เรื่องศูนย์บริการหลังการขาย ไม่ว่าแบรนด์ไหนก็มีดราม่า Pantip กันทั้งนั้น LG, Samsung, Dell ยังพอมีมาตรฐานการให้บริการอยู่บ้างต่างจาก AOC จอคอมพิวเตอร์จากจีน ที่มีบริการหลังการขายสุดแสนจะ OTOP ที่มีประกันก็เหมือนไม่มี อารมณ์เหมือนวานช่างหน้าปากซอยให้ซ่อมให้ ที่ช่างว่างเมื่อไหร่อยากมาวันไหนก็มา
AOC I2367FH
แรกเริ่มเดิมทีเมื่อวันที่ 27/02/15 ผมเองได้สั่งหน้าจอ AOC จากทาง Lazada โดยทางบริษัทฯ เป็นผู้ขายและจัดจำหน่ายเอง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดปกติอะไรใช้โค้ดส่วนลดไปพันนึงเหลือ 4,090 บาท นับว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างถูกด้วยซ้ำสำหรับหน้าจอ LED 23″ ความละเอียด 1080P
แต่นับเป็นการตัดสินใจที่ผิด
อันที่จริงก่อนหน้านี้ผมเล็ง LG และ Dell ที่มีขนาดหน้าจอพอกันแต่ Panel ดีกว่า แน่นอนว่าราคาย่อมสูงกว่าประมาณ 6-8 พันบาท แต่ด้วยความงกและคิดว่าไม่น่าจะต่างกันมากเท่าไหร่ และไม่คิดว่าจอมอนิเตอร์น่าจะเสียง่าย ๆ เลยตัดสินใจเลือก AOC ที่เป็นแบรนด์รองจากจีน ส่วนผลรีวิวในไทยและต่างประเทศก็ถือว่า “สมราคา”
หลังจากได้สินค้ามาผิดหวังเล็กน้อย ตรงที่มีหน้าจอดูไม่ค่อยอิ่มตัวเท่าไหร่ แต่ด้วยราคาโอเคก็เข้าใจและคิดว่า LG หรือ Dell ในช่วงราคาเท่านี้ก็คงไม่ต้องหวังอะไรมากเหมือนกัน ใช้งานตามปกติมาปีกว่าจนกระทั่งพบความผิดปกติ (เล็กน้อย) บริเวณหน้าจอ
อาการเสีย
หลังจากใช้งานไปปีกว่าพบ Dead Pixel และ Bright Pixel ประมาณ 3-5 จุด ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นอาการเสียเล็กน้อยทั่วไปตามภาษา LED Display รอยลักษณะคล้ายกับ “รอยแตก” อยู่ภายในหน้าจอ (ความรู้สึกตอนนั้นคือไม่ซื้อมาเลย) แต่โชคยังพอตรวจสอบ การรับประกัน อยู่ที่ 3 ปี
AOC ไม่มีศูนย์บริการในไทย จึงใช้วิธีจ้างบริษัทอื่นดูแลหลังการขาย
สรุปได้ว่า AOC Thailand มีหน้าที่ขายอย่างเดียว อีกหนึ่งความหวังของผมคือ “งั้นฝากเคลมกับตัวแทนจำหน่ายสิ!” แต่พอมานั่งหมุนเครื่องดูแล้วสติ๊กเกอร์บริษัทนำเข้าอะไรก็ไม่มี (ไม่รู้ว่า Lazada ไปรับมาจากไหน) และสิ่งที่จำได้คือ Lazada ไม่มีบริษัทรับส่งหรือส่วนกลาง ผู้ซื้อจำเป็นต้องส่งไปรษณีย์กลับคืนอย่างเดียว งั้นเราคงต้องจัดการส่งซ่อมด้วยตัวเอง
และด้วยความที่ไม่ได้เป็นบริษัทฯ แบรนด์ใหญ่ในไทยเหมือน LG, SAMSUNG ที่มีศูนย์บริการทั่วประเทศ โชคดีที่ผมบ้านอยู่ กทม. จึงทำการค้นหาศูนย์บริการของ AOC พบว่าบริษัทฯ ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการคือ Axis Computer System Co., Ltd. 28 ซอยลาดพร้าว 120 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 แต่พอตรวจสอบหน้าเว็บไซต์แล้วพบว่ามีบริการ On-Site ภายในจังหวัดกรุงเทพฯ ในรัศมี 50 กิโลเมตร
ศูนย์บริการ
หลังจากใช้ความมุมานะจนได้เบอร์โทรมา เริ่มต้นติดต่อไปครั้งแรกที่เบอร์ 086-378-7750 เป็นระบบที่เคลมยากมากถึงมากที่สุด ลูกค้าต้องไปขุดหา S/N พร้อมทั้งแจ้งรหัสชื่อรุ่นเอง (ถ้าคนใช้ทั่วไปอาจไม่ทราบ) ติดต่อครั้งแรกวันที่ 19/09/16 เท่านั้นยังไม่พอหากต้องการส่งช่างไปหน้างาน ลูกค้าจำเป็นต้องถ่ายรูปอาการเสีย ส่งไปทางอีเมล์ @axiscomputer.co.th ขอบคุณครับสะดวกมาก
ความสนุกขั้นที่สองก็คือ “พนักงานไม่สามารถเช็คอีเมล์นั้นได้” เนื่องจากเป็นอีเมล์ของหัวหน้า ???
หลังจากนั้นผมย้ำอีกครั้งอย่างหนักแน่นว่าจะส่งช่างมาวันไหน เพราะผมเองก็อยู่ กทม. (บางนา) ไม่น่าจะเช็คคิวยาก เว้นเสียแต่ทั้งบริษัทคุณมีช่างแค่คนเดียว พนักงานก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงสรุปได้ใจความว่า “ลูกค้ารอไปก่อนเดี๋ยวช่างว่างแล้วจะติดต่อคิวไปเอง” ขอบคุณครับสะดวกมาก
ผ่านไปมากกว่าหนึ่งเดือน
(สงสัยคิวช่างจะยาวมาก) ไร้ซึ่งการติดต่อใด ๆ มาจากศูนย์บริการ จึงลองติดตามวิธีอื่นเผื่อเร็วขึ้นด้วยการไปถาม AOC Monitor ให้ช่วยติดตามเคสให้หน่อยเผื่อคุณจะมีอำนาจมากกว่าลูกค้าตาม ทีมงานรับปากจะประสานงานให้
สรุปคือ “เลว” พอกัน
ผ่านไป 10 วัน ไม่รู้ว่าประสานงานกันด้วยซองจดหมายหรือยังไง ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น พอถามกลับไปใน Fanpage อีกครั้งได้คำตอบสุดฉลาดว่า “ตามทาง ศูนย์บริการหรือยังครับ” อ่าว … สรุปที่เมื่อ 10 วันที่แล้วรับปากว่าจะประสานงานให้ คือเป็นคำตอบส่งเดชไปวัน ๆ สินะ!
สรุปวันนี้ 28/10/16 หมดเวลาไปเดือนกว่าทั้งโทรไปศูนย์บริการ ติดต่อผ่านทาง Fanpage (เขามีหน้าที่ขายอย่างเดียวอย่าไปว่าเขา) ทุกอย่างหายไปกับสายลม ราวกลับเรื่องทุกอย่างไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ต้องเริ่มต้นใหม่
ลองใหม่ (อีกครั้ง)
ผมลองติดตั้งด้วยการโทรไปที่ศูนย์บริการอีกครั้ง เพื่อทำการติดตามเคสคนรับสายบอกอันนี้เป็นเบอร์ส่วนกลาง คราวที่แล้วคุณติดต่อกับใคร ? โอเค … ผมผิดเองที่ไม่ได้จำชื่อไว้ ไม่คิดว่าระบบคุณจะห่วยขนาดนี้ (แต่ผมมีหลักฐานการส่งเมล์นะ) ครั้งนี้ผมจึงไม่พลาดที่จะถามว่าเธอชื่อสุธา … เป็นแอดมิน
AOC ไม่รับประกันหน้าจอแตก ต่อให้คุณจะวางไว้เฉย ๆ แล้วมันเกิดรอยร้าวเอง และไม่มีตำหนิใดก็ตาม
จากการคุยทางโทรศัพท์ เหมือนกับพยายามจะบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบอย่างเดียว (ลองเลื่อนไปดูภาพด้านบนที่จอเป็นเส้นเหมือนรอยราว) ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการอธิบายทางโทรศัพท์ หรือผมพูดไม่รู้เรื่องเองก็ได้ ซึ่งผมเองก็ได้อธิบายแล้ว ว่ามันไม่ได้เกิดจากการใช้งานผิดประเภทหรืออุบัติเหตุ มันเกิดจากปัญหาสินค้าจะปฎิเสธความรับผิดชอบได้ยังไง และช่าง On-Site คุณก็มีไม่คิดจะส่งมาดูก่อนเลยหรือ ?
แล้วจะมีบริการ On-Site ทำมะเขืออะไรครับ ในเมื่อลูกค้าต้องแจ้ง S/N รวมถึงรหัสรุ่นเอง ถ่ายรูปอาการเสียแล้วส่งไปเอง (ดีไม่ให้วิเคราะห์หาวิธีซ่อมให้ด้วย) แถมศูนย์บริการไม่คิดจะส่งช่างมาตรวจสอบใด ๆ ทั้งสิ้น เอาแต่ปฏิเสธความรับผิดชอบและถ่วงเวลาอย่างเดียว สุดท้ายได้คำตอบเหมือนเดิมคือ “เดี๋ยวช่าง (ว่าง) แล้วจะติดต่อไป” และระหว่างเขียนบทความนี้ผมก็ยังคงรออยู่
อัปเดตครั้งสุดท้าย
- ข่าวดี! ได้รับการติดต่อจาก Call Center ในวันศุกร์ที่ 28/10/16 ว่าจะมีช่างไปหน้างานวันจันทร์ที่ 31/10/16 ซึ่งเดี๋ยวยังไงช่างจะติดต่อไปอีกที
- ได้รับการติดต่อจากช่างในวันจันทร์ที่ 31/10/16 แต่ผมเองก็ปฎิเสธช่างไป เนื่องจากไม่ได้แบกจอมาที่ทำงานด้วย (กลัวโดนเบี้ยวนัดอีก แบกไปแบกมามันไม่สนุก) เนื่องจากครั้งที่แล้วก็ไม่ได้นัดอย่างเป็นทางการเท่าไหร่ จึงขอเลื่อนนัดไปเป็นวันศุกร์ที่ 04/11/16
- ได้รับการยืนยันอีกครั้งจาก Call Center ในวันพฤหัสที่ 03/11/16 และช่างมาตามที่สัญญาจริง 04/11/16 หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นอาการ “น่าจะ” อยู่ในประกัน จึงทำการขอยกจอกลับคืนบริษัทฯ เพื่อตรวจสอบ และได้สำรองหน้าจอใหม่ (รุ่นเดิม) ให้ใช้งานระหว่างรอ
- หลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ Call Center ติดต่อมาว่าเปลี่ยนจอตัวใหม่ให้ แต่เนื่องจากตัวผมเองขี้เกียจยกกลับมาเปลี่ยน จึงมาเปลี่ยนจึงขอแลกกับตัวระหว่างซ่อมไปซึ่งเป็นของใหม่เหมือนกัน ทางบริษัทฯ ตอบตกลงแบบนั้นก็ได้ (แล้วทำไมถึงไม่เสนอแบบนี้ตั้งแต่แรก)
- จบปัญหาสักที ต่อไปนี้คงเข็ดแล้วซื้อ Dell ดีกว่า
ถ้าอ่านรีวิวนี้จบคุณจะยังซื้อหน้าจอ AOC อยู่ก็ถือเสียว่ามันไม่มีประกันก็แล้วกัน