชิปแรงกว่าอดีตเรือธงอย่าง Snapdragon 870 ด้วยนะ
จอสวยแถมได้ลำโพงคู่
หน้าจอเป็น AMOLED ที่ความละเอียด 1.5K ดูหนังหรือเล่นเกม (รวมถึงแต่งรูป) ได้แบบคมชัด สามารถสู้แสงภายนอกได้อย่างดีเพราะมีจุดความสว่างเฉพาะสูงสุด 4500nits และหลังจากแฟนคลับเรียกร้องมานาน vivo ก็ได้จัดให้ตามคำขอกับ ลำโพงคู่ เพิ่มเสียงและมิติในการรับชมความบันเทิง ส่วนแบตเตอรี่ก็เหลือ ๆ กับความจุ 5500mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68
แม้ว่าตัวเครื่องจะเพรียวบาง แต่ก็ยังมาพร้อมกับความสามารถในการป้องกันการเข้าซึม ให้คุณมั่นใจได้มากกว่าเดิมแม้ในช่วงฝนตก ด้วยมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 ช่วยให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบมาตรฐาน vivo ในกว่า 70 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกดทับ การบิดงอ ปุ่มและพอร์ตต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการตกหล่น เพื่อให้ได้ออกมาเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ได้จริงในทุกวัน
ข้อดี
- กล้องเลนส์ ZEISS ครบทุกระยะ
- ดีไซน์โมดูลกล้องใหม่ Gemini Ring
- กล้องหน้า ZEISS ความละเอียด 50MP
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3
- แบตเตอรี่ 5500mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W
- ครั้งแรกกับลำโพงคู่และมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68
ข้อเสีย
- ถ้าอยากได้ระยะซูมเพิ่มขึ้นต้องอัปเกรดเป็น V40 Pro 5G
สรุป
สำหรับรุ่น vivo V40 5G ราคาอยู่ที่ 15,999 บาท (12/256GB) และ 17,999 บาท (12/512GB) ราคาค่อนข้างทำได้ดีเลยทีเดียวหากเทียบกับคุณภาพ และใครที่มีงบประมาณหมื่นกลาง ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนกล้อง #พอร์ตเทรตเปิดเกิดทุกคน กันได้แล้ว ส่วนตัวมองว่านอกจากกล้องแล้วรุ่นนี้ยังมีความเด่นหลายเรื่อง ทั้งสเปก ดีไซน์ และความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ vivo พยายามใส่มาให้กับรุ่นนี้ แต่หากใครอยากได้กล้องระยะซูมเพิ่มมากขึ้นก็สามารถอัปเกรดไปที่ vivo V40 Pro 5G ได้เช่นกัน แต่ส่วนตัวผู้รีวิวใช้แค่รุ่นนี้ก็ประทับใจมากแล้วในเรื่องกล้อง
พิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 2 กันยายน – 30 กันยายน 2567 จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณมูลค่ารวมสูงสุดกว่า 12,298 บาท ประกอบด้วย
- หูฟัง vivo TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท เฉพาะผู้ที่ซื้อรุ่น V40 Pro 5G)
- V40 Series 5G Premium Gift Box (มูลค่ารวม 10,499 บาท) ภายในประกอบด้วย เคสใส 1 ชิ้น ตัวยึดกับเคสสีพีช 1 ชิ้น สายคล้องข้อมือแบบเชือกสีดำ 1 ชิ้น กระเป๋าใส่เหรียญสีดำ 1 ใบ และ E-VIP รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก
พิเศษยิ่งขึ้น! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อในรูปแบบ Walk-In ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา รับเพิ่มทันทีหูฟัง vivo TWS 3e สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 5G และส่วนลด 500 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ V40 Pro 5G
หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial