WD My Passport Ultra เป็นอุปกรณ์ยอดฮิตสำหรับคนสำรองข้อมูล ด้วยแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและราคาไม่สูงจนเกินไป ถึงแม้ปัจจุบันการ Backup ส่วนใหญ่จะถูกแทนที่ด้วย Cloud ไปบ้างก็ตาม แต่สำหรับเรื่องราคาและความมั่นใจยังไงหน่วยความจำแบบจับต้องได้ก็ต้องมาเป็นที่หนึ่ง
WD My Passport Ultra 1TB
ความน่าสนใจของฮาร์ดดิสก์ภายนอกตัวนี้ก็คือ มันสามารถหาซื้อได้โดยง่ายแล้วก็ชื่อเสียงของ WD การันตีในคุณภาพ สามารถหาซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายหรือร้านอุปกรณ์ไอทีทั่วไป หรือถ้าอยากสั่งออนไลน์ก็ไปดูได้ที่ ShopAt7 ครับ ราคาอยู่ที่ 2,490 บาท
WD My Passport Ultra โฉมใหม่สำหรับตัวนี้ ความพิเศษของมันอยู่ตรงที่ “ซอฟต์แวร์ที่แถมมา” สามารถทำระบบ Automatic backup photos and files และการเข้ารหัสไฟล์แบบ 256-bit ความปลอดภัยแทบไม่ต่างจากการเข้ารหัสไฟล์ข้อมูลของธนาคารเลยทีเดียว
ยุคนี้แล้วหากใครยังซื้อ USB 2.0 ถือว่าตกรุ่น ดังนั้นฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้จึงเป็น USB 3.0 ตามสมัยนิยม ส่วนใครใช้อุปกรณ์รุ่นเก่าก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะใช้งานร่วมกันได้เหมือนเดิม
อีกหนึ่งความภูมิใจที่ผมเลือก WD ก็คือ “Product of Thailand” (อันนี้เป็นความชอบส่วนบุคคล) และอีกอย่างก็คือศูนย์บริการซึ่งถ้าหากคุณไม่รู้ว่าซื้อมาจากร้านไหน หรือไม่ได้เก็บกล่องไว้ ก็ยังสามารถเคลมผ่าน WD โดยตรงได้ที่ห้างพันทิพพลาซ่าครับ
วัสดุสวยงามมีให้เลือกหลายสีคำว่า “My Passport” หมายถึงเหมาะสำหรับพกพามีขนาดไม่ต่างจากพาสปอร์ตเท่าไหร่นัก ส่วนถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ทาง WD จะใช้คำว่า “My Book” แทนครับ
ด้านอื่น ๆ ก็ทำได้ค่อนข้างเนี๊ยบ สีทั้งตัวเป็นแบบสีด้านยกเว้นด้านบนอย่างเดียวที่เป็นมันเงา
เกริ่นเรื่องดีไซน์มาพอสมควรแล้ว ทีนี้เราจะมาทดลองใช้งานจริงกันบ้างครับ
ทดสอบใช้งานจริง
ทดสอบด้วยโปรแกรมที่คุ้นเคยกันดีอย่าง HD Tune Pro 5.60 ลองเทสได้แล้วไม่ต่างจากบล็อคของคุณ kafaak (ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่) ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 84.2 MB/s ซึ่งตรงนี้คุณก็ควรจะใช้ USB 3.0 เหมือนกับผมด้วยเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ความเร็วทดสอบในหน้า File Benchmark: Transfer speed ก็ถือว่าผ่านตามมาตรฐานทั่วไป
ทีนี้เราลองมาดูหน้า Random Access กันบ้างครับ เป็นการเขียนไฟล์แบบสุ่มในขนาดไฟล์ที่แตกต่างกัน หรือก็คือการเขียนไฟล์ขนาดเล็กเป็นจำนวนมากนั่นเอง
สำหรับความพิเศษก็คือ WD Apps Setup ที่แถมมาให้สามารถใช้งานได้ง่ายมาก หากคุณใช้เครื่อง Mac แล้วอ่านไฟล์ NTFS ไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา (มีแถมโปรแกรมตัวเต็มไปให้เลย) รวมถึงการรองรับ Dropbox และ WD Security ที่ช่วยให้ข้อมูลของคุณปลอดภัยกว่าเมื่อหายหรือเจออุบัติเหตุ
ข้อดี
- สามารถเคลมผ่านศูนย์บริการได้โดยตรง
- โปรแกรมที่แถมมากับฮาร์ดดิสก์
ข้อเสีย
- มีแต่สีพื้นไม่ค่อยมีสีสดใสเท่าไหร่
- ไม่มีซองแถมเหมือนรุ่นเก่า
สรุป
ฮาร์ดดิสก์ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็ไม่ค่อยต่างกันทั้งประสิทธิภาพและราคา แต่สำหรับ WD ที่คุณจะได้คือศูนย์บริการที่ยินดีรับเคลมสินค้ากับคุณโดยตรง (และรวดเร็วด้วย) อีกทั้งโปรแกรมที่แถมมาก็สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และที่สำคัญคือมันฟรี!