Plantronics Voyager 5200 บลูทูธสนทนารุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยี WindSmart ในการตัดเสียงรบกวนด้วยไมค์ 4 ตัว สามารถตัดเสียงลมได้ถึง 6 เลเยอร์ เปลี่ยนทุกสถานที่ให้กลายเป็นห้องเงียบที่มีเพียงแค่คุณและคู่สนทนา เหมาะสำหรับนักธุรกิจหรือผู้ใช้งานที่ต้องการเน้นคุณภาพเสียงเป็นพิเศษ

Plantronics Voyager 5200
Plantronics Voyager 5200

Plantronics Voyager 5200

ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 4,590 บาท ราคาเท่ากับ Plantronics Voyager Edge เลยทีเดียว แต่แตกต่างกันตรงที่รุ่นนี้ขายเคสชาร์จแยกต่างหาก (Charging case) ราคาอยู่ที่ 1,590 บาท แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสจะซื้อแต่ตัวหูฟังแล้วชาร์จผ่านสายเอาก็ได้ครับ

Plantronics Voyager 5200

สเปค | Plantronics Voyager 5200

  • Talk/standby time : เวลาสนทนาสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง / เปิดเครื่องรอรับสาย 9 วัน
  • Noise cancelling : ปรับแต่งเสียงด้วยเทคโนโลยี digital signal processing (DSP) ด้วยไมโครโฟน 4 ตัว Internal, adaptive 20-band equalizer, acoustic echo cancellation ระบบลดเสียงก้องและ sidetone detection
  • WindSmart technology : ไมโครโฟนที่สามารถกรองเสียงลมได้ถึง 6 ชั้น ผสมผสานการออกแบบองค์ประกอบต่าง ๆ ตามหลักพลศาสตร์ ผ่านขั้นตอนที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ
  • Multipoint technology : เชื่อมต่อสลับการใช้งานได้ 2 อุปกรณ์
  • Streams audio : สามารถฟังเพลง บอกทิศทาง เล่น podcasts หรือดูหนังสลับฟังเพลงพร้อมกันได้ 2 เครื่อง
  • Bluetooth v4.1 : Profiles: Phone Book Access Profile (PBAP), Audio/Video Remote Control Profile (AVRCP), Wideband Hands-free (HFP) Profile 1.6 and Headset (HSP) Profile 1.2
  • Moisture protection : ป้องกันความชื้นด้วยเทคโนโลยี P2i Nano Coating
  • Voice alerts : แจ้งสถานะการใช้งานหูฟังและระดับแบตเตอรี่ด้วยเสียงพูด
  • Updateable firmware : อัพเดท Firmware และเปลี่ยนภาษาสำหรับ Plantronics MyHeadset Updater tool: plantronics.com/us/support/myheadset/updater
  • Charge connector : สายชาร์จ Micro USB Charge time (maximum) ระยะเวลาชาร์จ 1.3 ชั่วโมง
  • Battery type : Rechargeable, non-replaceable lithium ion polymer
  • Headset battery meter : แสดงแบตเตอรี่หูฟังบนหน้าจออัตโนมัติบนระบบ iOS และ สำหรับ Andriod เมื่อเปิด App Plantronics Hub
  • Range : รัศมีทำการสูงสุด 30 เมตร
  • Weight : น้ำหนัก 20 กรัม

Plantronics - Voyager 5200 (3)

หน้าตาของ Plantronics Voyager 5200 ออกมาแนวผู้บริหารหน่อย ๆ ขนาดอาจไม่เล็กพกพาดูวัยรุ่นสักเท่าไหร่ (แต่ความจริงมันก็ขนาดไม่ได้หนีกันมาก) มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังใบหู ทำให้สามารถสนทนาต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ แล้วแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนบางรุ่นอาจหมดเสียก่อน ส่วนเปิดรอรับสายได้นาน 9 วัน หากใครใช้งานไม่บ่อยมากชาร์จอาทิตย์ละครั้งก็ยังได้

Plantronics - Voyager 5200 (4)

แกะมาภายในนอกจากจะประกอบไปด้วย Plantronics Voyager 5200 แล้วยังมีจุกหูฟังให้เลือก 3 ขนาด (ใส่มาแล้วหนึ่งอัน) แล้วก็สาย Micro USB พร้อมสายคล้องสุดเก๋จากทาง Plantronics ส่วนนอกจากนี้ที่ไม่ได้ถ่ายมาก็จะเป็นคู่มือและใบรับประกัน

Plantronics - Voyager 5200 (5)

แกะมาครั้งแรกก็พบกับการอัปเดต Firmware ซึ่งตรงนี้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดโปรแกรม MyHeadset Updater (Windows/Mac) หรือจะผ่านทางสมาร์ทโฟน (Android/iOS) ก็ยังได้ เพื่อจะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของ หูฟังบลูทูธ เพื่อให้สามารถใช้งานกับโปรแกรมสนทนาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Plantronics - Voyager 5200 (6)

ดีไซน์ออกแบบมาให้สามารถเกี่ยวได้ทั้งหูซ้ายและขวา เนื่องจากตัวหูฟังสามารถบิดหมุนได้อย่างอิสระ Bluetooth Headset สามารถป้องกันความชื้นจากเหงื่อได้ระดับหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี P2i Nano Coating รวมถึงสามารถกันละอองฝนบาง ๆ ได้อีกด้วย

Plantronics - Voyager 5200 (7)

หากคุณใช้ iOS ข้อดีก็คือไม่ต้องดาวน์โหลด App อะไรเลยเนื่องจากมี MFi (Made for iPhone/iPad) ทำให้มันจะแสดงสถานะแบตเตอรี่ตลอดเวลาที่มุมขวาบน ถัดมาจากสถานะแบตเตอรี่ของไอโฟนของเรานั่นเอง ส่วนสำหรับ Andriod จำเป็นต้องดาวน์โหลด App Plantronics Hub

Plantronics - Voyager 5200 (8)

ด้านบนเป็นปุ่มแบบกลไกที่เลื่อนเพื่อเปิดปิดได้ง่ายดาย ต่างจากบางรุ่นที่เป็นปุ่มแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีปุ่มเดียวแล้วต้องเดาสุ่มเอาว่ากดค้างกี่วินาทีเพียงปิด ฯลฯ แบบนี้ง่ายและชัวร์มากกว่า แถมใช้ดูได้ด้วยว่าปิดหรือเปิดอยู่

Plantronics - Voyager 5200 (9)

ปุ่มด้านบนสำหรับปรับเสียงมีขนาดใหญ่แถมระยะห่างกันชัดเจน ตอนแรกอาจงงสักนิดแต่สักพักก็จะเริ่มเคยชินเองในที่สุด (ตัวอุปกรณ์มีปุ่มค่อนข้างเยอะ) ส่วนปุ่มสีแดงที่เห็นไกล ๆ จะเป็นปุ่มสำหรับเรียก Siri หรือ Google Now (ขึ้นอยู่กับเป็นสมาร์ทโฟน)

Plantronics - Voyager 5200 (10)

เห็นขาของหูฟังบลูทูธสามารถบิดหมุนได้หลายทิศทางก็จริง แต่ก็ยังคงความแข็งแรงอยู่ นอกจากนี้ยังมีข้อดีคือมันไม่เกะกะสามารถพับเก็บใส่กระเป๋าได้สะดวกมากกว่า

Plantronics - Voyager 5200 (11)

Charging case

ต่อมาดูที่อุปกรณ์ขายแยกอย่าง “เคสชาร์จ” กันบ้างค่าตัวสูงพอประมาณ (แอบดูสิ้นเปลือง) แต่หากพอได้วิเคราะห์ดี ๆ แล้วมันไม่ใช่เคสธรรมดาทั่วไป เนื่องจากมีแบตเตอรี่ในตัวไม่ต่างจาก Power Bank ตัวหนึ่ง ซึ่งราคาพันกว่าบาทนับเป็นเรื่องปกติ แถมนอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอื่นซ่อนไว้อีกด้วย

Plantronics - Voyager 5200 (12)

ไม่เพียงแค่ตัวเคสชาร์จจะสามารถจ่ายไฟให้กับ Plantronics Voyager 5200 ตอนจัดเก็บไว้เท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อสำหรับเป็นแทนชาร์จแบตเตอรี่แนวตั้งได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่เร่งรีบและจำเป็นต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลา ยึดติดกับเคสชาร์จด้วยระบบแม่เหล็ก เมื่อมีสายเข้ามาก็สามารถเสียบเข้าหูเพื่อสนทนาได้เลย

Plantronics - Voyager 5200 (13)

ส่วนปุ่มมุมนี้จะเป็นปุ่มสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ครับ หากเราต้องการเก็บหูฟังบลูทูธลงเคสเฉย ๆ แบบไม่ชาร์จไฟก็สามารถทำได้เช่นกัน สรุปว่าเป็นอุปกรณ์แบบ 2-In-1 ในตัวเดียว

Plantronics - Voyager 5200 (14)

ไหน ๆ ก็ราคาพันกว่าบาทแล้วจะให้ธรรมดาก็เกินไป ดังนั้นจึงมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ของ Plantronics Voyager 5200 และ Charging case ให้พร้อมสรรพเลยในตัว (ฟีเจอร์ขนาดนี้ไม่แพงแล้ว เชื่อว่าทางบริษัทฯ เอามาแยกขายเผื่อคนที่ไม่ต้องการมากกว่า)

การใช้งานจริงค่อนข้างสะดวก ถึงแม้จะดูเกะกะไปนิดสำหรับคนสวมแว่นตา ระบบ WindSmart ในการตัดเสียงรบกวนด้วยไมค์ 4 ตัว สามารถใช้งานได้ดีตามที่คุยไว้ (ชัดกว่าคุยด้วยสมาร์ทโฟนเสียอีก) นอกจากนี้ที่ไม่ได้พูดถึงคือภายในยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใช้งาน ฟีเจอร์ก็คือเมื่อเราไม่ได้สวมใส่หูฟังบลูทูธอยู่ เสียจะดังเข้าไปที่สมาร์ทโฟนตามปกติ และเมื่อหยิบมาสวมใส่ก็เท่ากับกดรับสายโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้การสั่งงานด้วยเสียงก็สามารถทำได้เช่นกัน (รับ/ไม่รับ)

ข้อดี

  1. ไมค์ตัดเสียงรบกวนถึง 4 ตัว
  2. คุณภาพเสียงดีมากถึงดีที่สุด
  3. พกพาสะดวกด้วยเคสชาร์จ
  4. รองรับ NFC และ Bluetooth 4.1

ข้อเสีย

  1. อาจไม่สะดวกสำหรับคนใส่แว่น
  2. ราคาค่อนข้างสูง และเคสชาร์จขายแยก

สรุป

ระบบตัดเสียงลมทำได้ดีน่าเหลือเชื่อ แต่หากใครบ้านไม่ได้อยู่ติดทะเลคงไม่ค่อยจำเป็นนัก (ประเทศเราลมไม่ค่อยแรงเท่าไหร่) แต่ที่เห็นชัดเลยคือเวลาซ้อนมอเตอร์ไซค์ หรือมีพัดลมอยู่ใกล้ ๆ มันสามารถตัดเสียงได้หมดแทบจะ 100% หากคุณเน้นคุณภาพเสียงในการสนทนา รับรองได้ว่าจะไม่ผิดหวัง

สามารถซื้อได้ผ่าน สถานที่จำหน่าย ภายใต้ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ บริษัท ซิสเท็ม 2000 จำกัด และสำหรับลูกค้าชาวไทยที่ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างถูกต้อง Best quality Best care ลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพิ่มระยะเวลารับประกันเป็น 2 ปี (เฉพาะตระกูล Voyager และ BackBeat ทุกรุ่น)

หมายเหตุ – บทความนี้เป็น Advertorial